หมอสมิทธิ์’ เปิดข้อมูลศูนย์พิษวิทยารามาธิบดี พบผู้ป่วยจากการใช้กัญชาเพิ่มขึ้นถึง 3.5 เท่า หลังปลดล็อค ชี้ปล่อยให้กัญชาเสรีโดยไม่มีการควบคุม ทำให้แพทย์ต้องทำงานหนักมากขึ้น ลั่นอย่าอ้างว่าเพื่อการแพทย์ เพราะส่วนใหญ่ใช้เพื่อสันทนาการ
นพ.สมิทธิ์ ศรีสนธิ์ นายกสมาคมแพทย์นิติเวชแห่งประเทศไทย และกรรมการแพทยสภา ได้ออกมาโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงกรณี หลังปลดล็อคให้กัญชาเสรี ทำให้มีผู้ป่วยจากการใช้กัญชาเพิ่มขึ้นถึง 3.5 เท่า
โดยระบุว่า ศูนย์พิษวิทยารามาธิบดี พึ่งออกข้อมูลเกี่ยวกับกัญชามาตาม link นี้ https://www.facebook.com/100070557481942/posts/234659562229292/?sfnsn=mo กับตามรูป ผมขอสรุปประเด็นที่สำคัญแบบสั้นๆ คือ
“หลังปลดล็อคให้กัญชาเสรีมีผู้ป่วยจากการใช้กัญชาเพิ่มขึ้นถึง 3.5 เท่า ส่วนใหญ่ใช้กัญชาเพียงอย่างเดียวไม่มีสารอื่น และส่วนใหญ่ใช้เพื่อสันทนาการหรือทดลองใช้”
สรุปแบบยาวตามนี้ครับ
1. มีผู้ป่วยจากกัญชาเพิ่มขึ้นประมาณ 3.5 เท่า คือมีผู้ป่วยจากการใช้กัญชา แล้วมาปรึกษาศูนย์พิษวิทยารามาธิบดีเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนหลังปลดล็อคกัญชาเสรีในเดือนมิถุนายน (เก็บข้อมูลสามเดือน มิ.ย.-ส.ค.) โดยปกติมีผู้ป่วยประมาณ 20 กว่าคนต่อเดือน กลายเป็น 68-75 คนต่อเดือน
2. ร้อยละ 76 ใช้กัญชาอย่างเดียว ขอเน้นเรื่องนี้ด้วยครับเพราะชอบมีคนอ้างว่าเกิดจากการใช้ร่วมกับสารเสพติดตัวอื่น
3. ร้อยละ 68 ใช้เพื่อสันทนาการหรือทดลองใช้ แต่มีเพียงร้อยละ 7.5 ใช้เพื่อรักษาโรค แสดงให้เห็นว่าส่วนใหญ่ใช้เพื่อสันทนาการ ไม่ได้ใช้เพื่อการแพทย์ตามจุดประสงค์ที่รัฐบาลอ้าง
4. เจอผู้ป่วยอายุน้อยกว่า 18 ปีจำนวน 39 คน (ร้อยละ 18) และเป็นการใช้เสพเพื่อนันทนาการ 21 คน แสดงให้เห็นว่าป้องกันการเข้าถึงกัญชาในเด็กยังไม่ดีพอ ซึ่งกัญชามีผลต่อสมองโดยเฉพาะในเด็ก จึงมีผลกระทบมาก
5. มีคนต้องแอดมิดทั้งหมด 126 คน (ร้อยละ 59) แสดงให้เห็นชัดว่า มีผู้ป่วยที่รุนแรงเกินครึ่ง
6. มีคนเจ็บป่วยหนักจนต้องใส่ท่อช่วยหายใจ 7 คน โดยหนึ่งรายเป็นเด็กอายุ 14 ปี ใช้กัญชาอย่างเดียวจนง่วงซึมไม่รู้สึกตัว จนต้องใส่ท่อช่วยหายใจเพื่อช่วยชีวิต
7. มีคนตาย 1 คน เกิดจากการใช้กัญชาร่วมกับสารเสพติดอื่น ซึ่งจะเสริมฤทธิ์กันได้
สุดท้ายขอสรุปว่า เห็นชัดเจนแล้วนะครับว่าการปล่อยให้กัญชาเสรีโดยไม่มีการควบคุม ทำให้แพทย์ต้องทำงานหนักมากขึ้น สูญเสียทรัพยากรในทางการแพทย์มากขึ้นชัดเจน และอย่าอ้างว่าเพื่อการแพทย์ เพราะส่วนใหญ่ใช้เพื่อสันทนาการ
อีกเรื่องหนึ่งคือข้อมูลนี้ควรออกมาเป็นทางการจากทางรัฐบาล ประเทศอื่นที่ให้เสรีก็จะมีข้อมูลแบบนี้ให้ประชาชน เพื่อเตือนประชาชนถึงโทษของกัญชา ไม่ใช่บอกแต่ข้อดีแบบปัจจุบันนี้
.
ข้อมูลผู้เจ็บป่วยที่มีประวัติสัมผัสกัญชา และปรึกษามายังศูนย์พิษวิทยารามาธิบดี ในช่วงเดือนมิถุนายน ถึง สิงหาคม พ.ศ. 2565
ในช่วงเวลาดังกล่าวมีจำนวนผู้ป่วยจากการสัมผัสกัญชา ทั้งสิ้น 212 คน โดยมีการปรึกษามาในช่วงเดือนต่างๆดังนี้
- เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2565 จำนวน 68 คน (ข้อมูลในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2564 และ มิถุนายน พ.ศ. 2563 มีจำนวนผู้ป่วย 21 คน และ 15 คน ตามลำดับ)
- เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2565 จำนวน 75 คน (ข้อมูลในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2564 และ กรกฎาคม พ.ศ. 2563 มีจำนวนผู้ป่วย 26 คน และ 20 คน ตามลำดับ)
- เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2565 จำนวน 69 คน (ข้อมูลในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2564 และ สิงหาคม พ.ศ. 2563 มีจำนวนผู้ป่วย 20 คน และ 27 คน ตามลำดับ)
- ในจำนวนนี้เป็นผู้ได้รับกัญชาเพียงสารเดียว 161 คน (ร้อยละ 75.9) มีผู้ป่วยได้รับสารอื่นร่วมจำนวน 51 คน (ร้อยละ 24.1) สารที่พบร่วมด้วยบ่อยได้แก่ กระท่อม 19 คน สุรา 13 คน และ สารในกลุ่มแอมเฟตามีน 8 คน
ผู้ป่วยร้อยละ 35.4 (75 คน) เป็นผู้ไม่เคยใช้หรือได้รับกัญชามาก่อน - ศูนย์พิษวิทยารามาธิบดีขอให้ประชาชนเฝ้าระวังการใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาของตนเองและบุคคลรอบตัว ควรใช้ในทางการแพทย์อย่างถูกต้องเท่านั้น และไม่สนับสนุนการใช้ด้วยวัตถุประสงค์อื่นนอกเหนือจากการแพทย์ https://www.rama.mahidol.ac.th/poisoncenter/th/news/event/07jun2022-1448-th หมายเหตุ: ข้อมูลเพิ่มเติม ช่วงอายุของผู้ป่วย 2 - 80 ปี
มีผู้ป่วยอายุน้อยกว่า 18 ปีจำนวน 39 คน (ร้อยละ 18.4) ได้รับโดยไม่เจตนา 6 คน ทดลองใช้ 11 คน ใช้บรรเทาอาการป่วย 1 คน ใช้เสพนันทนาการ 21 คน