เด็กนักเรียนประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตญาติบริจาคอวัยวะไปช่วยเหลือผู้อื่นได้อีก 4 ราย ยายเผยหลานเคยบอกไว้ว่าอยากบริจาคอวัยวะ
วันที่ 15 ธ.ค.2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ศูนย์รับบริจาคอวัยวะโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ นายแพทย์นิติ เหตานุรักษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเพชรบูรณ์พร้อมด้วยผู้บริหารมอบเกียรติบัตรและหรีดเคารพศพของศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย และศูนย์ดวงตาสภากาชาดไทย ให้แก่นายพัชรพล มีศิลป์ อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนซับบอนวิทยาคม ต.กันจุ อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ที่เสียชีวิตและญาติได้บริจาคอวัยวะและกระจกตาเพื่อนำไปช่วยเหลือผู้อื่นได้อีก 4 ราย โดยมีนางสร้อยสุดา มีศิลป์ อายุ 38 ปี(แม่) และ นางรำพัน มีศิลป์ อายุ 56 ปี (ยาย) เป็นตัวแทนรับมอบ
นางรำพัน มีศิลป์ อายุ 56 ปีได้เปิดเผยว่านายพัชรพล มีศิลป์ อาศัยอยู่กับตนเองตั้งแต่เด็กเนื่องจากแม่ต้องไปทำงานต่างจังหวัด ปัจจุบันเรียนหนังสืออยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/2 โรงเรียนซับบอนวิทยาคม ต.กันจุ ที่ผ่านมานายพัชพลมีจิตใจที่เป็นจิตอาสา มีความเสียสละ ชอบช่วยเหลือเพื่อน ๆ และช่วยเหลืองานต่าง ๆ ของโรงเรียนมาโดยตลอด เมื่อสามารถบริจาคโลหิตได้ จึงได้ไปบริจาคโลหิตทุก ๆ 3 เดือนโดยครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 14 ก.ย.2565 และตั้งใจไว้ว่าวันที่ 15 ธ.ค.2565 นี้จะไปบริจาคอีก แต่ก็มาประสบอุบัติเหตุเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 12 ธ.ค.2565 เสียก่อน
โดยก่อนเกิดเหตุนายพัชรพลได้ขับรถจักรยานยนต์ไปหาเพื่อนและได้เกิดอุบัติเหตุชนกับรถยนต์ทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสและนำตัวส่งโรงพยาบาลบึงสามพัน แต่เนื่องจากอาการสาหัสมาจึงได้ส่งต่อมารักษาที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ แต่แพทย์ได้แจ้งว่าก้านสมองตาย ซึ่งถือว่าเสียชีวิตแล้ว และได้มีพยาบาลเข้ามาพูดคุยถึงเรื่องบริจาคอวัยวะเพื่อช่วยเหลือชีวิตผู้อื่น ตนเห็นว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สามารถนำอวัยวะไปช่วยเหลือผู้อื่นได้ อีกทั้งซึ่งที่ผ่านมาหลานชายได้พูดเสมอว่าอยากจะบริจาคอวัยวะให้กับโรงพยาบาล ซึ่งถ้าหากพร้อมเมื่อไหร่ก็จะไปบริจาคทันที ตนจึงตัดสินใจทำตามความตั้งใจของหลานเป็นครั้งสุดท้าย และบุญกุศลในครั้งนี้ขอให้หลานชายไปสู่ภพภูมิที่ดี เกิดชาติหน้าขอให้สมหวังในสิ่งที่ตั้งใจ โดยหลานชายตั้งใจอยากจะเป็นทหารรับใช้ชาติ เมื่อเรียนจบแล้วจะไปสมัครเป็นทหาร แต่ก็มาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตเสียก่อน
นางชไมพร สีทอง พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ หัวหน้าศูนย์รับบริจาคอวัยวะโรงพยาบาลเพชรบูรณ์เปิดเผยว่าคนไข้ได้รับอุบัติเหตุถูกส่งตัวมาจากโรงพยาบาลบึงสามพัน เมื่อมาถึงแพทย์ได้ทำการตรวจรักษาพบว่าก้านสมองตาย ซึ่งในทางการแพทย์ถือว่าเสียชีวิตแล้ว จึงได้ไปแจ้งญาติพร้อมทั้งแจ้งถึงโครงการบริจาคอวัยวะของสภากาชาดไทย ซึ่งญาติก็ได้ตัดสินใจยินดีที่จะบริจาคทันที เพราะเป็นความประสงค์ของผู้เสียชีวิต ซึ่งอวัยวะที่ได้ประกอบด้วยกระจกตา 2 ข้าง ไต 2 ข้าง สามารถนำไปช่วยเหลือผู้ป่วยรายอื่นอีก 4 ราย ทั้งนี้ผู้เสียชีวิตรายนี้มีร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง และญาติประสงค์ที่จะบริจาคอวัยวะทุกส่วนที่สามารถไปช่วยชีวิตคนอื่นได้ แต่เนื่องจากมีข้อจำกัดในการเดินทางระหว่างการขนส่งอวัยวะที่สำคัญเช่นหัวใจ ที่จะต้องเปลี่ยนถ่ายจากผู้ให้ไปผู้รับ ต้องใช้ระยะเวลาไม่เกิน 4 ชั่วโมง ซึ่งเพชรบูรณ์ไม่มีเที่ยวบินที่จะมารับหรือขนส่งได้ตามกำหนดระยะเวลา จึงเป็นสิ่งที่น่าเสียดายเป็นอย่างมาก เพราะไม่เช่นก็สามารถได้หัวใจและตับเพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ป่วยเพิ่มได้อีกถึง 2 ราย
