พริตตี้ช็อกถูกมอมยาตื่นในม่านรูดไอ้หื่นฟื้นขอเบิ้ล อึ้งเพื่อนหิ้วสังเวย (คลิป)

14 ธ.ค. 65

กรณีที่สำนักงานทนายคู่ใจ ของทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ มีนางสาวพลอย อายุ 24 ปี พริตตี้สาว เดินทางมาขอความช่วยเหลือเพื่อให้ติดตามความคืบหน้าของคดี ภายหลังเหตุเกิดเมื่อวันที่ 29 ก.ย. 65 โดยหลังจากเสร็จจากงานกินเลี้ยงฉลองจบงาน ปรากฏว่าถูกนายจ้างซึ่งทำหน้าที่เป็นซุปเปอร์ไวเซอร์ ในการดูแลสาวพริตตี้และสาวเอ็มซี มีการลวงเข้าโรงแรม และมีการกระทำอนาจาร ในขณะที่ตัวของพริตตี้อยู่ใตอาการมึนเมา คาดว่าเกิดจากการถูกมอมยา

392244

วันที่ 14 ธ.ค. 65 นางสาวพลอย อายุ 24 ปี พริตตี้ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนเองทำงานรับงานฟรีแลนซ์ ซึ่งในวันนั้นได้มีการรับงานเป็นการแจกเครื่องดื่มชูกำลัง รับงานเรตเพียงแค่ 800 บาท ทำงาน 2 ช่วง 08.00 น. และ 16.00 น. ซึ่งในทีมงานทั้งหมด ก็จะมีคนที่ทำหน้าที่เป็นคนดูแลหรือเรียกว่าซุปฯ โดยวันนั้นได้มีการเปลี่ยนทีมทำงานใหม่ ซึ่งเจอกับนายฟ๊ะ คนก่อเหตุครั้งแรก แต่การทำงานก็เข้าใจว่าด้วยความเป็นซุปก็มักจะทำหน้าที่ในการดูแลน้อง ๆ ในทีม เช่นเดียวกับเหตุการณ์หรือการรับงานครั้งอื่น ก็ไม่ได้มีการระวังตัวอะไรทำงานกันตามปกติ

668216

จนกระทั่งจบงานช่วงเวลาหลัง 20.00 น. ทุกคนลงความเห็นกันว่าหลังจากที่จบงานแล้วอยากจะไปเลี้ยงสังสรรค์เพื่อปิดจ็อบ จึงได้นัดหมายเจอกันที่ร้านอาหารในซอยมหาดไทย ย่านลาดพร้าว โดยภายในร้านนั้นก็ได้มีการดื่มกินกันตามปกติ แต่ตนเองอยู่ในช่วงของการลดน้ำหนัก จึงไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากนัก ก็เลยตัดสินใจสั่งเหล้าปั่นมานั่งกิน ในวงของการกินข้าวร่วมกันนั้นก็มีเพื่อนคนอื่นมาร่วมด้วย รวมถึงตัวของนายฟ๊ะ ตนเองสังเกตความผิดปกติหลังจากที่กินเหล้าปั่นไปได้ไม่มาก แล้วลุกไปเข้าห้องน้ำ เพราะมีเพื่อนคนหนึ่งคือนางสาวเบนซ์ มีการชักชวนให้ไปเข้าห้องน้ำพร้อมกัน กลับมาก็มานั่งกินกันต่อ กินไปได้อีกไม่มากเริ่มมีอาการเมาผิดปกติ ไม่รู้ว่าระหว่างที่ลุกไปเข้าห้องน้ำนั้นมีการหยอดยาหรือมีอะไรแปลกปลอมเข้ามาภายในโถเหล้าปั่นหรือไม่

139964

เมื่อผ่านไปซักระยะ ตนเองเริ่มเมาหนัก บอกกับกลุ่มเพื่อนว่า ”แยกย้ายกลับบ้านกันเถอะ” ตอนนั้นได้มีเพื่อนที่ขับรถเก๋งมาจะพากันไปส่งแต่ละคนกลับ แต่ตัวของคนก่อเหตุตะโกนขึ้นมาว่า ”ไม่ต้องเดี๋ยวพี่จัดการเอง” วันนั้นตัวของคนก่อเหตุพร้อมกับนางสาวเบนช์ จึงพาตนเองซ้อนรถมอเตอร์ไซค์ซ้อนสามออกจากร้าน โดยอ้างว่าจะไปส่งที่หอเพื่อน ตอนที่มีการนั่งรถมอเตอร์ไซค์ออกจากร้าน ตนเองไม่ได้สติ เพราะเกิดจากอาการเมา

หลังจากนั้นตื่นขึ้นมาอยู่ที่โรงแรม ย่านลาดพร้าว 130 หันซ้ายมองขวาหลังจากที่ได้สติ ไม่เห็นนางสาวเบนซ์ เพื่อนสาวที่มาด้วยกัน แต่มีเพียงนายฟ๊ะ คนก่อเหตุที่อยู่ภายในห้องกับตนเอง หลังจากที่ได้สติปรากฏว่า ตัวของคนก่อเหตุได้หมาขึ้นคร่อม พร้อมกับพยายามกระทำอนาจารตนเอง ตอนนั้นตนเองก็ขัดขืน กระทั่งตัวของคนก่อเหตุพยามใช้นิ้วในการสอดใส่ที่อวัยวะเพศ และพยามที่จะไซร้คอ ตนเองจึงใจดีสู้เสือ พยามที่ออกอุบายหลอกล่อเพื่อเอาตัวรอด แกล้งหยิบโทรศัพท์ แต่ได้มีการส่งข้อความพร้อมกับส่งโลเกชันไปบอกเพื่อนให้มารับ คนก่อเหตุพูดว่า "ตอนที่หนูหลับไป พี่ก็ทำแล้ว 1 ครั้ง ต่อรอบ 2 จะเป็นไรไป" แต่ส่วนตัวรู้สึกตัวและสังเกตอาการตัวเอง ยืนยันว่าไม่ได้มีการกระทำตอนหลับแน่ เพราะร่างกายปกติ แต่มารู้สึกตัวว่าถูกอนาจารก็ตอนที่ได้สติแล้วตื่นขึ้นมา

892101

หลังเกิดเหตุตนเองได้เดินทางไปแจ้งความที่ สน.ลาดพร้าว เป็นการแจ้งความในวันถัดไป ช่วงเวลาประมาณ 21.00 น. หลังจากนั้นก็ได้มีการไปตรวจร่างกาย ตรวจหาสารแปลกปลอมที่คาดว่าอาจจะเป็นยาที่ใช้ในการมอม ตนเองก็ได้ไปติดตามหาหลักฐานเอง เพื่อที่จะมามอบให้กับพนักงานสอบสวน

326067

โดยเฉพาะกล้องวงจรปิด นับตั้งแต่วันที่มีการเดินทางไปแจ้งความเอาไว้ กระทั่งล่าสุดเมื่อวันที่ 8 ธ.ค. ที่ผ่านมา พยายามติดตามทวงถามเกี่ยวกับความคืบหน้าทางคดี นักงานสอบสวนอ้างว่ามีการออกหมายเรียกไปแล้ว แต่ผู้ถูกกล่าวหายังไม่ได้มาพบกับพนักงานสอบสวน ยังไม่สามารถที่จะสอบสวนหรือแจ้งข้อกล่าวหาได้ ตนเองจึงได้เดินทางมาร้องขอความเป็นธรรมกับทนายรณณรงค์

949032

ตนเองยอมรับว่าค่อนข้างอยู่ในอาการผวาหวาดกลัว ในงานมอเตอร์โชว์ที่ผ่านมาก็ได้มีโอกาสไปงานเดียวกันแล้วบังเอิญเจอหน้ากับคนก่อเหตุ ซึ่งก็มีญาติของคนก่อเหตุเข้ามาจ้องหน้า พร้อมกับแสดงอาการไม่พอใจ พูดกับตนเองว่า "ยังสบายดีนะ" ตนเองจึงค่อนข้างหวาดกลัว

913334

นอกจากนี้ ยังมีหลักฐานยืนยันเกี่ยวกับการเปิดใช้บริการ ของห้องพักภายในโรงแรมแห่งหนึ่ง ย่านลาดพร้าว 130 โดยเป็นหลักฐานยืนยันว่าตัวของผู้ถูกกล่าวหามีการเปิดใช้บริการห้อง มีการแนบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนเอาไว้ ซึ่งสามารถชี้ได้ว่าห้องดังกล่าวเป็นห้องที่เกิดเหตุ และถูกกระทำอนาจารจริง

901852626011

ทนายรณรงค์ ให้หลักฐานกับทีมข่าวเพิ่มเติม แชตการพูดคุยระหว่างนางสาวพลอย ผู้เสียหาย กับนายฟ๊ะ หลังจากเกิดเหตุ โดยมีข้อความที่ปรากฏชัดทำนองว่า "ไม่รู้สึกดิหลับขนาดมีแต่เสียง ,10000 ให้พี่นะ ทำพี่อะ พี่เสียใจ, รักกันใว้เถิด นะๆๆๆ 555 ก็น้องน่ารัก พี่เลยอดใจไม่ใหวจิงๆ พี่ห้ามใจตัวเองแลเว"

150789

ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ เผยว่า หลังจากที่ตนเองทราบเรื่องร้องเรียนจากนางสาวพลอย ตนเองเตรียมที่จะพาไปติดตามความคืบหน้าและไปสอบถามกับพนักงานสอบสวนที่โรงพัก สน.ลาดพร้าว โดยเข้าใจว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตั้งแต่เดือนกันยายน แต่ทำไมตอนนี้คดียังไม่มีความคืบหน้า การพาผู้เสียหายเข้าไปนั้น จะไปสอบถามเกี่ยวกับผลการตรวจร่างกาย และผลการตรวจหาสารแปลกปลอม พร้อมทั้งจะไปเร่งรัดเกี่ยวกับการดำเนินคดีในข้อหากระทำอนาจาร และข้อหาทำให้เสียทรัพย์ เพราะเนื่องจากในวันเกิดเหตุนั้นตัวของคนก่อเหตุทำให้สร้อยคอของผู้เสียหายขาดเสียหาย

เบื้องต้นจากการกระทำของนายฟ๊ะ สามารถเข้าขาย และเอาผิดในข้อหากระทำอนาจารได้ แม้ว่าจะไม่มีหลักฐานอื่น โดยเฉพาะคลิป และกล้องวงจรปิดภายในโรงแรม แต่มีพยานคนสามารถชี้ชัดได้ ส่วนเรื่องของข้อกล่าวหาอื่น โดยเฉพาะเรื่องของการมอมยาก็ต้องรอดูผลตรวจร่างกายจากพนักงานสอบสวนก่อน แต่ก็มีความกังวลใจเล็กน้อยว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงกลางคืน แต่ไปแจ้งความช่วงค่ำอีกวัน และมีการส่งตรวจหลังจากนั้นกลัวว่าสารแปลกปลอมจะมีการตรวจไม่เจอหรือไม่

326364

ด้านนายพร้าว (นามสมมติ) พี่ชายของนายฟ๊ะ ผู้ถูกกล่าวหา เปิดเผยว่า ในวันที่มีการรับงานจากผู้ว่าจ้างให้ไปแจกเครื่องดื่มชูกำลัง ในวันนั้นตัวของนายฟ๊ะน้องชายเป็นคนรับงานในฐานะชุป โดยมีการว่าจ้างพริตตี้และสาวเอ็มซีไปช่วยงานเพิ่ม จากนั้นได้มีการว่าจ้างสตาฟไปช่วยงานอีกส่วน ซึ่งตนเองก็ได้รับงานไปช่วยในฐานะสตาฟ มีการจัดงานประมาณ 2-3 วัน หลังจากเสร็จงานก็ได้พากันไปเลี้ยงฉลองกันต่อที่ร้านอาหารภายในซอยมหาดไทย ย่านลาดพร้าว แต่ตนเองไม่ได้ไปด้วย

หลังจากนั้นตนเองเพิ่งมาทราบภายหลังว่าตอนที่เลิกจากร้านอาหารน้องชายไปเปิดโรงแรมให้กับนางสาวพลอย ผู้เสียหาย แต่ตนเองก็ไม่รู้ว่าตอนนั้นที่ไปเปิดให้เป็นเพราะว่าเห็นว่านางสาวพลอยเมาหรืออย่างไร เพราะไม่ได้อยู่ด้วยในเหตุการณ์ ทราบภายหลังว่ามีการแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาอนาจารกับน้องชาย ซึ่งก็เข้าใจว่าทั้งผลตรวจรวมถึงการเข้าไปให้ปากคำเป็นไปตามขั้นตอนแล้ว แต่ก็ไม่คิดว่าวันนี้จะมีการนำไปเผยแพร่ผ่านสื่ออีก

ถ้าหากจะให้ตนเองยืนยันความบริสุทธิ์ใจให้กับน้องชาย ก็ไม่สามารถพูดอะไรได้ เนื่องจากไม่ได้อยู่ด้วยในที่เกิดเหตุ และตนเองก็รู้ว่าเพียงแค่คน 2 คนน่าจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่ทั้งนี้ถ้าหากจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาในข้อหาอนาจาร ก็ต้องว่าไปตามพยานหลักฐาน และว่าไปตามกระบวนการยุติธรรม เนื่องจากตัวของนางสาวพลอยก็ได้เดินทางไปตรวจร่างกายมาแล้ว หากจะมีการกระทำอนาจารหรือมากกว่านั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวน หากผิดถูกก็ว่าไปตามกระบวนการ

ส่วนตัวเข้าใจว่าตัวของน้องชายทำงานเกี่ยวข้องกับสาวพริตตี้ หรือการจ้างงานให้มาทำงานพีอาร์ อาจเกี่ยวข้องกับหญิงสาวหน้าตาดีหลายคน ซึ่งตนเองก็มีความเป็นห่วงกลัวว่าจะมีปัญหาเรื่องของผู้หญิง เนื่องจากน้องชายมีครอบครัวและลูกอยู่แล้ว จริงเคยเตือนตลอดว่าให้ระมัดระวังเกี่ยวกับการวางตัว ไม่คิดว่าสุดท้ายแล้วจะเกิดเป็นเรื่องแบบนี้อีก

 

 

 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส