จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก
“Padiphon Chaiyabut” โพสต์ข้อความระบุว่า "
(ขี่เบนซ์แล้วไงตบเด็กซะงั้น) ตบเด็กต่อหน้าต่อตาผมเลยครับ" พร้อมเผยคลิปภาพเหตุการณ์ที่เจ้าของคลิปดังกล่าวอ้างว่า เป็นภาพขณะที่หนุ่มสูงวัยเจ้าของรถเบนซ์ ขับรถจะเลี้ยวเข้าซอยแต่ไม่เปิดไฟเลี้ยว ทำให้เด็กชายที่สวมเครื่องแบบลูกเสือเฉี่ยวชน จนเรื่องดังกล่าวกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วสังคมออนไลน์นั้น
ล่าสุด
นายมานะ นิ่มเนียม อายุ 59 ปี คนขับรถเบนซ์ที่ปรากฏในคลิป เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียดว่า ในวันเกิดเหตุตนกลับจากซื้อห่อหมกให้ลูกสาว ซึ่งป่วยเป็นโรคไข้เลือดออก พักรักษาตัวในห้องไอ.ซี.ยู เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุตนจอดรถส่งเพื่อนที่นั่งมาด้วยกัน แต่ถูกรถเด็กนักเรียนขับชนท้าย จึงโมโหแล้วลงจากรถ แล้วเอามือตบเบาๆ ที่หน้าเด็ก 1 ที จากนั้นจึงได้ต่อว่าเด็ก ส่วนเรื่องที่ให้เด็กโทรหาพ่อเพราะอยากให้มารับทราบว่าพฤติกรรมลูกชายขับรถไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ไม่สวมหมวกกันน็อค แต่เด็กจำเบอร์พ่อไม่ได้ สักพักหนึ่งตนก็ปล่อยไป
นายมานะยอมรับว่า ที่ทำกับเด็กไปแบบนั้น ตนเกิดจากอาการเครียดสะสม จากปัญหาเรื่องงาน และเป็นห่วงลูกสาวที่ป่วยอยู่ทำให้ขาดสติ ตนรู้สึกผิดมากที่ขาดสติที่ลงมือกับเด็กนักเรียน ตนไม่มีคำแก้ตัวและยอมรับกับผลการกระทำ รู้สึกเสียใจและยังไม่มีโอกาสเจอกับเด็ก ก็ขอโทษเด็กนักเรียนและครอบครัวผ่านทางสื่อมวลชนก่อน หากมีโอกาสจะเดินทางไปขอโทษเด็กและครอบครัวอีกครั้ง พร้อมจะมอบเงินให้กับครอบครัวเด็ก ยืนยันว่าหลังจากมีคลิปเผยแพร่ ตนโดนโซเชียลกระหน่ำต่อว่า จนต้องปิดเฟสบุ๊กส่วนตัว
“มานะ ลังไม้” ไปแล้ว หากมีเฟซบุ๊กชื่อเดียวกันนั้น ยืนยันว่าไม่ใช่ของตนเอง
ด้าน
พ.ต.อ.วิเชียร ปทุมรัตน์ ผู้กำกับการ สภ.กระทุ่มแบน เปิดเผยว่า การดำเนินคดีก็ต้องรอให้การสอบปากคำทั้งสองฝ่ายเสร็จสิ้นก่อน และจะต้องให้เด็กไปตรวจร่างกายด้วยว่าได้รับบาดเจ็บจากการถูกตบหรือทำร้ายร่างกายมากน้อยเพียงใด ซึ่งการตั้งข้อกล่าวหานั้นต้องใช้ใบรับรองแพทย์ยืนยันเพื่อประกอบการตั้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีต่อไป
พ.ต.อ.วิเชียร ยังกล่าวอีกว่าหลังจากที่เกิดเหตุการณ์นี้แล้วก็มีเจ้าของอู่ซ่อมรถติดต่อมาว่า หากเหตุการณ์นี้เด็กนักเรียนผิดจริงและรถเบนซ์เสียหาย ทางเจ้าของอู่ก็พร้อมที่จะซ่อมรถเบนซ์ให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย