“มิ่งขวัญ” สวมเสื้อพรรคพลังประชารัฐ แจงดราม่าไม่รักษาคำพูด

6 ธ.ค. 65

“บิ๊กป้อม” เปิดตัว “มิ่งขวัญ” สวมเสื้อ พปชร. เผยเงื่อนไขเข้าร่วม ขอเป็นหนึ่งในแคนดิเดตนายกฯ ยันไม่เคยตระบัดสัตย์ ไม่มีซื้อตัว

วันที่ 6 ธ.ค. 65 ที่พรรคพลังประชารัฐ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี  ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เปิดตัวนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ เข้าร่วมเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ โดยมีรัฐมนตรีและแกนนำของพรรค อาทิ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ในฐานะเลขาธิการพรรค นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ในฐานะรองหัวหน้าพรรค นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค นายพรชัย ตระกูลวรานนท์ กรรมการบริหารพรรค นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองหัวหน้าพรรค นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรค นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ นายอภิชัย เตชะอุบล แกนนำพรรคร่วมต้อนรับ ทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก

ขณะที่พล.อ.ประวิตร เดินทางมาถึงที่ทำการพรรคในเวลา 14.50 น. โดยแกนนำต่างทยอยขึ้นไปพบที่ห้องทำงานของ พล.อ.ประวิตร ก่อนที่ พล.อ.ประวิตร และแกนนำพรรค จะลงจากห้องทำงานมาพร้อมกับนายมิ่งขวัญ โดยนายมิ่งขวัญได้สวมเสื้อพรรคพลังประชารัฐ

1670318051259

จากนั้นเวลา 15.30 น. คณะกรรมการบริหารพรรค และแกนนำพรรค นำโดย พล.อ.ประวิตร ร่วมกันแถลงเปิดตัวนายมิ่งขวัญ โดยพล.อ.ประวิตร กล่าวว่า วันนี้เป็นโอกาสที่พรรคได้ต้อนรับนายมิ่งขวัญเข้ามาอยู่ในพรรค และขอแสดงความยินดีกับนายมิ่งขวัญ และแสดงความยินดีกับตัวเองด้วย ที่จะเข้ามาช่วยกันทำงานให้ประชาชนอยู่ดีกินดีขึ้น ซึ่งเป็นความมุ่งหมายของพรรคที่จะทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดี และสมาชิกพรรคทุกคนขอต้อนรับนายมิ่งขวัญด้วยความยินดียิ่ง

ด้านนายมิ่งขวัญ กล่าวถึงเหตุผลในการมาร่วมงานพรรคพลังประชารัฐว่า ต้องให้เครดิต พล.อ.ประวิตร และขอบคุณ พล.อ.ประวิตรที่ให้เกียรติเชิญตน โดยท่านบอกว่าวันนี้มีปัญหาเรื่องเศรษฐกิจของประเทศ และหลายปีที่เราต้องทนทรมาน พล.อ.ประวิตรจึงบอกกับตนว่า “มิ่งขวัญให้มาช่วยกันแก้ปัญหาเศรษฐกิจหน่อย” จึงได้เปิดใจคุยกันว่าถ้าหากมาพรรคพลังประชารัฐที่มีคนอยู่มาก จะเอาตนไว้ตรงไหน พล.อ.ประวิตรบอกว่าให้มาช่วยเรื่องเศรษฐกิจ ซึ่งคนทำเศรษฐกิจของพรรคเก่งอยู่แล้ว แต่ตนเข้ามาเติมเต็ม เหตุผลที่สองคือ ไม่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม อยู่ในพรรคนี้แล้ว และความจริง พล.อ.ประยุทธ์ไม่เคยอยู่ เพียงแต่เป็นแคนดิเดตนายกฯ ซึ่งข่าววันนี้ พล.อ.ประยุทธ์เพิ่งจะยืนยันว่าไม่ได้อยู่พรรคนี้แล้ว

1670317655682

นายมิ่งขวัญ กล่าวว่า ขอย้ำว่าไม่ได้มีปัญหาอะไรกับ พล.อ.ประยุทธ์ แต่ตลอด 3 ปีครึ่งที่ผ่านมาที่ตนอภิปราย เพราะ 1.เป็นนายกฯ แล้วแก้ปัญหาประเทศไม่สำเร็จ 2.เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ แก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่สำเร็จ และ3.เป็นหัวหน้า ศบค. มีตัวเลขผู้เสียชีวิต 2 หมื่นกว่าศพ หากจะสังเกตการอภิปรายไม่ไว้วางใจของตน จะมีแค่คนเดียวคือ พล.อ.ประยุทธ์ ย้ำว่าไม่ได้มีอะไรโกรธเคืองกับ พล.อ.ประยุทธ์ แต่ที่ต้องตรวจสอบ เพราะอาสาเข้ามาทำแล้วทำไม่สำเร็จ ทั้งนี้รู้ดีว่าที่มาแถลงข่าวเทรนด์ทวิตเตอร์ขึ้นไปอันดับหนึ่ง ซึ่งตนไม่ทราบว่าจะมีอะไรสนุกไปกว่านี้หรือไม่ แต่หากไม่แถลงเปิดใจวันนี้ สื่อคงไม่รู้ว่าทำไมถึงพลิกกลับไปกลับมา และอาจจะคิดว่าตนไม่รักษาคำพูด คำว่าตะบัดสัตย์และคำว่าไม่รักษาคำพูดอยากจะชี้แจงให้ชัด รวมทั้งตอนที่ตนลาออกจาก ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจใหม่ ไม่ได้บอกว่าการลาออกจะต้องยุติบทบาททางการเมือง

นายมิ่งขวัญ กล่าวว่า ขอยืนยันต่อหน้าสื่อและคนไทยทั้งประเทศ หลังจากได้คุยกับพล.อ.ประวิตร มายืนอยู่ตรงนี้ ได้สวมเสื้อพรรคพลังประชารัฐ ไม่เกี่ยวกับเรื่องผลประโยชน์แน่นอน ไม่มีการเจรจาเรื่องเงินทองแม้แต่บาทเดียว ยืนยันว่าไม่ใช่คนแบบนั้น เหตุผลที่ตัดสินใจมาอยู่พรรคพลังประชารัฐ ประการแรก ต้องการมาช่วยประชาชนที่เดือดร้อน ประการสอง การเข้ามาครั้งนี้จะไม่ขอเป็นกรรมการบริหารพรรค แต่ที่เข้ามาเพราะถนัดเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศ และประการที่สาม สำคัญที่สุดคือ ตนจะต้องได้ออกดีเบตในสงครามการเลือกตั้งที่จะมาถึงอีกไม่นานนี้

“ผมได้ปรึกษากับ พล.อ.ประวิตร ซึ่ง พล.อ.ประวิตรบอกว่าถ้ามิ่งขวัญจะออกดีเบต คุณก็ต้องมีตำแหน่งที่จะออกไปดีเบต ก็คือ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกฯเท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ดีเบต จึงเป็นประโยคสำคัญ โดย พล.อ.ประวิตรบอกว่าจะพิจารณาและนำเข้าวาระคณะกรรมการบริหารให้มิ่งขวัญเป็น 1 ในแคนดิเดตนายกฯของพรรคพลังประชารัฐ” หลังพูดประโยคนี้เสร็จ นายมิ่งขวัญได้ยกมือไหว้ พล.อ.ประวิตร พร้อมบอกว่า “ขอบคุณท่าน” พร้อมกับกล่าวอีกว่า นี่คือสิ่งที่ พล.อ.ประวิตรได้พูดกับตน ขอย้ำกับสื่อมวลชนว่าตนเป็น 1 ในแคนดิเดตนายกฯ โดย พล.อ.ประวิตรจะนำเข้าในที่ประชุมพรรค เพื่อที่ตนจะเป็นตัวแทนในการที่จะมาดูแลปากท้องประชาชน และด้านเศรษฐกิจ

1670317695561

เมื่อถามว่า สาเหตุที่ตัดสินใจมาพรรคพลังประชารัฐ เพราะไม่มี พล.อ.ประยุทธ์อยู่ในพรรคแล้วนี้ใช่หรือไม่ นายมิ่งขวัญ กล่าวว่า “ต้องฝากไปบอก พล.อ.ประยุทธ์ด้วยว่าผมไม่สามารถร่วมอุดมการณ์กับท่านด้วยได้” ต่อข้อถามว่า ที่ระบุว่า ที่มาเพราะไม่มี พล.อ.ประยุทธ์อยู่ที่พรรคพลังประชารัฐ แต่ปัจจุบัน พล.อ.ประยุทธ์ยังเป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรคพลังประชารัฐอยู่ โดยนายมิ่งขวัญหันไปถาม พล.อ.ประวิตรว่า “ผมขอตอบคำถามแทนได้มั้ยครับ” โดย พล.อ.ประวิตรได้ตอบสื่อว่า “พล.อ.ประยุทธ์ไปแล้ว ออกไปแล้ว” ขณะที่นายมิ่งขวัญ กล่าวซ้ำว่า ออกไปแล้ว เมื่อถามย้ำว่า หมายถึงชื่อของนายมิ่งขวัญจะมาแทน พล.อ.ประยุทธ์ใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ยังไม่รู้ อยู่ระหว่างพิจารณา อย่าเพิ่งถ้า ยังไม่เกิด ตนคนเดียวทำอะไรไม่ได้หรอก ตนก็เป็นสมาชิกคนหนึ่งของพรรคพลังประชารัฐเหมือนกัน ทำอะไรไม่ได้หรอก ต้องรอกรรมการบริหารพรรคพิจารณา

เมื่อถามว่า ถ้าสมาชิกพรรคไม่เห็นด้วยที่จะให้นายมิ่งขวัญเป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรค จะทำอย่างไร พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ยังไม่ได้ประชุมอะไรกันเลย จะมาใช้คำว่าถ้าอย่างนู้น ถ้าอย่างนี้ไม่ได้ เมื่อถามว่า ถ้าในอนาคต พรรครวมไทยสร้างชาติ จับมือกับพรรคพลังประชารัฐ นายมิ่งขวัญจะทำอย่างไร พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า อันนี้ถ้าไม่ได้หรอก อย่าถามคำว่าถ้าเลย เพราะถ้าถามว่าถ้า มันถ้าได้หมด

อย่างไรก็ตาม หลังจากถูกสื่อมวลชนซักเรื่องแคนดิเดตนายกฯ หลายคำถาม ทำให้แกนนำพรรคที่อยู่ในวงแถลงต้องรีบตัดบทจบการแถลงข่าว

ขณะที่ภายหลังแถลงข่าวเสร็จสิ้น ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถาม พล.อ.ประวิตร ว่าจะเป็นแคนดิเดต นายกฯ ด้วยไม่หรือไม่ โดยพล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ยังไม่รู้ ยังไม่รู้” แล้วแต่สมาชิกพรรค เมื่อถามว่า จะเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ ครบ 3 คนใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ยังไม่รู้เลยว่าใครจะเป็น  เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตร พร้อมเป็นเบอร์หนึ่งใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ยังไม่รู้ ก็แล้วแต่เขา เมื่อถามย้ำว่า แล้วแต่ที่ประชุมพรรคใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร ไม่ตอบคำถามดังกล่าวและเดินขึ้นลิฟท์ไปทันที

ขณะที่นายไพบูลย์ กล่าวว่า พระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งทั่วไปยังไม่ออกเลย

แหล่งข่าวจากพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า กรณีที่นายมิ่งขวัญประกาศกลางวงแถลงข่าวว่า จะมาเป็นหนึ่งในแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐนั้น สร้างความงุนงงให้กับกรรมการบริหารพรรคและสมาชิกพรรคจำนวนมาก เนื่องจากไม่รู้ว่าก่อนว่ามีประเด็นดังกล่าว และรู้เพียงว่านายมิ่งขวัญจะเข้ามาสมัครเป็นสมาชิกพรรค และมีความพยายามขอเป็นแคนดิเดตนายกฯกับ พล.อ.ประวิตร เท่านั้น ซึ่งก่อนหน้านี้ พล.อ.ประวิตร ระบุแล้วว่า การเสนอชื่อเคดดิเดตนายกฯเป็นหน้าที่ของกรรมการบริหารพรรค ไม่ใช่การตัดสินใจของตนเพียงคนเดียว  

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ก่อนการแถลงข่าวเปิดตัว นายมิ่งขวัญได้ขอเข้าพบกับ พล.อ.ประวิตร เป็นการส่วนตัว และมีการพูดคุยกันประมาณ 15 นาที จึงมีการตั้งข้อสังเกตว่า การเปิดเผยเรื่องแคนดิเดตนายกฯของพรรคในครั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้ทราบเรื่องมาก่อนการแถลงข่าวหรือไม่

นอกจากนี้ยังมีรายงานข่าวแคนดิเดต แจ้งว่า ภายหลังแคนดิเดตเปิดตัวนายมิ่งขวัญแล้ว ในสัปดาห์หน้าพรรคเตรียมจะเปิดตัวนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย ที่มีกระแสข่าวจะออกจากพรรคสร้างอนาคตไทย เพื่อย้ายมาอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ ในวันที่ 13 ธ.ค. แต่อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. นายนิพิฏฐ์ ยังคงเดินทางมาร่วมประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคสร้างอนาคตไทย อยู่ ขณะที่นายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี พรรคประชาธิปัตย์ อีกคนที่มีกระแสข่าวจะย้ายมาอยู่กับพรรคพลังประชารัฐนั้น ปรากฏว่า ในการแถลงข่าวเปิดตัวนายมิ่งขวัญครั้งนี้ นายอันวาร์ได้เดินทางมายังที่ทำการพรรคด้วย

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวการเมือง เป็นกระแส