ผู้เสียหายสุดช้ำหลังออร์กาไนซ์งานแต่ง เบี้ยวจัดงานแต่งได้เงินไปเกือบ 2 แสนบาท แล้วหนีหายอ้างบัญชีมีปัญหา หลังผู้เสียหายโพสต์เตือนภัยพบเหยื่อนับ 10 ราย
ล่าสุดวันที่ 15 พ.ย. 65 ทางทีมข่าวเองได้มีโอกาสเดินทางไปพูดคุยกับทางผู้เสียหายในฐานะเจ้าสาว อย่าง น.ส.ฐณัชญ์ชภัสส์ วาทบัณฑิตกุล หรือ หยก อายุ 28 ปี ผู้เสียหาย โดยทางเจ้าตัวได้เล่ารายละเอียดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า จริง ๆ แล้วเหตุการณ์และเรื่องราวที่ตนเจอนั้นเรียกว่าเข้าข่าวลักษณะฉ้อโกง และเป็นการเลิ่ดเงินหนีจำนวนประมาณ 170,000 บาท
ซึ่งเป็นเงินมัดจำส่วนหนึ่งตามสัญญาที่ได้มีการพูดคุยไว้เบื้องต้น แต่ปัจจุบันเหลือเวลาอีกไม่ถึง 1 เดือน ที่จะมีการจัดงาน กลับไม่มีความคืบหน้า บางอย่างยังไม่ทีการดำเนินการการ หนำช้ำพอสอบถามก็เงียบ สุดท้ายพอยิ่งจี้ถามอีกฝ่ายกลับบล็อกเบอร์ และปิดเพจหนีไม่สามารถติดต่อได้ หนำช้ำสิ่งที่เจอนอกเหนือจากเงินมัดจำที่ต้องเสียเกินจำนวน จากเดิมตกลงที่ 1.2 แสนบาท แต่กลับมีการขอเบิกไป 1.7 แสนบาท สิ่งที่ได้กลับไม่มีอะไรคืบ ตนเลยตัดสินใจไปแจ้งความแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เลยตัดสินใจโพสต์เรื่องราวดังกล่าว
ทั้งนี้ทาง "คุณหยก" ได้เล่าว่าเริ่มต้นนั้นช่วงประมาณเดือน ก.ค. 65 ซึ่งช่วงต้นเดือนได้มีการเสริชหารายละเอียดการจัดงานแต่งก่อนที่จะเจอกับทางออร์กาไนซ์ รายดังกล่าว ซึ่งจากการดูข้อมูลมีเพจ มีหน้าร้าน และมีรายละเอียดเกี่ยวกับการจัดงานอย่างดี ประกอบกับรายละเอียดและราคาค่อนข้างสมเหตุสมผล เพราะมีการจัดโปรโมชั่นที่ครบทุกอย่าง คือเราเองไม่ต้องเตรียมการอะไรจ่ายแค่เงิน ทางออร์กาไนซ์จะรับผิดชอบและซัพพอร์ตให้
ก่อนจะมีการนัดแนะพูดคุยกันในช่วง 15-16 ก.ค. 65 มีการพูดคุยรายละเอียดและเเพคเกจเบื้องต้น ก่อนจะมีการนัดดูสถานที่สถานที่จัดงาน 2 แห่งในวันที่ 17 ก.ค. 65 โดยมีการเจอตัวและได้ดูสถานที่ในส่วนของรีสอร์ตกับค่ายทหาร ซึ่งทางตนเองและแฟนตัดสินใจเลือกสถานที่จัดงานเป็นรีสอร์ตแห่งหนึ่ง และมีการตกลงทำสัญญาการจัดงาน ในวันที่ 4 ธ.ค. 65
โดยเลือกเเพคเกจ 249,900 บาท พร้อมทำสัญญาจ่ายมัดจำครึ่งหนึ่งจำนวน 120,000 บาท โดยแบ่งเป็น 3 งวด
งวดที่ 1 จำนวน 40,000 บาท จ่ายวันที่ 17 ก.ค.
งวดที่ 2 จำนวน 30,000 บาท จ่ายภายในวันที่ 27 ก.ค.
งวดที่ 3 จำนวน 55,000 บาท ยังไม่กำหนดเวลา
โดยในสัญญาสิ่งที่ตนจะได้นั้นคือ Backdrop ขนาต 8x3.2 เมตร ตอกไม้เสมือนจริง ป้ายชื่อ, พรมขนสัตว์ แสตนดอกไม้ 4 ตัว ไฟสปอตไลด์ 4 ดวง, พานขันหมากเอก 1 พาน, พานขนมมงคล 9 อย่าง, ผ้าห่มสินสอด พานทอง ใบเงินทองนาก ดอกไม่โปรย, แกลอรี่ พรอพตกแต่ง กรอบรูปยืมแสตนวางรูป 2 ตัว รวมกว่า 20 รายการ
โดยทุกอย่างอยู่ในงบประมาณ 249,900 บาท
อย่างไรก็ตามด้วยความที่ตนเองได้เห็นสถานที่ประกอบกับเอกสารเกี่ยวกับการจดทะเบียนของบริษัท ยิ่งทำให้ตนเองมีความมั่นใจว่าเขาน่าจะใช่มืออาชีพ และไม่ได้มีการตรวจสอบประวัติย้อนหลัง เพราะตอนนั้นเราเองมีความเชื่อมั่นและเชื่อใจ กระทั้งเหตุการณ์ก็มีการเดินหน้าไปตามปกติ ซึ่งก็มีการเบิกเงินมัดจำในส่วนเเรกที่ตนจะต้องจ่าย โดยจากเอกสารนั้นที่ตนโอนจ่ายจะมีใน วันที่ 17 กรกฎาคม เวลา 17.14 น. เป็นยอด 40,000 บาท ค่าจองเเพคเกจ, วันที่ 27 กรกฎาคม เวลา 10.24 น. เป็นยอด 10,000 บาท ค่าจองช่างแต่งหน้า, วันที่ 27 กรกฎาคม เวลา 17.30 น. เป็นยอด 20,000 บาท ค่าจองมัดจำเพิ่ม, วันที่ 31 กรกฎาคม เวลา 12.49 น. เป็นยอด 10,000 บาท ค่าจองมัดจำเพิ่ม, วันที่ 3 สิงหาคม เวลา 20.59 น. เป็นยอด 45,000 บาท ค่าจองมัดจำเพิ่ม, วันที่ 28 สิงหาคม เวลา 13.54 น. เป็นยอด 10,000 บาท ค่าจองเช่าชุดdeeplove ใช้ในวันงานจริง, วันที่ 11 กันยายน เวลา 17.30 น. เป็นยอด 15,000 บาท ค่าจองมัดจำวันงานจริงเพิ่ม และ วันที่ 17 กันยายน เวลา 20.24 น. เป็นเงิน 20,000 บาท ค่าจองห้องพักที่โรงเเรมวันจัดงาน
ซึ่งยอดรวมทั้งหมดนั้นเกินจำนวนเงินที่ตกลงไว้ตามที่บอกตอนแรกแค่ 120,000 บาท แต่หากนับดูแล้วจะอยู่ที่ 170,000 บาท เกินมา 50,000 บาท โดยที่ทางเราเองก็ไม่เอ๊ะใจอะไร จนมาทราบข่าวว่าเขาเองไปฉ้อโกงหรือจัดงานไม่ตรงตามที่ตกลงให้กับเคสแต่งงานเคสหนึ่ง โดยเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นช่วงวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา ก่อนที่ตนจะเริ่มมีปัญหา
โดยเหตุการณ์ดังกล่าวพอทราบข่าวทางออร์กาไนซ์รายดังกล่าวเองก็ได้มีการไลน์และโทรมาอธิบายถึงปัญหาที่เกิดขึ้น พร้อมขอโอกาสให้เขาได้ทำงานให้เราต่อ เราเองก็ด้วยความที่ลองใจ และให้โอกาสเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเราเองไม่ทราบรายละเอียด เลยยังเชื่อมั่นในตัวเขา กระทั่งเริ่มมีเหตุการณ์แปลก ๆ ทั้งในส่วนของเรื่องเงินที่โอนเกินไปแล้ว ยังพบว่าวันที่ต้องไปถ่ายพรีเวดดิ้งที่พัทยา วันที่ 23 กันยายน ซึ่งในเเพ็กเกจมีการบอกว่าพร้อมจ่ายค่าที่พักให้และจะได้รูปให้ดูภายหลังถ่ายไม่เกิน 7 วัน แต่สิ่งที่ตนเจอตอนนั้นคือให้เราเองสำรองจ่ายค่าที่พัก และค่าใช้จ่ายในการออกกองไปก่อน ไม่พอหลังมีการถ่ายภาพเสร็จปรากฎว่าผ่านไป 7 วัน ทวงถามภาพก็กลับไม่ได้ อ้างว่าไฟล์มีปัญหา ช่างภาพกำลังเร่ง หลังจากนั้นก็ตะมีการถ่ายภาพพรีเวดดิ้งเซตที่ 2 ในสตูดิโอแห่งหนึ่ง ตามเดิมที่นัดกันไว้ในวันที่ 9 ตุลาคม แต่ทางออร์กาไนซ์กลับเลื่อนออกไปเป็นวันที่ 23 ตุลาคม ในช่วงเวลา 9-10 โมงเช้า ซึ่งตนก็ไม่ได้คิดอะไร กระทั้งถึงวันตริงปรากฎว่าทางออร์กาไนซ์ส่งไลน์มาตอนประมาณ ตี 4 ของวันที่ 23 ตุลาคม บอกว่ายกกองการถ่ายทำ เนื่องจากมีปัญหาเรื่องการเงิน ลัญชีที่มีเงินอยู่ของเขานั้นกลับไม่สามารถถอนเงินออกมาได้ เพราะติดเคสปัญหาเก่าที่มีการแจ้งความไว้
ซึ่งตอนนั้นตนเองก็เริ่มพบพิรุธแล้ว เลยมีการเช็คข้อมูลไปยังกรณีก่อน ๆ ทั้งเรื่องพรีเวดดิ่งชุดแรกที่ทางออร์กาไนซ์อ้างว่ามีปัญหาเรื่องไฟล์ภาพ แต่สุดท้ายจริง ๆ ทราบมาคือทางออร์กาไนซ์รายดังกล่าวยังไม่มีการติดต่อจ่ายเงินค่าถ่ายภาพเลยไม่สามารถส่งภาพให้ได้ ตลอดจนในส่วนของถ่ายพรีเวดดิ้งรอบที่ 2 ทางตนเองสอบถามไปยังร้านชุดพบว่าทางเจ้าของร้านบอกว่าทางออร์กาไนซ์รายดังกล่าวไม่ได้มีการติดต่อมาจ้ายเงินที่เหลือในการเอาชุดไปถ่ายพรีเวดดิ้ง มีการมัดจำจ้ายแค่บางส่วน
ซึ่งจากเหตุการณ์ทั้งหมด ตนเลยมานั่งทบทวนและลองสอบถามทางเขาอีกรอบ แต่เขาเองกลับไม่มีคำตอบให้ ตลอดจนเราเองด้วยความที่วันงานจะมีขึ้นในช่วงวันที่ 4 ธันวาคม 2565 แต่สิ่งที่ต้องได้และกำหนดการส่งทั้งเรื่องของการ์ด และ ของชำร่วย ก็ยังไม่ได้ครลตามที่ตกลงกันไว้ ส่งผลให้แพลนงานของตนเองต้องกระทบ เลยมีการพยายามสอบถามและขอเงินมัดจำคืนในส่วนที่ยังไม่ได้
แต่อีกฝ่ายกลับบ่ายเบี่ยงและไม่ยอมให้คำตอบ อ้างแค่ขอเวลา ซึ่งตนเองก็ได้บอกว่าหากยังยืดเยื้อไปก็จะไม่ทันงาน สุดท้ายอีกฝ่ายกลับบล็อกตนทุกช่องทางการติดต่อ ไม่ว่าจะช่องทางไลน์ เพจ เบอร์โทร ตลอดจนมีการปิดเพจไปก่อนหน้านี้ 2 วัน ทำให้ตนเองต้อฃออกมาโพสต์และเรียกร้องในสิ่งที่ถูกต้อง
โดยที่ตนเองไม่ได้ต้องการจะออกมาแฉหรือประจาน แต่สิ่งที่ตนต้องการคือไม่อยากให้เขาเองไปทำแบบนี้กับใครอีก เพราะถ้าหากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกัลคนที่เขาทุ่มเทเงินและเก็บมากว่าครึ่งชีวิต เพื่อจะเนรมิตงานแต่งหนึ่งานที่มีแค่ครั้งเดียว แต่กลับมาเจอเเบบนี้ หลายคนอาจจะเครียดถึงขั้นเศร้าและวิตกได้ เช่นเดียวกันตนตอนนี้ที่ยอกเหลือจากความเสียหายหลักเเสนแล้ว
ส่วนตัวยังเสียเวลา เสียความรู้สึก และวิตกกับสิ่งที่เกิดขึ้น ตลอดจนยังมีความคิดว่าเราเองจะเดินหน้าต่ออย่างไร จะมีงานเกิดขึ้นหรือไม่ ซึ่งสิ่งที่อีกใ่ายจะได้รับคือการโดนดำเนินเรื่องของคดี ยืนยันตนไม่ยอมและต้องการเรียกร้องเอาเงินคืน เพราะลักษณะพฤติกรรมดังกล่าวนั้นตนมองว่าเป็นการฉ้อโกง และตั้งใจ หนำช้ำหลังจากที่ตนโพสต์ไปพบว่ามีผู้เสียหายค่อนข้างเยอะ ซึ่งตอนนี้ตนเองก็กำลังปรึกษากับทางทนายส่วนตัวและผู้เสียหายรายอื่นไว่าจะมีการดำเนินการอย่างไร
ทีมข่าวได้คลิปเสียงจากทางผู้เสีบหาย โดยเจ้าของออร์กาไนซ์โทรติดต่อมายังทางผู้เสียหาย และมีการสอบถามกับทางผู้เสียหาย ในช่วงวันที่ 26 ต.ค. 65 หลังจากที่ทางผู้เสียหายทักไลน์ไปแจ้งว่า ถ้ายังไม่ติดต่อมาจะมีการแจ้งความ ทางเข้าของออการ์ไนซ์เลยตัดสินใจโทรมา และได้อธิบายว่าทางตนเองนั้นเพิ่งจะไปเคลียร์เรื่องที่โดยอายัดบัญชีตามที่ได้เเจ้งไปก่อนหน้านี้
ยืนยันคำเดิมว่าเงินไม่สามารถเอาออกมาจากบัญชีได้ ทางผู้เสียหายเองเลยสอบถามว่าแล้วจะต้องทำอย่างไร ทั้งที่งานใกล้จะถึงแล้ว ทางเจ้าของออการ์ไนซ์เลยตอบว่า ตรงนี้ตนเองต้องไปหาเงินส่วนเงินมา ยังไม่สามารถให้คำตอบได้ จะมีคู่กรณีบ่าวสาวรายหนึ่งที่แจ้งอาญัติบัญชี ต้องรอเรื่องของคดีก่อน ก่อนที่ทางผู้เสียหายเองจะพยายามขอติดต่อทางคู่กรณีที่มีการอาญัติ ทั้งนี้ทางเจ้าของออการ์ไนซ์ได้พยายามอธิบายว่าจะทยอยคืนเงินทีละคู่ ก่อนที่ทางเจ้าของออการ์ไนซ์ได้อธิบายเหตุผลเรื่องราวที่เกิดขึ้น
