คดีพลิกจับผัวฆ่าเมียฝังโคลนอึ้งเลือดศพกระเซ็นติด เจ้าตัวปากแข็งแต่ดีเอ็นเอมัด (คลิป)

15 พ.ย. 65

จากกรณีเมื่อวันที่ 30 ต.ค. 65 สภ.แม่อาย รับแจ้งพบศพ น.ส.นันทวรรณ จะโป อายุ 37 ปี ถูกฆ่าฝังโคลน ที่บ้านห้วยส้าน ม.10 ต.ท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ โดยวันที่ 14 พ.ย. 65 ตำรวจออกหมายจับ นายอาหลู่ผา แสนจัน อายุ 55 ปี สามีผู้เสียชีวิต ในข้อหาฆ่าคนผู้อื่นโดยเจตนา สืบเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์แล้ว

346362766120

ล่าสุดวันที่ 15 พ.ย. 65 ที่ สภ.แม่อาย นายอาหลู่ผา แสนจัน อายุ 55 ปี สามีผู้เสียชีวิต ยังถูกควบคุมตัวอยู่ในห้องคุมขัง โดยผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ แต่ตำรวจมีหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ คือผลดีเอ็นเอบนเสื้อผ้าของนายอาหลู่ผา ซึ่งพบว่าเป็นดีเอ็นเอ และคราบเลือดของนางสาวนันทวรรณ ผู้ตาย จึงขออำนาจศาลอนุมัติหมายจับในข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” ในัวันนี้ไม่มีการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เนื่องจากผู้ต้องหาปฏิเสธที่จะทำแผนฯ โดยจะมีการสอบปากคำร่วมกับทนายความ ในช่วงบ่าย

353474

กระทั่งเวลา 16.00 น. พ.ต.ท.กฤตพล ประดับผล รอง ผกก. (สอบสวน) ได้นำตัว นายอาหลู่ผา ออกจากห้องคุมขังเพื่อมาสอบปากคำร่วมกับทนายความก่อนจะนำตัวฝากขังในวันพรุ่งนี้ โดยนายอาหลู่ผา มีสีหน้าเรียบเฉย พร้อมเปิดเผยกับทีมข่าวอมรินทร์ทีวีว่า ตนเองยืนยันว่าไม่ได้เป็นคนฆ่าภรรยาแน่นอนวันที่เกิดเหตุ ตอนเช้าตนเองยังกินข้าวกับภรรยาอยู่เลยก่อนเกิดเหตุ หลังจากนั้นก็พาลูกไปส่งที่บ้านของน้องสาวก่อนจะชาร์ตโทรศัพท์มือถือ และเดินทางไปที่กระท่อมอีกครั้งก็ไม่พบภรรยาแล้ว เห็นรอยดินถูกลากจึงเดินไปดูเป็นรอยใหญ่จึงพบศพของภรรยา

190158

ตอนนี้ตนเองยอมรับว่าเครียด ยืนยันว่ารักภรรยาคบหากันมา 10 กว่าปี ไม่เคยทะลาะกันเลย หาข้าวหาปลาให้กินทุกวัน ภรรยาและตนเองก็ไม่เคยมีปัญหากับใครเลย ตนเองอยากจะบอกคนที่มันฆ่าภรรยาจริง ๆ ว่าให้ออกมามอบตัว ให้ตำรวจจับให้ได้ตนเองจะต้องไม่ลำบากแบบนี้ ตอนนี้ตนเองห่วงแต่ลูกเพราะไม่มีพ่อแล้วไม่รู้จะอยู่กันอย่างไร ตนเองอยากจะต่อสู้คดีแต่ก็ไม่มีเงิน อยากฝากบอกครอบครัวคนตายว่า ตนเองไม่ได้ทำจริง ๆ ต่อให้เอาตนเองไปขังคุก หรือ ฆ่าให้ตาย ตนเองก็ไม่รับสารภาพ เพราะตนเองไม่ได้เป็นคนทำจริง ๆ

202387

จากการตรวจสอบประวัติของ นายอาหลู่ผา ยังเคยมีคดียาเสพติดเมื่อปี 62 ด้วย โดยเมื่อวันที่ 10 ก.ค. 62 พ.ต.อ.ชลเทพ ใหม่ไชย ผกก.สภ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน ร่วมกันจับกุมนายอาหลูผ่า แสนจัน อายุ 50 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 15 เม็ด นำตัวดำเนินดคีข้อหา "ข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า หรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยไม่รับอนุญาตและเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยไม่รับอนุญาต"

673151392989438978

ภายหลังการสอบปากคำเสร็จสิ้น เวลา 17.30 น. ใช้เวลาในการสอบปากคำประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที นายหลู่ผา ยังให้การปฏิเสธทั้งหมด แต่ตำรวจมีหลักฐาน คือ พบคราบเลือดบนเสื้อของอาหลู่ผา พิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์แล้วว่า เป็นของนางสาวนันทวรรณ ผู้ตาย, คำให้การของอาหลู่ผา ยืนยันว่านำลูกไปฝากไว้ให้น้องสาวเวลา 13.00 น. แต่น้องสาวบอกว่า อาหลู่ผา เอาลูกมาฝาก เวลา 10.00 น. ก่อนจะหายไปครึ่งชั่วโมง และมารับลูก คำให้การจึงขัดแย้งกัน เชื่อว่าช่วงที่อาหลู่ผาหาย เป็นห้วงเวลาที่ก่อเหตุ  และระหว่างการสอบปากคำ เมื่อถามว่า “เพราะอะไร คราบเลือดของผู้ตายจึงไปปรากฏบนเสื้อ” นายอาหลู่ผา ตอบคำถามไม่ได้ ตอบว่า ไม่รู้ ไม่เห็น ไม่ทราบ

427514427561

จากการรวบรวมหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ และสอบปากคำของพยานแวดล้อม ตำรวจจึงเชื่อว่า นายอาหลู่ผา พลั้งมือฆ่าภรรยาด้วยของแข็ง และนำศพไปอำพรางฝังไว้ในโคลน ก่อนจะไปทำทีเรียกหลานมาดูเพื่อเป็นพยาน ตำรวจแจ้งข้อหานายอาหลู่ผา 2 ข้อหา คือ ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และ ซ่อนเร้นอำพรางศพ โดยจะฝากขังในวันพรุ่งนี้ต่อไป

602114

ทีมข่าว เดินทางไปยัง บ้านห้วยส้าน ม.10 ต.ท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นบ้านของผู้ก่อเหตุ ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นางอารีย์ แสนจัน อายุ 52 ปี น้องสาวผู้ก่อเหตุ เปิดเผยกับทีมข่าวว่า ตนเองไม่ทราบว่าพี่ชายเป็นคนก่อเหตุจริงหรือไม่ แล้วเช้าวันนี้ก็ยังไม่ได้เข้าไปเยี่ยม เพียงแต่เมื่อวานนี้ช่วงบ่ายมีเจ้าหน้าที่เข้ามาที่บ้าน และนำตัวพี่ชายไปซึ่งตนเองก็ทำกับข้าวอยู่ในครัวไม่ได้ออกมาดู

ก่อนหน้านี้ตนเองก็ไม่ค่อยได้ยุ่งกับพี่ชายอยู่แล้ว ต่างคนต่างอยู่แล้ว ต่างคนต่างแยกย้ายไปทำงาน ซึ่งหลังจะเกิดเหตุพี่ชายก็ใช้ชีวิตปกติ หลังจากนี้คงไม่มีการประกันตัวแต่อย่างใด ซึ่งฝ่ายของญาติผู้ตายไม่ได้มีการติดต่อมา ตนเองห่วงแต่หลาน 2 คน อายุ 3 ปี และ 9 เดือน ว่าจะกำพร้าทั้งพ่อทั้งแม่ตนเองต้องดูแลไปก่อน

700011

ทีมข่าว เดินทางไปยังบ้านของ น.ส.นันทวรรณ ผู้เสียชีวิต ซึ่งครอบครัวของ น.ส.นันทวรรณ พักอาศัยอยู่ในหมู่บ้าน ที่ต.ทะเลลบ อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ ทีมข่าวได้พูดคุยกับ น.ส.เอม อายุ 33 ปี หลานสาวของผู้เสียชีวิต เปิดเผยกับทีมข่าวว่า ตนเองทราบข่าวว่าสามารถจับผู้ต้องหาที่ฆ่าน้าสาวของตนเองได้จากเจ้าหน้าที่ตำรวจรวมถึงได้รับชมข่าวผ่านทางโทรทัศน์เมื่อวานนี้

โดยหลังจากทราบว่าสามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาได้ทางบ้านก็รู้สึกโล่งใจไปหนึ่งอย่าง ยอมรับว่าที่ผ่านมาทางบ้านอดสงสัยไม่ได้ว่านายอาหลู่ผาเป็นผู้ก่อเหตุฆ่านางสาวนันทวรรณ เนื่องจากเป็นคนเดียวที่อยู่ในจุดเกิดเหตุ แต่หลังจากเกิดเหตุแล้วนายอาหลู่ผาก็ไม่ได้หลบหนี และมาร่วมงานศพตามปกติ ซึ่งตลอดเวลานายอาหลู่ผายืนยันว่าตัวเองไม่ได้เป็นคนฆ่าภรรยา ทางบ้านยอมรับว่าเมื่อทราบข่าวว่าอาหลู่ผ่าเป็นคนทำ ค่อนข้างเชื่อว่าเขาทำจริง ๆ คนในบ้านรู้สึกเสียความรู้สึก และเสียใจมาก ที่ก่อนหน้านี้ทางบ้านไว้ใจให้อยู่กินกับผู้ตาย ยอมให้ผู้ตายไปอาศัยด้วยอยู่ที่บ้าน ไม่คิดว่าจะทำกันรุนแรงแบบนี้

ก่อนหน้านี้ทั้งคู่คบหากันมาได้ 10 ปี ที่ผ่านมายอมรับว่าทั้งคู่เคยมีเรื่องไม่พอใจและบาดหมางกันมาอยู่บ้างเคยเห็นผู้ตายถูกทำร้ายร่างกาย หน้าตาเขียวช้ำกลับมาที่บ้าน โดยเวลาทะเลาะกันหรือมีปากเสียงกับสามีก็มักจะหอบลูกทั้ง 2 คนกลับมาที่บ้านอยู่เสมอ แต่ไม่บอกว่าทะเลาะเรื่องใดกัน หาหลบมาที่บ้านจะอยู่ที่บ้านประมาณ 1 สัปดาห์ หรือหากไม่สบายใจ ก็จะอยู่ที่บ้านนานนับเดือน ก็จะกลับบ้านไปหากสามีมาตาม ขณะที่ล่าสุดตนเองยังกังวลเรื่องความปลอดภัยอยากจะบอกกับอาหลู่ผา ว่าถ้าหากทำจริงก็ขอให้ยอมรับความผิด แต่ถ้าหากเป็นฝีมือคนอื่นจริง ก็อยากให้ตำรวจได้ตัวคนร้ายให้เร็วที่สุด

cg

เมื่อประมาณ 3 วันที่ผ่านมามีพี่สาวของตนเองได้ฝันถึงผู้ตาย โดยในฝันผู้ตายร้องไห้ และมาบอกกับผู้ที่ฝันเป็นภาษามูเซอว่า “โดนผัวฆ่า เพราะหาว่าไม่ดูแลลูกคนเล็ก” ส่วนตอนนี้ยังไม่ทราบว่าชะตากรรมของหลานทั้งสองคนเป็นอย่างไรบ้างหากมีโอกาสทางครอบครัวอยากจะแวะไปดู จนถึงตอนนี้ตนเองยังเชื่อว่า วิญญาณของผู้ตายยังไม่ไปไหน คอยดูคนที่กระทำความผิดได้รับผลกรรมที่ทำไว้อยู่

 

 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส