กุศลใหญ่! “น้องมิ้ม” จยย.ชนเสาดับ บริจาคอวัยะส่งต่อ 4 ชีวิต แม่เศร้าตายหลังวันเกิด (คลิป)

8 พ.ย. 65

วันที่ 8 พ.ย. 65 ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Thai Red Cross Society ได้โพสต์ภาพและข้อความกุศลครั้งสุดท้าย ของนางสาวจิราภรณ์ ภิญโญ หรือ น้องมิ้ม ผู้เสียด้วยภาวะสมองตาย ญาติได้บริจาคอวัยวะและดวงตาให้กับสภากาชาดไทย เพื่อต่อลมหายใจให้กับผู้ป่วยอีก 4 ชีวิต

548971

เพจได้ระบุข้อความว่า  "สร้างกุศลอันยิ่งใหญ่ครั้งสุดท้าย ด้วยการ #บริจาคอวัยวะ #บริจาคดวงตา"นางสาวจิราภรณ์ ภิญโญ (น้องมิ้ม) อายุ 26 ปี เสียชีวิตด้วย #ภาวะสมองตาย เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2565 ญาติได้แจ้งความประสงค์บริจาคอวัยวะและดวงตาให้กับสภากาชาดไทย เพื่อต่อลมหายใจให้กับผู้ป่วยไตวายระยะสุดท้ายและผู้ที่สูญเสียการมองเห็นจำนวน 4 ราย ให้กลับมามีชีวิตใหม่ที่ดีขึ้นสภากาชาดไทย ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับครอบครัวของผู้บริจาคอวัยวะมา ณ ที่นี้"

123344

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปที่วัดประทุมธรรมชาติ บ้านแกใหญ่ ต.แกใหญ่ อ.เมืองสุรินทร์ จ.สุรินทร์ พูดคุยกับนางจินดารัตน์ จันทร์หอมฟุ้ง อายุ 49 ปี เป็นแม่ของน้องมิ้ม เปิดเผยว่า ตอนนี้ตนเองมีสภาพจิตใจที่ดีขึ้นมากแล้วหลังจากสูญเสียลูกสาวจากอุบัติเหตุ ยอมรับเหตุการณ์ตอนนั้นเกิดขึ้นเร็วมากโดยไม่ทันตั้งตัว ซึ่งตนเองมีลูกสองคนและน้องมิ้มเป็นลูกสาวคนโต ส่วนลูกสาวคนเล็กชื่อว่าน้องอ้อม อายุ 22 ปี

432742

โดยวันที่น้องมิ้มประสบอุบัติเหตุเป็นเวลา 11.00 น. ของวันที่ 27 ต.ค. 65 ก่อนเกิดเหตุน้องมิ้มกำลังทำงานเช็คบิลค่าอาหารช่วยเพื่อนที่ร้านนมแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.สุรินทร์ ซึ่งวันนั้นตนเองกับลูกคนเล็กไม่ได้อยู่ใน จ.สุรินทร์ แต่ไปอยู่บ้านสามีใหม่ ที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์

846941

โดยก่อนวันเกิดเหตุ 1 วัน ก็คือวันเกิดของน้องมิ้ม ช่วงค่ำน้องมิ้มได้โทรศัพท์มาพูดคุยกับตนเองว่าวันนี้เป็นวันเกิดของน้องมิ้ม และขณะนี้อยู่ที่ร้านปังนมกำลังเช็กบิลค่าอาหารช่วยเพื่อน ตนเองที่ได้ยินดังนั้นก็รู้สึกภูมิใจที่ลูกสาวเป็นคนขยันทำมาหากินและถึงแม้จะไม่ได้อยู่ด้วยกัน อยู่คนละจังหวัด ก็ไม่เคยลืมครอบครัว จึงอวยพรน้องมิ้มไปว่า ไม่ต้องเป็นห่วงนะ แม่จะดูแลตัวเองจะได้อยู่กันไปนาน ๆ ซึ่งนี่เป็นประโยคสุดท้ายที่ได้พูดคุยกับลูกก่อนวางสายกันไป

398808

ช่วงเช้าวันที่ 27 ต.ค. มีสายโทรเข้าจากโรงพยาบาลใน จ.สุรินทร์ ทราบว่าน้องมิ้มประสบอุบัติเหตุ รู้เพียงว่าหลังช่วยเพื่อนที่ร้านนมเสร็จแล้วน้องมิ้มขี่รถจักรยานยนต์ออกมาลำพัง และรถไปชนกับเสาไฟฟ้าบาดเจ็บสาหัส จากนั้นตนเองกับลูกสาวคนเล็กจึงเดินทางมาที่ จ.สุรินทร์ เพื่อมาดูอาหารของน้องมิ้มทันที กระทั่งแพทย์มาแจ้งว่าไม่สามารถยื้อชีวิตต่อได้ เพราะน้องมิ้มเสียชีวิตจากภาวะสมองตาย จึงตัดสินใจปรึกษากับครอบครัวและลงความเห็นกันว่าไม่ขอยื้อชีวิตของน้องไว้

564281

ที่ผ่านมาน้องมิ้มเป็นเด็กกตัญญูและรักครอบครัวมาก เป็นเสาหลักของครอบครัว ดูแลการเงินในครอบครัวตั้งแต่อายุ 18 ปี โดยน้องมิ้มเรียนจบจบ ปวช. สาขาคอมพิวเตอร์ ที่โรงเรียนอาชีวะศึกษาสุรินทร์ ปี 2557 จากนั้นผันตัวเป็นเสาหลักครอบครัว ไปสมัครงานที่ต่าง ๆ เพื่อหาเลี้ยงครอบครัว โดยงานแรกสมัครเป็นพนักงานคลินิกดูแลความงามแห่งหนึ่งใน จ.สุรินทร์ ทำไปได้ไม่กี่ปีก็ลาออกมารับจ็อบเป็นพนักงานร้านนมแห่งหนึ่ง

กระทั่งก่อนเกิดเหตุเพียงไปกี่วัน น้องมิ้มเพิ่งไปสมัครงานเป็นลูกจ้างร้านขายยา แต่ยังไม่ทันได้เริ่มงาน ก็มาประสบอุบัติเหตุและเสียชีวิตก่อน ซึ่งนอกจากน้องมิ้มจะไปสมัครงานทำงานตามที่ต่าง ๆ แล้ว น้องมิ้มยังเป็นคนหัวไวและขยัน มาจับธุรกิจขายออนไลน์กับเพื่อนจนทำให้มีรายได้ส่งให้ครอบครัวทุกเดือน ยอมรับว่าตนเองเสียใจมากที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเท่ากับเสียเสาหลักไป

734902

ส่วนเรื่องที่ครอบครัวแจ้งความประสงค์บริจาคอวัยวะและดวงตาน้องมิ้มให้กับสภากาชาดไทย เป็นความต้องการของแม่และน้องสาวของน้องมิ้ม ที่ต้องการสานเจตนารมณ์ของน้องมิ้มตอนมีชีวิตอยู่ เพราะน้องมิ้มชอบบริจาคโลหิตตลอดช่วงที่มีชีวิต และครั้งหนึ่งเคยพูดกับน้องสาวว่า ถ้าหากตายก็อยากจะบริจาคอวัยวะให้ทางโรงพยาบาลเพื่อต่อชีวิตให้คนอื่น แต่ตอนนั้นเป็นเพียงการพูดคุยกับน้องสาวเท่านั้น ยังไม่มีการยื่นเอกสารแสดงความประสงค์ หลังน้องมิ้มเสียชีวิตตนเองและลูกคนเล็กจึงมีความประสงค์บริจาคอวัยวะและดวงตาน้องมิ้มให้กับสภากาชาดไทย

ส่วนตัวก็รู้สึกดีใจที่มีคนชื่นชมน้องมิ้ม และรู้สึกว่าน้องมิ้มคงจะหมดอายุไขของเขาแล้ว เนื่องจากน้อยคนที่จะเกิดและตายช่วงใกล้กับวันเกิด และที่สำคัญนอกจากน้องมิ้มจะเป็นคนใจบุญ ยังมีพ่อของน้องมิ้มที่ละทางโลก อุทิศตนบวชเป็นพระได้ 10 พรรษา จนเป็นเจ้าอาวาสอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งใน จ.สุรินทร์ ส่วนเรื่องของคนที่ได้รับบริจาคอวัยวะของน้องมิ้มไป ตอนนี้ตัวเองยังไม่ได้รับการติดต่อว่าบุคคลดังกล่าวเป็นใคร

567941

โดยวันนี้คุณแม่ยังนำกรอบรูปของน้องมิ้มและใบประกาศเกียรติคุณจากสภากาชาดไทย 2 ฉบับ ระบุชื่อน้องมิ้มเป็นผู้อุทิศอวัยวะให้กับสภากาชาดไทย จากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระราชชนรณีพันปีหลวง สภานายิกาสสภากาชาดไทย มีพระราชเสาวนีย์ โปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ลงชื่อนางสาวจิราภรณ์ ภิญโญ

 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส