หนุ่มวินจักรยานยนต์ เข้าร้องเพจสายไหมต้องรอด หลังถูกนกต่อลวงไปให้กลุ่มวัยรุ่นทำร้าย บาดเจ็บทำงานไม่ได้ ยันไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว
นายฉัตรชัย อังคษร อายุ 45 ปี อาชีพขับรถจักรยานยนต์รับจ้าง นำหลักฐานเป็นคลิปกล้องวงจรปิดที่ถูกกลุ่มวัยรุ่นนับ 10 คน พร้อมอาวุธรุมทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ย่านสำเหร่ ฝั่งธนบุรี
เข้าร้องเรียนกับ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้ง เพจ สายไหมต้องรอด เพื่อขอความช่วยเหลือหลังถูกทำร้ายร่างกายมาสองครั้งช่วงเวลาห่างกันเพียงอาทิตย์เดียว
นายฉัตรชัย ผู้เสียหายได้ชี้ร่องรอยบาดแผลให้ทีมข่าวดูพบว่าที่ศรีษะมีรอยเย็บ 5 เข็ม และที่แขนซ้ายหักสองท่อน ส่วนที่ใบหน้ามีร่องรอยฟกช้ำทั้งหมด พร้อมกับเล่าว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเริ่มต้นเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 6 ตุลาคม ที่ผ่านมา ช่วงประมาณ 12.30 น. ขณะที่ทางตนเองกำลังนั่งอยู่ที่วินจักรยานยนต์ของตน ย่านตากสิน ก็ได้มีรถจักรยานยนต์ 2 คัน เป็นชายประมาณ 2 คนเข้ามาถามทางตน ระหว่างที่ตนกำลังตอบคำถามดังกล่าว ชายทั้ง 2 ก็เริ่มทำร้ายร่างกายตนทันทีโดยที่ไม่ได้มีท่าทีว่าจะมาก่อเหตุหลังจากนั้นกลุ่มเพื่อนของชายที่มาทำร้ายก็กรูเข้ามาทำร้ายตนตามที่ปรากฎในคลิป ซึ่งใช้เวลาแค่ประมาณ 5-6 นาทีก่อนที่จะหลบหนีกันออกไป ซึ่งตอนนั้นตนเองได้รับบาดเจ็บบริเวณศีรษะ และได้เข้าไปแจ้งความไว้ที่ สน.สำเหร่ในวันที่เกิดเหตุ
ต่อมาผ่านไปไม่ถึง 1 สัปดาห์ ในวันที่ 13 ตุลาคม ที่ผ่านมา ช่วงเวลาประมาณ 13.10 น. ก็มีชายคนหนึ่งเดินมาที่วินที่ตนให้บริการก่อนจะว่าจ้างให้ไปส่งที่ ซอยตากสิน 24 ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับวินที่ตนขับ
โดยชายคนดังกล่าวตนเองคิดว่าเป็นลูกค้าปกติ แต่พอถึงจุดเกิดเหตุที่เป็นที่หมาย กลับพบว่ามีกลุ่มชายใส่หมวกกันน็อคประมาณ 10 คน ยืนรอพร้อมอาวุธไม้และของแข็งเข้ามารุมทำร้าย ซึ่งตนเองไม่ทันได้พูดอะไร ได้แค่พูดว่าพวกเอ็งอีกแล้วหรอ เพราะมั่นใจว่าเป็นกลุ่มผู้ก่อเหตุเดิมที่เคยมาทำร้ายก่อนหน้า และกลุ่มคนร้ายได้มำร้ายตนอย่างหนักโดยพุ่งเป้าที่หัวและใช้อาวุธตีที่มือจนได้รับบสดเจ็บกระดูกหักสองท่อน ตนรู้ตัวว่าสู้ไม่ไหวเลยทำทีแกล้งตาย และหมดสติไป กลุ่มชายก่อเหตุเลยตัดสินใจขับรถออกไป
ตนเองมั่นใจว่าคนที่มาติดต่อใช้บริการในครั้งที่ 2 น่าจะเป็นนกต่อที่ล่อให้ตนไปเจอกับทางกลุ่มผู้ก่อเหตุ ซึ่งหลังจากเกิดเรื่องตนเองก็ได้เข้ารับการรักษา ปรากฎว่าศีรษะแตกต้องเย็บ 5 เข็ม แขนซ้ายหัก 2 ท่อน ต้องใส่เฝือกแข็ง และร่องรอยฟกช้ำที่ตา และข้างหู โชคดีที่สมองไม่กระทบกระเทือน ส่วนทางคดีได้เข้าแจ้งความเหตุการณ์ที่ 2 ไว้ที่ สน.บุคคโล ในข้อหาทำร้ายร่างกายไว้ก่อนเบื้องต้น
ผู้เสียหายรายนี้ ยังยืนยันว่าส่วนตัวไม่รู้จักกับทางกลุ่มคนก่อเหตุแม้แต่คนเดียว และไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับใครในพื้นที่ ตนเองทำอาชีพขับรถจักรยานยนต์รับข้างมานานกว่า 40 ปี ตนก็ไม่เคยมีเรื่องหรือกระทบกระทั้งกับใครในพื้นที่ ตลอดจนก่อนเกิดเหตุเองก็ไม่ได้มีเรื่องขับรถปาดหน้าหรือมีการเฉี่ยวชนใครแต่อย่างใด รวมถึงตนเองไม่มีปัญหาเกี่ยวกับสิ่งผิดกฏหมาย ทุกอย่างทั้งยาเสพติด หรือเรื่องชู้สาวเพราะตนเองโสดมานานแล้ว อีกทั้งไม่เคยเป็นสายหรือเเจ้งเบาะแสให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย เลยทำให้แปลกใจว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่าอีกฝ่ายมาทำร้ายตนเพราะอะไร ทั้งที่ตนไม่รู้จักและมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน
ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยอมรับว่าตนเองหวาดกลัว และหวาดระเเวงว่าหากทางเข้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถจับกุมหรือตามตัวคนก่อเหตุมาได้ ตนก็จะไม่ปลอดภัย กลัวจะโดนทำร้ายร่างกายซ้ำอีก ทุกวันนี้ตนเองยังขาดรายได้จากการทำงาน เพราะไม่สามารถขับรถจักรยานยนต์รับจ้างได้ เลยตัดสินใจมาร้องเรียนกับทางเพจสายไหมให้ช่วยอีกเเรงในการตามตัวคนร้ายหรือประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการติดตามเรื่อง
ขณะที่ นายเอกภพ ระบุว่าเรื่องดังกล่าวจากการพูดคุยนั้นเบื้องต้นตนเองมีความสงสัยในหลายประเด็นว่า คนก่อเหตุนั้นเป็นกลุ่มคนร้ายรับจ้างหรือไม่ เพราะพฤติกรรมหากย้อนดูจากคลิปเหตุการณ์จะพบว่าเหมือนมีอยู่คนหนึ่งที่มีการบันทึกถ่ายภาพอัดคลิปวีดีโอในช่วงที่มีการรุมทำร้ายคล้ายเป็นการบันทึกภาพเพื่อส่งงานให้ใครหรือไม่ อีกทั้งสาเหตุที่แท้จริงเรื่องที่เกิดขึ้นหากอ้างตามคำกล่าวของผู้เสียหายทั้งที่ไม่รู้จักกัน แล้วทำไมถึงมาก่อเหตุ ตลอดจนผู้เสียหายเองก็ไม่ได้มีเรื่องบาดหมางกับใคร เลยเป็นประเด็นที่ตนน่าสงสัย และผู้เสียหายเองมีการแจ้งความติดตามเอาเรื่องผู้ก่อเหตุแล้วแต่ยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้ กลับมีการมาก่อเหตุซ้ำโดยทีีไม่เกรงกลัวกฎหมาย
ซึ่งวันนี้เองตนก็ได้พาผู้เสียหายไปลงพื้นที่จุดเกิดเหตุเพื่อย้อนกลับไปดูว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นอย่างไร ตลอดจนมีการประสานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ติดตามคดีและตามตัวคนร้ายเพื่อให้ทางผู้เสียหายเองมีความรู้สึกปลอดภัย
