เหมือนลูกตายฟรี ถูกรถแข่งพุ่งชนเป็นข่าวดัง ผ่านไป 2 เดือน ยังไร้เงาคนรับผิด

17 ก.ย. 65

เหมือนลูกตายฟรี แม่ร้องสื่อ ลูกชายถูกรถแข่งพุ่งชนริมสนามกลายเป็นข่าวดัง ผ่านไป 2 เดือน ยังไร้เงาคนรับผิดชอบ จี้ให้เทศบาลเอาผิดคนจัดแข่งขันด้วย

วันนี้ 17 ก.ย. 65 น.ส.ลัดดาวัลย์ หีดเภา หรือแม่จุ้ม อายุ 46 ปี ชาว ต.น้ำผุด อ.เมืองตรัง จ.ตรัง มารดาของ นายมณฑล หรือ ลูกปลา อายุ 16 ปี นักเรียนชั้น ม.4 โรงเรียนน้ำผุด (มัธยม) หลังเสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 3 ก.ค. จากเหตุการณ์รถแข่ง 150 ซีซี เสียหลักพุ่งชนน้องลูกปลา ซึ่งเป็นผู้เข้าชมการแข่งขันเสียชีวิตบริเวณขอบสนามชั่วคราวในการแข่งขันมอเตอร์ไซค์ทางเรียบการกุศล “กะพังสุรินทร์โรดเรซซิ่ง” ภายในสวนสาธารณะสระกะพังสุรินทร์ ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับผู้สื่อข่าว พร้อมด้วย นายเจริญ ศรนารายณ์ กำนัน ต.นาหมื่นศรี อ.นาโยง นายไกรสร ชูเพชร ทนายความอาสา หลังระยะเวลาผ่านมาถึง 2 เดือนกว่าๆ แต่ทางผู้จัดงานยังคงนิ่งเฉยไม่ออกมารับผิดชอบและเยียวยา รวมทั้งทางเทศบาล ยังคงปัดความรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น

น.ส.ลัดดาวัลย์ กล่าวว่า วันนี้อยากจะเรียกร้องว่า ให้มีคนเข้ามารับผิดชอบ ตั้งแต่ที่น้องเสียชีวิตลง มีการนำเงินมาช่วยเหลืองานศพเพียงแค่ 1 แสนบาทเท่านั้น และเรื่องก็ได้เงียบหายไปเลย ไม่มีใครติดต่ออะไรเข้ามา ซึ่งทาง นายถนอมพงษ์ หลีกภัย รองนายกเทศมนตรีนครตรัง บอกตนว่าจะช่วยงานศพแค่ 1 แสนบาทนั้นไปก่อน และจะเยียวยาจำนวน 1.3 ล้านบาทอีกส่วนหนึ่งก็กลับเงียบหายไป การดำเนินการทุกอย่างล้าช้าที่สุด เหมือนจะปล่อยให้เรื่องค่อยๆ เงียบหายไปเอง รู้สึกว่าไม่มีใครมารับผิดชอบกับการตายของลูก และการกระทำดังกล่าวที่เกิดขึ้น

1663410707387

น.ส.ลัดดาวัลย์ กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องทางคดีของกฎหมายเมื่อก่อนตนอาจมองว่าทำคดีด้วยความยุติธรรม แต่เมื่อเรื่องกลับล่าช้าแบบนี้ ความรับผิดชอบของทุกฝ่ายน้อยที่สุด และยังคงมองว่าการจัดแข่งรถดังกล่าวน่าจะเกี่ยวข้องกับเทศบาลนครตรังด้วย เพราะว่าตั้งแต่เริ่มต้นเปิดงานแข่งขัน ตลอดจนการแข่งขันทั้งหมด เทศบาลนครตรังมีส่วนร่วมทั้งหมด เช่น ใช้พนักงานเทศกิจของเทศบาลไปยืนคุมประตู อุปกรณ์ในหลายส่วนเป็นของเทศบาล เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน ตลอดไปจนถึงผู้บริหาร และสมาชิกสภาเทศบาลฯ เป็นผู้ควบคุมงานอยู่เกือบจะทั้งหมด แม้แต่วันเปิดงาน ทาง ดร.สัญญา ศรีวิเชียร นายกเทศมนตรี ยังคงกล่าวให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า เป็นเจตนารมณ์ของเทศบาลที่จะจัดงานแข่งรถนี้ขึ้นมา จึงอยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานว่าเทศบาลมีส่วนกระทำความผิดและจัดงานด้วยจริงๆ หรือไม่อย่างไร และล่าสุดทางตำรวจแจ้งมาว่า จะยื่นสำนวนส่งฟ้องอัยการศาล จ.ตรัง วันที่ 20 ก.ย.ที่จะถึงนี้ แต่ยื่นฟ้องแค่กลุ่มเอกชนที่มีชื่อเป็นผู้จัด จึงอยากให้สืบพยานสาวถึงหน่วยงานราชการอื่นด้วย เพราะต่างคนก็ต่างรู้อยู่แก่ใจ

น.ส.ลัดดาวัลย์ กล่าวปิดท้ายว่า ตอนนี้ครอบครัวยังทำใจกันไม่ได้ ตนไม่อยากให้ลูกต้องตายฟรี อยากให้ทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามารับผิดทางกฎหมาย และเข้ามาเยียวยาในความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับลูกของตน ถ้าหากเกิดขึ้นกับครอบครัวเขาจะรู้สึกยังไง ถ้าลูกของเขาเสียชีวิตลงแบบนี้ และไม่มีคนเข้ารับผิดชอบแบบนี้จะรู้สึกยังไง

ขณะที่ นายไกรสร ชูเพชร ทนายความอาสายื่นมือเข้ามาช่วยผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนจะไปดูว่าคดีนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการอย่างไร ตำรวจได้ดำเนินการอะไรไปบ้างแล้ว มีบุคคลใดเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกระทำความผิดบ้าง หากพบว่ามีการร่วมของเทศบาลฯ ก็จะยื่นร้องเรียนกับทาง ป.ป.ช. ตรวจสอบเกี่ยวกับการจัดงาน การขออนุญาตถูกต้องหรือไม่ เช่นการขอใช้ถนน และการจัดงานมีความปลอดภัยหรือไม่ เนื่องจากการจัดงานแข่งรถย่อมมีความเสี่ยงอยู่แล้วที่จะเกิดอุบัติเหตุ และทางผู้จัดต้องดูว่าจัดในฐานะไหน ส่วนตัว หรือในฐานะตัวแทนของเทศบาลฯ หากรู้ว่าตนเองกระทำความผิด ก็ควรออกมารับผิดชอบ ไม่สมควรนิ่งเฉย ความสูญเสียเกิดควรจะเยียวยาให้เร็วกว่านี้ ซึ่งจะรวบรวมหาพยานหลักฐานดำเนินการช่วยเหลือผู้เสียหายตามขั้นตอนต่อไป

advertisement

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส