ชาวบ้านเกาะเกร็ด จ.นนทบุรี เตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำ เร่งยกของขึ้นที่สูงแล้ว
จากที่กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนนทบุรี ได้ประชุมติดตามสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ได้มีข้อสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์การระบายน้ำจากพื้นที่ตอนบนและน้ำทะเลหนุนสูง โดยให้เทศบาลนครนนทบุรีดำเนินการพร่องน้ำภายในคลองส่วย เพื่อรับสถานการณ์ฝนตกหนักและน้ำท่วมขัง ตั้งแต่บัดนี้จนถึงเดือนตุลาคม 2565 และให้โครงการชลประทานนนทบุรี ติดตามและแจ้งปริมาณน้ำไหลผ่านบริเวณสถานี C29 อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หากมีปริมาณน้ำไหลผ่านตั้งแต่ 1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีขึ้นไป ให้แจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทันที
พร้อมทั้งให้อำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีพื้นที่อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ให้พิจารณาวางแนวกำแพงกระสอบทราย หรือวัสดุอื่นให้มีความเหมาะสม โดยให้เทียบเคียงกับปริมาณน้ำท่วมสูงสุดของแต่ละพื้นที่ เมื่อปี 2564 และเฝ้าระวังระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาและคลองสายต่าง ๆ ควบคู่กัน โดยให้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำในจุดที่มีปัญหาน้ำเอ่อล้นและท่วมขัง จัดหาเครื่องสูบน้ำมาติดตั้งเพิ่มเติม เพื่อช่วยเร่งการระบายน้ำ ตรวจสอบพื้นที่การก่อสร้าง ไม่ให้มีเศษวัสดุติดค้างภายในท่อระบายน้ำ และจัดเตรียมเรือท้องแบน และอุปกรณ์ให้ความช่วยเหลือไว้ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงน้ำเอ่อล้นเข้าบ้านเรือนประชาชน
ผู้สือข่าวได้เดินทางมาที่เกาะเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พบนางสุรินทร์ศรี ปลื้มปีดี อายุ 84 ปี ซึ่งบ้านหลังอยู่ติดริมแม่น้ำ นางสุรินทร์ศรี ได้เตรียมทยอยเก็บของขึ้นที่สูง เนื่องจากน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเริ่มหนุนสูงขึ้นตั้งแต่อาทิตย์ที่ผ่านมา
นางสุรินทร์ศรี เล่าว่า น้ำจะเริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วง เวลาประมาน 16.00 น.- 19.00 น. แล้วน้ำจะหยุดนิ่ง จนถึงช่วงเช้ามืดน้ำก็ได้เริ่มลดลง เนื่องจากที่ผ่านมาฝนตกพายุหนักทำให้น้ำป่าไหลหลากน้ำทะเลหนุนสูงจึงทำน้ำท่วมบ้านเรือนของประชาชนที่อยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยาได้รับผลกระทบกันทั่วหน้ารวมทั้งช่วงเวลาน้ำทะเลหนุนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมแม่น้ำนอกแนวคันกั้นน้ำ แนวเขื่อนชั่วคราวในบริเวณที่ไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร (แนวฟันหลอ) พื้นที่จุดเสี่ยงที่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ ขอให้ระมัดระวัง ช่วงเวลาน้ำทะเลหนุนสูงสุด ในวันที่ 24 - 25 สิงหาคม 2565 วันที่ 8 - 14 กันยายน และวันที่ 24 - 26 กันยายน 2565 โดยขอให้ติดตามสถานการณ์ และข้อมูลข่าวสารของทางราชการอย่างใกล้ชิด
การเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังจากกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนนทบุรี ออกหนังสือฉบับหนึ่งเมื่อวันศุกร์ (19 ส.ค.) ว่ากรมชลประทานและกองอำนวยการน้ำแห่งชาติเห็นตรงกันว่าจะระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 1,500-1,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระหว่างวันอังคารถึงวันพฤหัสบดี (23-25 ส.ค.) ที่จะทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น 40-80 เซนติเมตร และถ้าหากระดับน้ำเหนือเขื่อนยังคงสูงอยู่ ก็จะต้องระบายน้ำเพิ่มเป็นมากกว่า 1,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
