ทนายตั้ม พาสาวผู้เสียหายติดตามความคืบหน้าคดี ที่สน.โชคชัย หลังถูกหลานอดีตรัฐมนตรี ล่อลวงทำอนาจาร
วันที่ 24 ส.ค.65 นางสาวแป้ง (นามสมมติ) ศิลปินนักแสดงสาวอายุ 21 ปี เข้าพบทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน หลังถูกหลานของอดีตรัฐมนตรีลวงไปล่วงละเมิดทางเพศ และได้แจ้งความกับตำรวจ สน.โชคชัยแล้ว แต่เกรงว่าคดีจะไม่คืบหน้า เพราะอีกฝ่ายเป็นหลานอดีตรัฐมนตรี และรู้จักกับตำรวจหลายนาย
ล่าสุด เวลา 15.30 น. ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด เดินทางมาที่ สน.โชคชัย พร้อมกับผู้เสียหายคือ นางสาวแป้ง และนางสาวออน (นามสมมติ) พี่สาวผู้เสียหาย
ทนายษิทรา เปิดเผยว่า หลังจากที่เมื่อช่วงเช้าที้ผ่านมา ผู้เสียหายได้เดินทางไปหาตนที่สำนักงาน และชี้เเจงกับสื่อไปเเล้วเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตอนนี้ตนจึงได้พานางสาวแป้งมาติดตามความคืบหน้าทางคดี ตลอดทางที่เดินทางมานางสาวแป้งได้เล่ารายละเอียดให้ตนฟังเพิ่มเติม ว่าน้องไม่เคยมีอะไรกับผู้ชายมาก่อน ซึ่งเมื่อไปตรวจร่างกายที่ รพ. พบว่ามีสารคัดหลั่ง แต่เยื่อพรหมจรรย์ยังอยู่
ตอนแรกเลยที่เกิดเหตุน้องค่อนข้างจะมึน น้องไม่รู้เรื่องอะไรเลย น้องไม่รู้ว่าตัวเองโดนอะไร จึงได้มีการโทรศัพท์ไปถามฝ่ายชาย เพื่อหาหลักฐาน เเละสอบถามว่าทำอะไรตนเองหรือไม่ ฝ่ายชายปฏิเสธว่าไม่ได้ทำอะไร แต่ในภายหลังกลับบอกว่าผู้เสียหายยินยอม เเต่ ผู้เสียหายยังยืนยันคำเดิมว่าตัวเองไม่รู้เรื่องอะไรที่เกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย อีกทั้งยังมีการวางยาสลบ ทำให้ผู้เสียหายไม่รู้สึกตัว
ซึ่งเมื่อตรวจสอบประวัติของฝ่ายชาย พบว่าเป็นเจ้าของกิจการใหญ่โต อีกทั้งยังเป็นหลานชายของอดีตรัฐมนตรีอีกด้วย อีกทั้งยังเคยมีการบอกกับผู้เสียหายด้วยว่าในอนาคตฝ่ายผู้ก่อเหตุจะมีการลงสมัครเลือกตั้งนายกรัฐมนตรี ก่อนจะมีการหลอกล่อผู้เสียหายว่าจะทำละครให้ ซึ่งน้องเองก็เป็นนักเเสดงเเละนักร้องที่มีผลงานเพลง ซึ่งเรื่องนี้ตนมองว่าหากผู้ก่อเหตุจะมีสันดานแบบนี้ ก็ไม่ควรที่จะลงสมัครนายกรัฐมนตรี เพราะคงจะต้องเข้าคุกก่อน
สาเหตุที่ตนต้องเดินทางมาที่สถานีตำรวจในวันนี้ เนื่องจากต้องการที่จะติดตามความคืบหน้าของคดี เนื่องจากตนทราบมาว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการแจ้งกับทางผู้เสียหายว่าขออย่าให้เรื่องนี้เป็นข่าว อย่าเอาทนายความเข้ามาช่วย ทำให้ผู้เสียหายเกิดความสับสน จนต้องเดินทางมาปรึกษาตนที่สำนักงาน
ทนายตั้ม เปิดเผยอีกว่า หลังจากเมื่อช่วงเช้าที่ได้มีการแถลงข่าวไปนั้น ญาติของฝ่ายผู้ก่อเหตุได้มีการโทรติดต่อมาทางผู้เสียหาย โดยเสียงปลายสายเป็นเสียงของผู้หญิง อ้างตัวว่าเป็นอาของผู้ก่อเหตุ และมีการพูดในเชิงข่มขู่ว่าตัวเองมีตำแหน่งหน้าที่การงานในรัฐบาล และกำลังจะร่วมโครงการใหญ่กับรัฐบาล ขออย่าให้เรื่องนี้เสื่อมเสียถึงชื่อเสียงวงศ์ตระกูล อีกทั้งหากเป็นข่าวไปฝ่ายหญิงเองก็จะเสียหายด้วย ขอให้ผู้เสียหายยอมความ เพราะเรื่องมันก็แล้วไปแล้ว แต่ตนเองไม่กลัวเรื่องอิทธิพล เพราะว่าคนทำผิดก็ต้องได้รับโทษ
ด้านนางสาวแป้ง (นามสมมติ) อายุ 21 ปี ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า สาเหตุที่ตนถูกกระทำเกิดจากความไว้ใจ เพราะฝ่ายชายเป็นคนดีและมีหน้ามีตาทางสังคม อีกทั้งยังลงเล่นการเมือง ทำให้ตนรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เเละทำให้ตนเองเสียอนาคต ส่วนพยายามทำใจแล้วแต่ก็ยังทำใจไม่ได้ ซึ่งตั้งแต่เกิดเรื่องตนและพี่สาวพยายามทำทุกวิถีทาง ทั้งติดต่อโรงพยาบาลและตำรวจ เพื่อให้ช่วยดำเนินคดีกับฝ่ายชาย แต่ก็ไม่มีอะไรคืบหน้า ตนจึงตัดสินใจมาหาทนายตั้ม เพื่อขอให้ช่วยติดตามความคืบหน้าทางคดี เพราะตนรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้มีเส้นสายใด ๆ
ตนยอมรับว่าคือครั้งเเรกของตน เพราะตนไม่เคยมีแฟนเป็นผู้ชายมาก่อน แต่ตนต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ ทำให้ตนอยากจะสู้เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของตัวเอง ตอนนี้ตนเองก็กังวลกับเรื่องที่เกิดขึ้นว่าจะกระทบกับงานการแสดงละครที่กำลังเข้ามาของตน อย่างไรก็ตามตนอยากจะให้สังคมและผู้ใหญ่ของช่องต่าง ๆ เข้าใจว่าตนตกเป็นเหยื่อในคดีนี้ ตนขอความเห็นใจให้กับตนด้วย
ด้านนางสาวออน (นามสมมติ) อายุ 25 ปี พี่สาวผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ในวันที่เกิดเหตุตนทราบว่าน้องสาวได้เดินทางไปที่รีสอร์ตแห่งหนึ่ง เพื่อคุยงานกับลูกค้า 2 คน แต่ช่วงเวลาที่น้องไปค่อนข้างที่จะดึกแล้ว อีกทั้งยังติดต่อน้องสาวไม่ได้ ตนจึงได้ตัดสินใจเดินทางไปที่รีสอร์ตดังกล่าว แต่เมื่อมาถึงทางรีสอร์ตกลับแจ้งเตือนว่าไม่สามารถที่จะเข้าไปภายในรีสอร์ตได้ เนื่องจากลูกค้าคนดังกล่าวเป็นลูกค้า VVIP อีกทั้งยังเป็นลูกค้าประจำ หากตนบุกรุกเข้าไปจะต้องถูกแจ้งความดำเนินคดี หลังจากนั้นตนจึงได้โทรแจ้งตำรวจ สน. โชคชัย ให้มาที่รีสอร์ตดังกล่าว
มื่อตำรวจสายตรวจ สน.โชคชัยเดินทางมาถึงก็ได้มีการพูดคุยกับเจ้าของรีสอร์ต ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจยศใหญ่ ไม่สามารถที่จะเข้าไปภายในรีสอร์ตได้ ตนจึงเปิดรูปของผู้ก่อเหตุให้ตำรวจดู แต่ทางตำรวจกับพูดจาดูหมิ่นน้องสาวของตน กล่าวว่าฝ่ายชายดูหล่อและรวย เป็นฝ่ายหญิงหรือไม่ที่แอบมาขาย หลังจากนั้นตนจึงได้กลับบ้านไปก่อน
ซึ่งหลังจากเกิดเหตุ พวกตนก็ได้มาเเจ้งความไว้กับตำรวจ สน.โชคชัย เเต่ทางตำรวจกลับบอกว่าไม่ต้องไปหาทนาย เพราะจะมีอัยการช่วยเหลืออยู่เเล้ว อีกทั้งยังพูดจาข่มขู่จนทำให้น้องสาวเกิดความกลัว ในวันนี้หลังจากที่พวกตนได้มีการแถลงข่าวไปเมื่อช่วงกลางวันก็ได้มีโทรศัพท์มาจากญาติของผู้ก่อเหตุ ข่มขู่พวกตนว่าหากพวกตนออกข่าวจะทำให้เกิดความเสียหายกับทั้งตัวน้องสาวและผู้ก่อเหตุ เพราะฝ่ายชายกำลังจะลงเลือกตั้ง และจะลงนายกรัฐมนตรี หากอยากได้เงินสามารถเรียกร้องได้เลย ยังไม่ได้เสนอตัวเงิน ฝ่ายผู้ก่อเหตุยินดีที่จะจ่าย อีกทั้งยังอ้างว่าตัวเองเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของช่องใหญ่ ซึ่งหากฝ่ายผู้เสียหายยืนยันที่จะไม่เอาความก็จะสามารถปั้นให้น้องสาวเป็นนักแสดงช่องใหญ่ได้
ซึ่งจากการสอบถามข้อมูลจาก พนักงานภายในรีสอร์ต ทราบว่าในช่วงวันที่เกิดเหตุได้มีหญิงสาวรายหนึ่งเข้ามาอ้างกับพนักงานว่าต้องการมาติดตามหาน้องสาวที่เข้ามาในรีสอร์ตแห่งนี้จริง แต่เนื่องจากเป็นกฎของทางรีสอร์ตจึงไม่สามารถที่จะอนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้าไปภายในห้องพักได้