ฆ่าคว้านอกบนสะพานลอย อมรินทร์เจอภาพลับ 3 ชายมาหาตี 4 เพื่อนช็อกนอนดมเลือด (คลิป)

23 ส.ค. 65

จากกรณีวันที่ 23 ส.ค.65 เวลา 06.00 น. ร.ต.อ.ธนกร แก้วสุวรรณ รอง สว.สอบสวน สภ.โพธิ์แก้ว อ.สามพราน จ.นครปฐม รับแจ้งมีคนถูกฆ่าตายเหตุเกิดบนสะพานลอย หน้าโรงงานไก่แหลมทอง ถ.พุทธมณฑลสาย 5 หมู่ 9 ต.ไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม

406954

ไปที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.อ.กัมปนาท ณ วิชัย ผกก.สภ.โพธิ์แก้ว, พ.ต.ท.พายัพโสธรางกูล รอง ผกก.ป.สภ.โพธิ์แก้ว, พ.ต.ท.กิตติพนธ์ สังฆะพันธ์ รองผกก.สส.สภ.โพธิ์แก้ว ชุดสืบสวนแพทย์เวร รพ.สามพราน เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 7 มูลนิธิร่วมกตัญญู

268871

ภาพกล้องวงจรปิดภายในบริเวณตลาดสดถุงเงิน อยู่ฝั่งตรงข้ามโรงงานใหญ่ไก่แหลมทอง เวลา 04.14 น. เห็นสะพานลอยที่เกิดเหตุ แต่เป็นในมุมที่ค่อนข้างไกล จุดดังกล่าวมีลักษณะเงาตะคุ่มคล้ายคนเดินไปมา สอดคล้องกับคำบอกเล่าของเจ้าของร้านค้าที่บอกว่า เห็นกลุ่มผู้ต้องสงสัยขึ้นไปบนสะพานก่อนพบผู้เสียชีวิต จากนั้นเวลา 04.18 น. เห็นเเสงไฟคล้ายไฟของ รปภ. เดินขึ้นไปบนสะพาน และเวลา 04.39 น. มีรถกู้ชีพมาถึงที่เกิดเหตุ

935179

เจ้าของร้านค้า ให้ข้อมูลว่า วันเกิดเหตุช่วงเวลาประมาณ 04.05 น. พบเห็นกลุ่มชายต้องสงสัยจำนวน 3 คน เดินลงมาจากสะพานลอยที่เกิดเหตุ ยืนคุยกับบริเวณหน้าร้านค้าก่อนขึ้นสะพานลอยอีกครั้ง จนกระทั่งเวลาผ่านไปประมาณ 20 นาที กลุ่มชายต้องสงสัยจำนวน 3 คนก็เดินกลับลงมาจากสะพานลอยอีกครั้ง สังเกตเห็นพบว่า 1 ใน 3 ผู้ต้องสงสัย มีอาการมือไม้สั่นผิดปกติ ก่อนที่ทั้ง 3 คนจะแยกย้ายกัน

297934

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางลงพื้นที่บริเวณสะพานลอย หน้าโรงงานไก่แหลมทอง ถนนพุทธมณฑลสายห้า หมู่ 9 ต.ไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม นายตี๋ใหญ่ แซ่จิ๋ว อายุ 50 ปี ชายเร่ร่อนที่อยู่บนสะพานลอย เปิดใจกับทีมข่าวว่า ตนเองเป็นชาวเชียงใหม่แต่มาอยู่ที่นครปฐม และพักอาศัยอยู่ที่บริเวณสะพานแห่งนี้ได้นานร่วม 3 เดือนแล้ว

443284367718

ซึ่งช่วงที่ผ่านมาตนเองไม่เคยพบเห็นเหตุการณ์ในลักษณะนี้มาก่อนรวมถึงเหตุการณ์ที่มีการปล้นชิงทรัพย์อีกด้วย เพราะไฟบนสะพานลอยค่อนข้างที่จะสว่าง อีกทั้งคนที่ผ่านไปผ่านมา ก็ไม่เคยมาหาเรื่องตนเองเลยแม้แต่ครั้งเดียว ก่อนหน้านี้ตนเองเคยเห็นผู้ตายบริเวณแถวสะพานลอยตรงทางขึ้น แต่ก็ไม่เคยพูดคุยหรือสุงสิงอะไรกัน

365325

ส่วนเมื่อวานนี้ ตนเองก็มีการดื่มยาดองเข้าไป ทำให้เข้านอนเร็ว นอนคลุมโปงในช่วงเวลาประมาณ 20.00-21.00 น. และหลับยาว จนไม่ได้ยินเสียงคนขึ้นมาทะเลาะกัน หรือมีเสียงการทำร้ายร่างกาย หรือเสียงขอความช่วยเหลือแต่อย่างใด

220200

จนกระทั่งช่วงเวลาใกล้จะเช้ามืด จำได้ว่าฟ้ายังมืดอยู่ แต่ตัวเองไม่มีนาฬิกาหรือมือถือทำให้ไม่ทราบเวลาที่แน่ชัด อยู่ ๆ ก็มีทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาปลุกตนให้ตื่นขึ้น พร้อมกับถามว่ารู้จักคนตายหรือไม่ ซึ่งตนเองก็ค่อนข้างที่จะงง เพราะว่าเพิ่งจะตื่นขึ้นมาแล้วพบว่ามีศพอยู่ที่ข้างตัวแล้ว หลังจากนั้นตัวเองก็เลยขยับออกไปนั่งไกล ๆ กับศพ จากการสังเกตพบว่าศพผู้ตายมีการนอนคว่ำ และหันหน้าไปทางขวามีบาดแผลนอนจมกองเลือดเเล้ว

938833

นางสาววันวิสา สุขพลกิจ อายุ 44 ปี เพื่อน รปภ. ที่ทำงานที่โรงงานไก่เเหลมทอง เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 04.00 น. ของวันนี้มีเพื่อนพนักงานเลิกกะช่วงดึก ก่อนจะเดินข้ามสะพานลอยเพื่อที่จะกลับบ้าน หลังจากนั้นก็พบกับผู้เสียชีวิตซึ่งในตอนนั้นอยู่ในสภาพได้รับบาดเจ็บสาหัส จึงรีบวิ่งลงจากสะพานลอยกลับมาที่ป้อมยาม เเละตาม รปภ. หัวหน้าชุดให้ขึ้นไปดูคนเจ็บ

โดยช่วงที่ รปภ.ขึ้นไปดูคนเจ็บนั้น ก็พบว่าผู้บาดเจ็บยังคงมีชีพจรอยู่เล็กน้อย ตอนนั้นผู้ที่อยู่ใกล้กับผู้บาดเจ็บมากที่สุดคือนายตี๋ใหญ่ ชายเร่ร่อนที่นอนอยู่บนสะพานลอยเท่านั้น หลังจากนั้นจึงได้มีการโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยกู้ชีพกู้ภัยให้มาที่เกิดเหตุ

235412

หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุก็ได้มีการสอบปากคำชายเร่ร่อนคนดังกล่าว ไม่พบพิรุธใด เนื่องจากชายเร่ร่อนอ้างว่าตัวเองเมาหลับ ตนก็เชื่อว่าชายเร่รอนน่าจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะดูจากรูปร่างเเล้ว ลุงดูอ่อนแอ เเต่ผู้ตายดูตัวใหญ่ เเละน่าจะเเข็งเเรงกว่า เท่าที่ตนได้สอบถามพนักงานภายในโรงงานทราบว่าเคยมีคนพบเห็นผู้ตายนั่งกินเหล้าอยู่บริเวณสะพานลอยแห่งนี้บ่อยครั้ง แต่ไม่ทราบว่าผู้ตายทำงานอยู่ที่ใด เหตุการณ์แบบนี้เพิ่งเคยเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกที่ถึงขั้นเสียชีวิต เพราะส่วนใหญ่จะเป็นชาวเมียนมาทะเลาะและมีปัญหากันเองหรือบางครั้งก็มีการไล่ตีกัน

ตนสันนิษฐานว่า สาเหตุการตายในครั้งนี้อาจเกิดจากการที่ผู้ตายมีการดื่มเหล้าแล้วเกิดทะเลาะกับเพื่อนร่วมวง จนมีการใช้กำลังเกิดขึ้นทำให้ผู้ตายเสียชีวิต เพราะทราบจากตำรวจพบทรัพย์สินผู้เสียชีวิตอยู่ครบ เท่าที่สอบถามพยานเเวดล้อม ทราบว่าผู้ตายเป็นคนดื่มเหล้าจัด แต่ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าผู้ตายชื่อว่าอะไร

 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส