มึนทั้งโรงพัก หนุ่มสำนึกผิดเสพยาบ้า ขนข้าวของมาเต็ม อ้อนตำรวจขอติดคุก

หนุ่มไทใหญ่อ้างว่าเสพยาบ้าจนเมาแล้วสำนึกผิด ถือซองบะหมี่เดินเข้ามามอบตัวกับตำรวจบนโรงพัก ตรวจแล้วไม่เจอสารเสพติดเลยอดเข้าคุก

เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา (18 ส.ค.) ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมกับทนายความอาสากำลังปฏิบัติหน้าที่ให้บริการประชาชนอยู่ที่บนสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่อยู่นั้น ได้มีชายคนหนึ่งสวมเสื้อสีแดงพร้อมกับแสดงตัวตามบัตรบุคคลไม่มีสัญชาติไทยว่าชื่อ นายอูซ่า ไม่มีนามสกุล อายุ 44 ปี พำนักอยู่กับนายจ้างใน อ.หางดง จ.เชียงใหม่ ว่ามีความประสงค์จะขอเดินเข้าคุกบนโรงพัก เนื่องจากเมื่อวานนี้ตนได้เสพยาบ้าไปแล้ว 1 เม็ด จึงสำนึกผิดที่ได้ทำผิดกฎหมาย จึงเข้ามามอบตัวกับตำรวจเพื่อขอรับโทษ สร้างความงุนงงให้กับเจ้าหน้าที่

ต่อมาทางทางตำรวจและทนายอาสาได้พานายอูซ่าไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนที่อาคารด้านหลังของ สภ.เมืองเชียงใหม่ โดยทางตำรวจก็ถามย้ำว่าทำไมต้องมามอบตัว นายอูซ่าก็บอกว่าตนเสพยาบ้ากับเพื่อนวานนี้ 1 เม็ด วันนี้เกิดสำนึกผิดจึงมาเข้ามอบตัวพร้อมกับเตรียมบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เครื่องใช้ส่วนตัว และยาแก้ปวดมาพร้อมแล้ว

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงพยายามสอบถามเพื่อจะขยายผลว่าตำรวจต้องการจับกุมเครือข่ายค้ายาบ้าว่าเพื่อนที่นำยาบ้ามาเสพอยู่แถวไหน แต่นายอูซ่าไม่ยอมบอก ทางตำรวจได้ตรวจสอบบัตรประจำตัวคนต่างด้าวพบว่าเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด นายอูซ่าก็ยังยืนยันว่าจะขอเข้าคุกเหมือนเดิม ทางตำรวจกล่าวว่ามีให้เลือก 2 ทางตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดแก้ไขใหม่ คนเสพเป็นผู้ป่วยจะสมัครใจไปบำบัดหรือไม่ หรือว่าจะให้ส่งฟ้องศาล ทางนายอูซ่าก็บอกว่าตนไม่มีเงินเสียค่าปรับจะขอเข้าคุกอย่างเดียวเท่านั้น

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวไปสอบสวนและตรวจปัสวะเพื่อหาสารเสพติด แต่กลับไม่พบสารเสพติดในปัสวะแต่อย่างใด แต่นายอู่ซ่ากลับมีกลิ่นสุราคาดว่าผู้ต้องหาจะเมาสุรามากกว่าเมายาบ้า และจากการตรวจสอบบัตรทำงานของนายอูซ่าพบว่าจะหมดอายุในปี 2571 หลังจากที่สอบสวนแล้วในเบื้องต้นตำรวจยังไม่สามารถดำเนินคดีกับนายอูซ่าตามกฎหมายได้เพราะตรวจไม่พบสารเสพติดในร่างกาย และบัตรประจำตัวก็ไม่หมดอายุจึงอบรมว่ากล่าวตักเตือนก่อนปล่อยตัวไป