จากกรณีเกิดเหตุรถกระบะขับขี่ปาดหน้ากัน จนมีการโต้เถียงกันเกิดขึ้น และเกิดเหตุใช้อาวุธปืนยิงจนมีผู้เสียชีวิต 1 คน บริเวณถนนวังบัว-ลาดโพธิ์ หมู่ 2 บ้านไร่คา อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี โดยผู้เสียชีวิตคือ นายณัฐวุฒิ สว่างใจ หรือ นัด อายุ 28 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 99 มม. เข้าที่บริเวณหน้าท้อง ไหล่ขวา แขนขวา เสียเลือดมาก และเสียชีวิตที่โรงพยาบาล
จากการสืบสวนของชุดสืบสวนของ สภ.บ้านลาด ได้สืบสวนหาข่าวทราบว่าผู้เป็นเจ้าของรถยนต์ทะเบียนดังกล่าว คือนายบัญฑิต หรือ เล็ก โพธิ์ศิริ อายุ 61 ปี ติดตามไปที่บ้านพบนายบัญฑิตอยู่ที่บ้าน รับว่าตนเองเป็นผู้ก่อเหตุ ใช้อาวุธปืนพกยิงนายณัฐวุฒิจริง และได้นำเจ้าหน้าที่ไปตรวจยึดอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ ซึ่งได้นำไปฝากไว้กับญาติ
จึงได้จับกุมตัวนายบัญฑิต โดยกล่าวหาว่าฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, พาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรและโดยไม่ได้รับอนุญาติให้มีอาวุธปืนติดตัว, ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร, ขับรถในขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่น
จากการสอบถามผู้ก่อเหตุในเบื้องต้นให้การว่าในวันที่ 4 ส.ค.65 เวลาประมาณ 19.30 น. ขณะที่ตนขับรถยนต์มาตามถนนสายวัดโพธิ์เรียง-ไร่มาบ ถึงบริเวณหมู่บ้านนาฉอก หมู่ 2 ต.โรงเข้ อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี ได้มีรถกระบะของนายณัฐวุฒิ สว่างใจ จอดเปิดไฟสูงอยู่ริมถนน ทำให้มองไม่เห็นทาง
เกิดความโมโหจึงได้ชะลอรถและต่อว่ามีปากเสียงกันจากนั้นตนได้ขับรถยนต์เข้าไปในหมู่บ้านนาฉอกหมู่2ต.โรงเข้ฯเพื่อจะไปรับประทานอาหารเย็นในตลาดเพชรบุรีได้พบรถยนต์ของนายณัฐวุฒิฯอีกครั้งหนึ่งจึงได้ขับรถไปจอดตัดหน้าและถืออาวุธปืนพกลงไปยิงนายณัฐวุฒิฯจำนวน8นัดแล้วได้ขับรถหลบหนีไปที่บ้านของตนชุดสืบสวนของสภ.บ้านลาดจึงได้นำตัวผู้ก่อเหตุพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายต่อไปทั้งนี้นายบัญฑิตโพธิ์ศิริไม่เคยมีประวัติอาชญากรรมมาก่อน
นางสาววัลภา สว่างใจ ภรรยาของผู้เสียชีวิต เล่าว่า เมื่อวานช่วงเวลาประมาณ 19.30 น. กว่า ตนและสามีรวมถึงเพื่อนอีก 3 คนกำลังจะขับรถออกจากบ้านเพื่อไปทำธุระปรากฏว่า ไปเจอเข้ากับรถของคุณลุงคันสีแดงเลือดหมู คุณลุงเปิดกระจกมาบอกว่าทำไมต้องเปิดไฟสูงใส่ สามีตนจึงบอกว่าไม่ได้เปิดไฟสูง เปิดไฟปกติ ส่วนตัวแล้วเข้าใจว่ารถยนต์ของสามีเป็นคันที่ยกสูง ส่วนรถยนต์ของลุงค่อนข้างเตี้ย เพราะฉะนั้นเวลาขับตามหลังลุงรถมันก็จะเหมือนไฟสูงส่องกระจกลุง
นอกจากนี้ก็มีปากเสียงกัน ได้เปิดกระจกด่ากัน สามีได้พูดว่า "ลุงไม่เคยตายหรอ" แต่เป็นลักษณะของการพูดคล้ายคนโมโห คือไม่ได้คิดที่จะจริงจังกับคำพูด ตอนนั้นตนจึงบอกกับสามีไปว่าอย่าไปถือสาเลยลุงเพราะแกเมา น้อง ๆ ในรถก็บอกว่าลุงคนนี้แกเป็นคนชอบเมาเหล้าแล้วขี้โมโหด้วย จึงไม่ถือสาอะไร
หลังจากนั้นก็ขับรถมุ่งตรงไปข้างหน้าอีกประมาณ 1 กิโลเมตร จอดรถบริเวณจุดที่เกิดเหตุ เพื่อที่จะลงไปซื้อของ ปรากฏว่ามองจากกระจกเห็นว่าลุงขับรถตามมาแล้วก็ขับมาปาดจอดอยู่หน้ารถตน จากนั้นก็ถืออาวุธปืนลงมาด้วย มายืนอยู่บริเวณข้างคนขับ ลักษณะโมโห กำลังด่าทอสามี แต่ตอนนั้นพวกตนก็เริ่มกังวล จึงบอกสามีว่าให้ขับรถหนีไปเลย ตอนนั้นสามีกำลังเร่งเครื่องขับรถหลบหนีปรากฏว่าไม่ทัน ลุงได้ใช้อาวุธปืนยิงที่บริเวณกระจกข้างคนขับกระสุนถูกสามีทั้งหมด 8 นัด บริเวณแขน 2 นัด บริเวณท้อง 5 นัด และขาอีก 1 นัด
ส่วนที่บอกว่าสามีขับรถยนต์ชนรถคุณลุง ไม่เป็นความจริง เพราะว่าตอนที่ชนสามีถูกยิงแล้วและพยายามจะขับรถหลบหนีแต่เสียหลักชนท้ายรถลุง และรถยนต์ก็พุ่งไปอีกเลนทางฝั่งขวาติดกับร้านขายของชำ หลังจากนั้นตนก็ลงจากรถรีบวิ่งออกมาดูสามีปรากฏว่าสามีเปิดประตูแล้วตกลงมานอนข้างรถ สภาพเลือดอาบไปทั้งตัวตนได้พยายามปลดกระดุมแล้วนำยาดมให้สามี แล้วก็มีชาวบ้านแถวนั้นโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้าช่วยเหลือซึ่งตอนนั้น ตนก็ไม่ได้สนใจรถของคู่กรณีแล้ว สนใจแค่ว่าสามีได้รับบาดเจ็บสาหัส ครั้งสุดท้ายที่สามีพูดกับตนก่อนเสียชีวิต ก็คือบอกว่าแน่นหายใจไม่ออก
ทีมข่าวเดินทางไปยัง สภ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี พนักงานสอบสวนยังคงสอบสวนผู้ก่อเหตุนายบัญฑิต โพธิ์ศิริ อายุ 61 ปี โดยมีทนายความอยู่ด้วย