สระแก้วเร่งติดตามตัว ชาวไนจีเรียติดเชื้อฝีดาษวานร หนีเข้ากัมพูชาหลัง พบสัญญาณโทรศัพท์มือถือ ปรากฎอยู่บริเวณชายแดนบ้านคลองลึก อำเภออรัญประเทศ
วันนี้ (23 ก.ค.65) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนในจังหวัดสระแก้ว เตรียมพร้อมรับตัวชาวไนจีเรียที่ได้รับเชื้อฝีดาษวานร หลบหนีมาจากอำเภอป่าตอง จังหวัดภูเก็ต หลังจากเมื่อช่วงเย็นวานนี้ (22 ก.ค.) พบข้อมูลว่า เจ้าหน้าที่ชุดติดตามชาวไนจีเรียคนนี้ พบสัญญาณโทรศัพท์มือถือ ปรากฎอยู่บริเวณชายแดนบ้านคลองลึก อำเภออรัญประเทศ ขณะที่มีข้อมูลจากแหล่งข่าวด้านความมั่นคง พบว่า ชาวไนจีเรียคนนี้หลบหนีข้ามแดนไปแล้วเมื่อ 2 วันก่อน
เจ้าหน้าที่ประจำด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศบ้านคลองลึก อำเภออรัญประเทศ พร้อมเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองอรัญประเทศ ได้พาทีมข่าวของเราดูห้องแยกกักโรค ที่อยู่ภายใต้อาคารตรวจเอกสารขาเข้า ของด่านตรวจคนเข้าเมืองอรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว หากพบหรือจับกุมตัวชาวไนจีเรีย อายุ 27 ปี ที่มีการยืนยันจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตว่า ได้รับเชื้อฝีดาษวานรเป็นคนแรกของประเทศไทย กระทั่งล่าสุด เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (22 ก.ค.) มีข้อความจากหน่วยงานด้านความมั่นคงระบุว่า มีการตรวจพบสัญญาณโทรศัพท์มือถือชาวไนจีเรียบริเวณตะเข็บชายแดน พื้นที่บ้านคลองลึก อำเภออรัญประเทศ
นายชัยยงค์ กุหลาบ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ประจำสำนำนักงานด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศบ้านคลองลึก ยอมรับว่า ทางกรมควบคุมโรค ได้มีการประสานผ่านทางไลน์พร้อมแนบภาพถ่ายชาวไนจีเรียคนนี้ ให้กับเจ้าหน้าที่ตลอดแนวชายแดนทุกหน่วยงาน เฝ้าระวังติดตามจับกุมตัวโดยเร็วที่สุด โดยพร้อมความของหน่วยงานในจังหวัดสระแก้ว ได้เตรียมห้องแยกกักโรคไว้แล้ว หากพบตัวชาวไนจีเรียตรงตามรูปพรรณสัณฐาน เจ้าหน้าที่จะเข้าควบคุมตัวทันทีโดยสวมใส่ชุดพีพีอี จากนั้นจะนำไปพักคอยภายในห้องแยกกักโรค ของอาคารตรวจเอกสารขาเข้า ด่านตรวจคนเข้าเมืองอรัญประเทศ ก่อนจะติดต่อกรมควบคุมโรคในส่วนกลางให้มารับตัวทันที เนื่องจากเคสนี้เป็นเคสสำคัญระดับประเทศ
ขณะเดียวกัน ทีมข่าวของเราได้พูดคุยกับแหล่งข่าวด้านความมั่นคงในพื้นที่พบว่า ทางเจ้าหน้าที่ชุดติดตามตัวชาวไนจีเรีย พบสัญญาณโทรศัพท์ตั้งแต่ช่วงเย็น เวลาประมาณ 18.39 น.ตั้งแต่ 2 วันก่อน (21 ก.ค.) บริเวณบ้านหนองเอี่ยน ตำบลท่าข้าม อำเภออรัญประเทศ คาดว่าได้หลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว โดยเป็นการหลบหนีออกนอกประเทศ โดยผ่านคนกลางที่คนในพื้นที่รู้จักกันดีว่า เจ้คนนี้ เป็นผู้ทำธุรกิจในลักษณะแบบนี้มานาน และจะรับเฉพาะแต่คนต่างชาติเท่านั้น ราคาค่าหัวละ 10,000 ถึง 20,000 บาทต่อหัว
