ผัวเมียสาบสูญเจอรถจมคลอง แม่ฉลองวันเกิดหน้าโลง อึ้งผีสิงญาติบอกหลับใน (คลิป)

จากกรณี เพจศูนย์ข่าวทานตะวัน ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความระบุว่า "#แจ้งข่าวคนหาย 2คนเป็นสามีภรรยากัน หายไปพร้อมกับรถยนต์ วีออสสีขาว ตาล กับ เตย หายตัวไปตั้งแต่คืนวันศุกร์ที่ 8 ก.ค. ล่าสุดที่พบเห็นคือออกมาจากร้านเหล้าตรงข้ามบิ๊กซีประมาณตี2ขี่รถออกจากร้านแล้วหายตัวไปเลย เส้นทางที่คาดว่าจะไปคือ

1. กลับบ้านโนนพยอม โกสุมพิสัย อาจกลับบ้านใช้เส้นทางมิตรภาพออกจากร้านเหล้าหน้าบิ๊กซีไปตามถนนหลักเลี้ยวซ้ายแยกท่าพระไปทางโกสุมอีกประมาณ15กิโลเมตร
2. อาจจะเปิดห้องนอนพักในเมืองขอนแก่น เพราะปกติน้องต้องตื่นเช้าไปเปิดแผงขายอาหารทะเลยุบางลำภู

ตอนนี้ทางญาติและเพื่อนทุกคนไม่สามารถติดต่อได้เลย ทั้งคู่มีลูกเล็กหายไปแบบนี้ถือว่าผิดปกติมาก หายไป 4วันแล้ว ตั้งแต่ช่วงเวลาตี2คืนวันศุกร์ที่8 จนถึงตอนนี้เช้าวันที่11 ก็ยังไม่ติดต่อมา ปกติวันนี้น้องต้องไปส่งลูกไปรร.ที่ตัวเมืองขอนแก่น และต้องไปขายของที่แผงบางลำภู ตอนนี้หาตัวไม่พบติดต่อไม่ได้ทั้ง2คน ผิดปกติไปมากทางญาติและเพื่อนเกรงว่าอาจจะเกิดเรื่องไม่คาดคิด ตอนนี้แจ้งความคนหายแล้ว รบกวนใครพบเห็นบุคคลหรือรถตามเส้นทางและเวลาที่แจ้ง หรืออาจมีภาพจากกล้องวงจรปิดช่วงเวลานั้นรบกวนช่วยแจ้งข่าวด้วยครับ กลับบ้านได้แล้วสูพากันไปไสรู้บ่คนเป็นห่วงกันหมดแล้ว น้องตังกับน้องตินรอสูอยู่เด"

วันที่ 13 ก.ค. 65 เมื่อช่วงสาย ร.ต.อ.นิยม สามพร้าว รอง สว.(สอบสวน) สภ.โกสุมพิสัย รับเเจ้งเหตุมีผู้ไปพบรถยนต์คันดังกล่าวแล้วที่คอสะพาน บ้านวังโพน ต.เขวาไร่ อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม ในสภาพหงายท้องจมอยู่ในน้ำ ด้านเจ้าหน้าที่กู้ภัย อาสากู้ภัยกตัญญูมหาสารคาม กู้ชีพองค์บริการส่วนตำบลเขวาไร่ ได้เร่งเก็บกู้ซาพรถขึ้นมาจากน้ำ ใช้รถยกมาพลิกรถคันเกิดเหตุ ก่อนจะลากขึ้นมาบนบก

พบรถยนต์โตโยต้าวีออสสีขาว ทะเบียน 6 กก 8361 กทม. สภาพหลังคารถพังยุบเข้ามาด้านในถึงห้องโดยสาร มีรอยพังรอบคัน กระจกแตกทุกบาน คาดว่าน่าจะเสียหลักบริเวณทางโค้งที่กำลังจะมุ่งหน้าข้ามสะพานเข้าหมู่บ้านวังโพน ก่อนจะพลิกคว่ำ ตกลงไปในน้ำ ส่วนสภาพศพผู้ชายเป็นคนขับอยู่บริเวณด้านหลังของเบาะหลังคนขับ เท้าอยู่ติดกับกระจกและประตูรถ คล้ายพยายามจะหาทางออก

ส่วนสภาพศพฝ่ายหญิงบริเวณที่นั่งข้างคนขับ ทั้ง 2 อยู่ในสภาพขึ้นอืดแล้ว เนื่องจากคาดว่าน่าจะตกน้ำตั้งเเต่วันที่ 9 ก.ค. 65 ส่วนข้าวของของทั้ง 2 คน กระเป๋าสตางค์อยู่ครบ

จากการสอบถามนายถนอม ชัยโชติ อายุ 57 ปี ลุงผู้ตาย ทราบว่า ทั้งคู่เป็นสามีภรรยากัน ได้ประกอบธุรกิจขายอาหารทะเลและอาหารสดต่าง ๆ ที่ตลาดบางลำพู ของเทศบาลบาลนครขอนแก่น โดยเดินทางไปกลับทุกวัน วันไหนติดธุระจะเปิดรีสอร์ตนอนที่จ.ขอนแก่น

ล่าสุดได้คุยแม่ผู้ตายทราบว่าลูกได้หายไปตั้งแต่วันที่ 8 ก.ค. ที่ผ่านมา พยายามโทรศัพท์หาก็ปิดเครื่อง ซึ่งเป็นเรื่องผิดปกติเพราะทั้งคู่จะโทรบอกพ่อแม่ตลอด เกรงว่าจะเกิดอันตราย จึงได้เข้าแจ้งความคนหายที่ สภ.โกสุมพิสัย ใช้ช่วยตามหา ด้วยการแกะรอยโทรศัพท์มือถือ และเช็กกล้องวงจรปิด จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจโทร.มาว่ามีคนหาปลาพบรถของหลานชายจมอยู่ในน้ำ จึงได้ออกมาดู และพบศพดังกล่าว

ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คนเป็นคนทำมาหากิน เป็นเสาหลักของครอบครัว มีลูกด้วยกัน 2 คน คนโตอายุ 13 ปี ส่วนคนเล็กคลอดได้ไม่นาน และวันนี้ที่พบศพก็ตรงกับวันเกิดของหลานชายพอดี ถือเป็นเรื่องสะเทือนใจครอบครัวมาก เพราะแทนที่จะได้ฉลองวันเกิดกับครอบครัว มีความสุขกับลูกทั้ง 2 คนที่กำลังเติบโต กลับเป็นเศร้าสลดแทน

ล่าสุด ช่วงเย็นทีมข่าวอมรินทร์เดินทางมาที่จุดเกิดเหตุ คอสะพานบ้านวังโพน ต.เขวาไร่ อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม มุ่งหน้าเข้าสู่ตัวหมู่บ้าน ลักษณะเส้นทางมีความโค้งเล็กน้อย บริเวณขอบปูนหัวสะพานมีร่องรอยถูกชน

จากนั้นญาติของนางสาวสิริการย์ ทะสา หรือ เตย อายุ 25 ปี และนายธีรวัฒน์ สมโศก หรือ ตาล อายุ 30 ปี มาที่จุดเกิดเหตุ ทำพิธีเชิญวิญญาณ ท่ามกลางเสียงเรียกลูกสาวลูกชาย เสียงสะอื้น ก่อนจะมีการปล่อยเงินเพื่อเรียกลูกกลับบ้านด้วย

ที่วัดบ้านโนนพยอม ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งศพบำเพ็ญกุศลของ 2 สามีภรรยา นางอำนาจ สมโศก อายุ 49 ปี แม่ของนายตาล ผู้เสียชีวิต เปิดใจว่า นิสัยใจคอของลูกชายเป็นคนร่าเริงสนุกสนาน เข้ากับคนง่าย ลูกชายเเละสะใภ้คบหากันมานานแล้ว ตั้งเเต่ฝ่ายหญิงยังเรียนหนังสือ จนตอนลูกสาวคนโตอายุ 12 ปีแล้ว

ในวันที่ 8 ก.ค.65 ช่วงเช้าประมาณ 05.00-06.00 น. ลูกชายขับรถพาหลานสาวไปส่งที่โรงเรียนใน จ.ขอนแก่น ก่อนจะไปขายของ ส่วนสะใภ้และหลานชายก็อยู่ที่บ้าน พอช่วงเย็นก็รับลูกกลับมาที่บ้านที่ จ.มหาสารคาม ตอนนั้นตนไปทำนาอยู่จึงไม่ทันได้เจอลูก พอกลับมาบ้านก็ทราบว่าลูกทั้ง 2 คน ออกจากบ้านกลับไปที่ จ.ขอนแก่น เพื่อไปหาเพื่อน เเละไปเก็บเงินค่าอาหารทะเลที่ทั้งคู่ค้าขาย ซึ่งลูกชายเเละสะใภ้จะขับรถไปกลับแบบนี้ประจำ หากกลับดึกก็จะเช่าห้องนอนที่ จ.ขอนแก่น

ครั้งสุดท้ายที่ตนได้เจอกับลูกชาย คือวันที่ 7 ก.ค.65 ก็คุยกันเรื่องปกติทั่วไป ตนไม่มีลางสังหรณ์ จนช่วงดึกของวันที่ 8 ก.ค.65 ลูกชายโทร.มาบอกจะกลับดึกหน่อย เพราะเพื่อนมาหา ให้ตนเข้าไปดูหลาน ๆ ด้วย เหมือนกับว่าหลานคนเล็กจะป่วย มีโรคประจำตัวคือ โรคหอบหืด ส่วนลูกชายออกไปทำธุระข้างนอกกับภรรยา ตนจึงบอกให้ลูกซื้อยามาให้หลานด้วย

เเต่จนเช้าวันที่ 9 ก.ค.65 ลูกชายเเละสะใภ้ก็ยังไม่กลับมา ตนจึงคิดว่าลูก ๆ คงนอนกันในเมืองขอนแก่น เริ่มผิดสังเกตเพราะเพื่อนของลูกก็ยังไม่เห็นว่าลูกชายจะไปตลาด แต่หลานสาวก็บอกว่าพ่อกับเเม่มีกำหนดไป จ.สงขลา เพราะ 2 คนนี้ชอบไปเที่ยวด้วยกัน เเต่ก็ยังไม่ได้มีการเก็บเสื้อผ้าไป เข้าวันที่ 10 ก.ค.65 ญาติฝั่งสะใภ้โทรมาหาบอกว่าผิดปกติ เพราะทั้งคู่ไม่ได้ไปทึ่ตลาด อาหารทะเลก็ไม่มีใครดูแล บวกกับติดต่อลูกไม่ได้ ตนสังหรณ์ใจไม่ดีจึงไปเเจ้งความไว้ ตอนเเรกเข้าใจว่าลูกหายแต่ยังมีชีวิตอยู่

ส่วนจุดที่พบรถเมื่อเช้านี้ ก็เป็นจุดที่พวกตนขับรถผ่านทุกวัน แต่ไม่มีใครมองเห็นเลย เอะใจอยู่ว่าลูกชายจะประสบอุบัติเหตุหรือไม่ แต่ก็ไม่เห็นรถ เพราะตรงนั้นเป็นพื้นที่รก มีหญ้าเเละต้นไม้ขึ้นเยอะ ภาพที่เห็นว่าโล่งคือกู้ภัยมาตัดเเล้ว ไม่มีใครคิดเลยว่าลูก ๆ จะอยู่ตรงนี้ เพราะอีกนิดเดียวไม่ถึง 3 กม. ก็จะถึงบ้านเเล้ว คืนวันที่ลูกชายหายตัวไปวันที่ 8 ก.ค.65 ก็มีฝนตกหนัก ลูกชินเส้นทางก็จริง แต่ตนจึงคาดว่าลูกคงจะหลับในจนทำให้เกิดอุบัติเหตุ

วันนี้เป็นวันเกิดครบรอบ 30 ปี ของลูกชายพอดี ไม่คิดเลยว่าจะกลายมาเป็นวันพบศพลูก ส่วนเมื่อเย็นที่ผ่านมา ก่อนที่จะไปเชิญวิญาณ หลานสาวก็ซื้อเค้กมาเป่าให้พ่อ ทั้งนี้ หลังจากพบศพลูกชาย ลูกชายก็มาเข้าร่างทรงก่อนจะร้องไห้เเละกอดตนเเน่น ก่อนจะบอกว่า "ตาลหลับในแม่" ทำให้ตนรู้สึกสงสารลูกเป็นอย่างมาก

นายประวิทย์ ทะสา อายุ 33 ปี พี่ชายของนางสาวเตย ผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า น้องสาวเเละน้องเขยมีลูกด้วยกัน 2 คน คนโตคือลูกผู้หญิง อายุประมาณ 12 ปี เเละลูกชายคนเล็กอายุ 1 ปี 7 เดือน เหตุการณ์นี้ตนเพิ่งจะมาทราบข่าวว่าน้องทั้ง 2 หายตัวไปตอนที่ เพื่อนของน้องโทรมาบอก เนื่องจากหลานสาวพยายามโทรหาพ่อกับเเม่ เเต่ไม่มีคนรับสาย จึงได้ติดต่อเพื่อนของพ่อเเม่ จนทราบว่าทั้งคู่หายตัวไป เเละติดต่อไม่ได้อีกเลย

หลังจากนั้นทางญาติก็ประกาศตามหา เเละไปเเจ้งความคนหาย เบาะแสสุดท้ายของทั้งคู่คือไปหาเพื่อนที่ จ.ขอนแก่น เเละออกจาก จ.ขอนแก่น ตอน 02.00 น. เพื่อที่จะเดินทางกลับมาที่ จ.มหาสารคาม เพื่อหาลูก ๆ เนื่องจากลูกสาวโทรไปหาพ่อกับเเม่บอกว่า น้องชายป่วยหนัก ให้พ่อกับเเม่กลับบ้าน เเต่พอรุ่งเช้าทั้งคู่ก็ยังไม่ถึงบ้าน

ต่อมาตนเเละญาติ ๆ จึงพยายาม ไปขอดูกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ เเต่ก็ไม่สามารถดูได้ โดยได้รับการอ้างว่า ฝนโดนกล้องทำให้ดูไม่ได้ ส่วนอีกจุดหนึ่ง ก็อ้างว่าแอปพลิเคชันเข้าดูกล้องวงจรปิดไม่ได้ ช่วงที่ผ่านมาพวกตนไม่คิดเลยว่าน้อง ๆ จะประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต คิดว่าน้องยังมีชีวิตอยู่ที่ไหนสักแห่ง เช้าวันนี้ พวกตนจึงตัดสินใจจะไปเอาใบเเจ้งความไปที่เครือข่ายสัญญาณโทรศัพท์ เพื่อขอดูพิกัดสุดท้ายที่ทั้งคู่อยู่ เเต่พอช่วงสายก็มีคนโทรมาเเจ้งว่าเจอรถเเละศพของทั้งคู่เเล้ว อยู่ในคลองไม่ไกลจากบ้าน

ตอนนี้หลานสาวรู่เรื่องที่เกิดขึ้นกับพ่อเเม่เเล้ว อีกทั้งวันนี้ยังเป็นวันเกิดของน้องเขยด้วย สภาพจิตใจของหลานตอนเเรกก็ร้องไห้หนัก เเต่ตอนนี้ก็กำลังทำใจอยู่ สุดท้ายตนอยากจะบอกกับน้องว่าขอให้น้อง ๆ หลับให้สบาย ไม่ต้องห่วงลูก เดี๋ยวตนและญาติ ๆ จะดูแลเอง