กรณี สภ.ชะอำ รับแจ้งเหตุบุคคลถูกทำร้ายเสียชีวิตภายในบ้านในเขต เทศบาลเมืองชะอำ อ.ชะอำ ที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียว ต.ชะอำ อ.ชะอำจ.เพชรบุรี ที่บริเวณห้องรับแขกใกล้ประตูทางเข้าตัวบ้าน พบศพนางสุธาสินี พันธุ์สวัสดิ์ อายุ 73 ปี เจ้าของบ้าน นอนจมกองเลือด
พบร่องรอยการต่อสู้ เก้าอี้ล้ม มีเศษแว่นตาผู้เสียชีวิต รองเท้าตกอยู่ที่พื้น พบกองเลือดขนาดใหญ่ที่ผนังมีรอยเลือดกระเซ็นเปื้อนไปทั่ว นอกจากนั้น พบรอยเลือดลากศพเข้ามาในห้องรับแขกซึ่งอยู่ติดกัน
ที่บริเวณขอบกำแพงบ้านฝั่งติดป่าละเมาะ พบรอยคราบเลือดที่ขอบกำแพงด้านใน คาดว่าเปื้อนขณะคนร้ายปีนหลบหนี ศพพบบาดแผลถูกแทงด้วยของมีคมบริเวณหน้าอก ท้อง แขนซ้าย และกลางหลัง รวมประมาณ 20 แผล พบทรัพย์สินผู้ตายหายไปจำนวนหนึ่ง
วันที่ 5 ก.ค. 65 ทีมข่าวลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ พบคราบเลือดจำนวนมาก ริเวณพื้นบ้านห้องรับแขก ผ้าเช็ดเท้า ใต้โต๊ะรับแขกข้างบ้าน โดยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลเมืองชะอำ เจ้ามาทำความสะอาด โดยลูกสาวผู้ตายพาทีมข่าวไปดูประตูหลังบ้านที่กล้องวงจรปิด จับภาพได้ว่าคนร้ายปืนเข้ามาทางกำแพงข้างบ้าน และงัดประตูไม้หลังบ้านเข้ามา
ทีมข่าวได้วงจรปิด 2 มุม จากบ้านก่อนถึงจุดเกิดเหตุ 100 เมตร เวลา 10.36 น. โดยจับภาพชายสวมใส่เสื้อปูน ใส่หมวกปิดใบหน้าขี่จักรยานยนต์สกู้ปปี้ สีแดง ไม่คิดแผ่นป้ายทะเบียน ขับผ่านหน้ากล้องไป ซึ่งเป็นชุดเดียวกับชายผู้ก่อเหตุ ที่กล้องวงจรปิดในบ้านจับภาพได้
ต่อมาภายในบ้านที่เกิดเหตุ เวลา 12.18 น. จับภาพคนร้าย สวมใส่เสื้อปูนอินทรีย์ สวมหมวกปิดใบหน้า กำลังย่องเข้ามาหลังบ้าน โดยมีสุนัข 2 ตัวเห่า แต่ไม่เข้าไปใกล้ คนร้ายพยายามก้ม ๆ และจะเปิดประตูไม้หลังบ้าน แต่ไม่สำเร็จ ก่อนวิ่งไปทางหน้าบ้าน ไม่แน่ใจว่าก่อนหรือหลังเกิดเหตุ แต่ตำรวจคาดว่าก่อนเหิดเหตุ
น.ส.หยก อายุ 39 ปี ลูกสาวผู้ตาย ทราบว่าป่วยเป็นโรคไบโพลาร์ และมีอาการซึมเศร้า ต้องทานยานอนหลับต่อเนื่องมานานจนมีอาการดีขึ้น แต่ยังมีอาการ ยังต้องรับประทานยานอนหลับอย่างต่อเนื่อง ก่อนเกิดเหตุ น.ส.หยก ได้ทานยานอนหลับ และนอนพักผ่อนอยู่กับพ่อ ซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียง อยู่ที่บริเวณห้องพักส่วนด้านในของบ้าน เมื่อ น.ส.หยก ตื่นมาประมาณเที่ยง ได้เดินออกมาจากห้องก็พบเห็นแม่นอนจมกองเลือดเสียชีวิตแล้ว
เบื้องต้น พ.ต.อ.กานต์ ธรรมเกษม รองผบก.ภ.จว.เพชรบุรี ได้สั่งการให้ระดมเจ้าที่ตำรวจ สภ.ชะอำ และตำรวจชุดสืบสวนจังหวัดเพชรบุรี ระดมกำลังปูพรมค้นหาผู้ต้องสงสัยแล้ว คาดว่าจะเป็นบุคคลที่อยู่ภายในพื้นที่
นางสาวดาว ลูกสาวผู้ตาย เล่าว่า ตนเองทำงานอยู่ กทม. บ้านหลังนี้ครอบครัวซื้อเพราะเห็นว่าบรรยากาศดี ปลอดภัย และไม่เคยเกิดเหตุร้าย และพ่อป่วยติดเตียงอยู่ระหว่างพักฟื้นในบ้าน โดยมีน้องสาวอยู่ด้วย รวม 3 คน ช่วงเกิดเหตุ พ่อและน้องสาวอยู่ในห้องหลังบ้าน ส่วนแม่คาดว่าอาจจะตื่นมาเจอกับคนร้าย หลังจากวัดประตูหลังบ้านเข้ามาจึงเกิดการต่อสู้ และถูกแทงจนเสียชีวิต แล้วน้องสาวโทรศัพท์มาบอกตนเองจึงรีบขับรถมาจาก กทม. ทันที
ที่ผ่านมาแม่เป็นคนเอื้อเฟื้อ มีแต่ให้ ใจดี ไม่มีศัตรูที่ไหน คาดว่าคนร้ายประสงค์ต่อทรัพย์ ได้เงินสดไปจำนวนหนึ่ง ยังไม่แน่ชัดจำนวน แมวพันธุ์ไทยสีขาว 1 ตัวหายไป ขณะที่ตอนนี้ยอมรับว่ากลัวมาก ต้องให้ญาติ ๆ ช่วยกันมาเฝ้าบ้าน อยู่กันอย่างหวาดกลัวในค่ำคืนนี้หากยังจับคนร้ายไม่ได้ ยืนยันดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด เพราะโหดเหี้ยมมาก
ขณะที่นางสาวอารยา (นามสมมติ) เพื่อนบ้าน ระบุว่า ช่วงที่เกิดเหตุ ตนเองไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย และก่อเกิดเหตุไม่เห็นสิ่งผิดปกติ มาทราบอีกครั้งหลังเกิดเหตุแล้ว ตนเองไม่รู้จะรู้สึกอย่างไรกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันโหดร้ายเกิดไป ยืนยันว่าที่ผ่านมาคุณป้าใจดีมาก ไม่เคยมีปัญหากับใคร เจอกันล่าสุดเมื่อวานนี้ ตนเองยังหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
