สลดสองแม่ลูกตั้งศพคู่กัน หลังลูกถูกรถชนตาย ไม่ทันข้ามวันแม่ตรอมใจตายตาม ขณะที่ตำรวจเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบจุดเกิดเหตุเห็นเพียงสามล้อเสียหลักข้ามเกาะก่อนประสานงานปิกอัพ
ที่ศาลาการเปรียญวัดไผ่ล้อม ต.ป่างิ้ว อ.เมือง จ.อ่างทอง ญาติๆ ของนางสัมฤทธิ์ รักเจ้าไทย อายุ 84 ปี นำร่างของนางสัมฤทธิ์ซึ่งเสียชีวิตเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาตั้งศพคู่กับนางสาวนฤมล นิ่งนุกูล อายุ 55 ปี ลูกสาวของนางสัมฤทธิ์ ซึ่งถูกรถชนเสียชีวิตเมื่อช่วงเช้าวานนี้ ขณะนั่งรถสามล้อเครื่องของนายไพโรจน์ไปหาแม่ที่ตั้งร้านขายอยู่ริมถนนสายโพธิ์พระยา-ท่าเรือ หมู่ที่ 4 ต.ศาลาแดง อ.เมือง จ.อ่างทอง โดยรถสามล้อของทั้งสองพุ่งข้ามเกาะกลางก่อนที่จะถูกรถปิกอัพชนประสานงานจนนายไพโรจน์ได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนนางสาวนฤมลเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ หลังจากนางสัมฤทธิ์ทราบข่าวก็เศร้าโศกเสียใจอย่างหนักไม่ยอมกินข้าวจนร่างกายไปไม่ไหวเพียงข้ามวันก็สิ้นใจตามไปเมื่อช่วงเช้าตรูที่ผ่านมา สร้างความเสียใจให้กับทางญาติและผู้ที่รู้จักเป็นอย่างมาก
นางพรเพ็ญ ผ่องคณะ อายุ 37 ปี หลานสาวของผู้ตายเล่าให้ฟังว่า เมื่อวานตอนเกิดเหตุตนเองทราบข่าวก็รีบวิ่งไปดูเมื่อไปถึงก็พบว่านางสาวนฤมลเสียชีวิตแล้ว ส่วนนายไพโรจน์ได้รับบาดเจ็บซึ่งก็มีคนเล่าว่ามีรถเฉี่ยวสามล้อแดงจนข้ามเกาะมา ซึ่งก็ยังไม่รู้ข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร ซึ่งคงต้องดูจากกล้องวงจรปิดที่อยู่ใกบ้ที่เกิดเหตุแต่หากเกิดจากการแข่งรถกันมาก็อยากจะบอกว่าคนที่ทำก็ไม่สมควรทำ เพราะความสูญเสียมันเยอะไม่ใช่เฉพาะคนที่เสียชีวิตตรงนั้น ครอบครัวก็ได้รับผลกระทบอีก
ขณะที่ป้าแจ้ว อายุ 65 ปี หลานของนางสัมฤทธิ์เล่าว่าเมื่อวานหลังเกิดเหตุก็ไม่มีใครกล้าบอกจนกระทั่งช่วงบ่ายจึงได้ค่อยๆ บอกว่าลูกสาวเสียชีวิตแล้ว ส่วนลูกชายก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสซึ่งพอทราบเรื่องนางสัมฤทธิ์ก็ร้องไห้บอกไม่ไหวแล้วและไม่ยอมกินข้าว จนกระทั่งเช้าอาการไม่ดีจึงช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลแต่สุดท้ายแกก็สิ้นใจ เพราะตรอมใจที่เสียลูกไป
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยว่าเบื้องต้นจาการตรวจสอบกล้องวงจรปิดใกล้ที่เกิดเหตุซึ่งเห็นเพียงรถสามล้อที่เสียหลักวิ่งข้ามเกาะไปเท่านั้น แต่ไม่เห็นว่ามีรถไปเกี่ยวจนเสียหลักหรืออย่างใด ซึ่งหากท่านใดมีกล้องหน้ารถที่ประสบเหตุการณ์ในช่วงนั้นขอให้นำมาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อที่จะสามารถสรุปได้ว่าเสียหลักเองหรือมีผู้เฉี่ยวชนจนข้ามเกาะกลางมาประสานงานกับรถที่สวนมา
