บริษัทดังปิดตัวฟ้าผ่า พนักงานตัดพ้อ เงินชดเชย 16% อาจไม่พอต่อชีวิต

3 ก.ค. 65

อดีตพนักงานตัดพ้อ จะใช้ชีวิตต่ออย่างไร หลังบริษัทดังปิดตัวฟ้าผ่า ให้เงินชดเชย 16% อาจไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายจนถึงสิ้นเดือน

 

จากกรณีการปิดตัวลงของบริษัทมีเดียชื่อดังซึ่งดำเนินธุรกิจมากว่า 43 ประได้ประกาศปิดกิจการบางส่วน โดยให้เหตุผลว่า ในช่วง 8 ปีที่ผ่านมานั้น ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมสื่อ ทั้งผลกระทบจาก DIGITAL DISRUPTION และการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ทำให้การดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ได้รับผลกระทบอย่างมาก แม้ตลอดมาบริษัทฯ จะพยายามปรับตัวในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อให้สามารถยืนหยัดในอุตสาหกรรมสื่อบันเทิงได้

 

ทางด้านของอดีพนักงานบริษัทดังกล่าว ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนวตัว ระบุถึงกรณีที่บริษัทปิดตัวลงอย่างกะทันหัน จนคนในบริษัทไม่ทันได้ตั้งตัว ทั่งที่ยังมีแผนงานของเดือนถัดไปอยู่ในมือ โดยอดีตพนักงานรายนี้ ระบุว่า 

 

 

"เมื่อมีการประกาศปิดบริษัททันที ไม่มีปี่มีขลุ่ย ทั้งที่แต่ละคนยังคงก้มหน้าก้มตาทำงานกันอยู่ ไม่มีสัญญาณใดๆ ที่บอกว่าเราไปต่อไม่ได้แล้ว เพราะเรายังคงเตรียมงานที่จะเกิดขึ้นต่อไปในเดือนหน้า เมื่อประกาศปิดปุ๊บ สายตาของแต่ละคนที่หันมองกัน ว่า แล้วจะยังไงกันต่อดี จะทำยังไงละทีนี้ จะบอกครอบครัวยังไง จะหาเงินจากไหนมาเลี้ยงครอบครัวต่อไป สมองตื้อไปหมด

 

พี่ๆ หลายคนทำงานอยู่ที่นี่มานานมาก พอๆ กับอายุของบริษัท หลายคนทำงานมาตั้งแต่วัยหนุ่มสาว จนถึงวันนี้กำลังเข้าสู่รุ่นสูงวัย ที่คิดว่าท้ายสุดจะได้เงินเก็บก้อนนี้ไปใช้ชีวิตบั้นปลายได้อย่างมีความสุข

 

ถามว่าทำไมถึงทำงานที่นี่นานขนาดนี้ ตอบได้เลยว่า เพราะเราได้รับความเชื่อที่ถูกปลูกฝังมาโดยตลอดจากผู้บริหาร ที่บอกว่า เราจะทำงานไปด้วยกัน เราจะสู้ไปด้วยกัน เราอยู่กันแบบครอบครัวที่อบอุ่น และเราคิดว่าที่นี่คือ “บ้าน” ของเรา เราร่วมกันฝ่าฟันมาทุกวิกฤตทางเศรษฐกิจเพื่อให้ “บ้าน” ของเราอยู่รอดให้ได้ ยอมลดเงินเดือน ยอมหักโอที และตั้งใจทุ่มเททำงานให้บ้านหลังนี้ต้องรอดต่อไปให้ได้ ในวันนี้ วันที่บริษัทประกาศปิดกิจการ เรารู้สึกเสียใจที่บ้านหลังนี้ ที่เราเคยอยู่ร่วมกันมาเกินกว่า 20-30 ปี กำลังจะปิดลง น้ำตาไหลในอกโดยไม่รู้ตัว ใจหาย และได้แต่มองหน้ากัน และปลอบประโลมกันไป

 

เอาน่า พวกเรายังมีเงินชดเชยที่พอจะเอาไปเลี้ยงดูครอบครัวได้สักระยะหนึ่ง พอให้เราได้ลืมตาอ้าปาก ตั้งต้นทำอะไรได้บ้าง เจ้าของบ้านหลังนี้มีความอบอุ่นและเมตตามาโดยตลอด

 

และเมื่อถึงเวลาที่เราต้องลาจากบ้านหลังนี้ กับความหวังเล็กๆ ของเรา กลับเป็นสิ่งเล็กๆ เล็กมากเสียจนต้องหันมามองหน้ากันว่า เราจะใช้ชีวิตต่อไปยังไง หันไปเห็นน้ำตาของเพื่อนๆ พี่ๆ ที่คิดไม่ออกหนักกว่าเดิมว่าจะไปทำอะไรได้บ้างกับเงินชดเชยเพียง 16% หลายคนเริ่มร้องไห้ แววตามีแต่ความวิตกกังวล จะทำยังไงต่อล่ะทีนี้ เงินเดือนต่อไปก็ไม่มีแล้ว จะเอาเงินชดเชย 16% ไปต่อชีวิตก็น้อยเหลือเกิน จะอยู่ให้รอดถึงสิ้นเดือนนี้มั้ย ค่านมลูก ค่าผ้าอ้อมลูก ผ้าอ้อมแม่ ค่าหยูกยาของพ่อ และจะใช้ชีวิตต่อไปยังไงดี ก็ได้แต่ภาวนาอ้อนวอนให้ทุกคนเข้มแข็งและไม่คิดทำร้ายตัวเองนะ"

ตกงาน

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส