สวนเบญจกิติ เชิญตำรวจเจรจาคนขี่จักรยาน อึ้ง 3 คำถามจากนักปั่น ทำเอาทัวร์ลง!

25 มิ.ย. 65

สวนเบญจกิตติ โพสต์ภาพเชิญตำรวจเคลียร์กลุ่มนักปั่นจักรยาน ซิ่งจนทำคนที่มาพักผ่อนใช้บริการรู้สึกไม่ปลอดภัย อึ้ง 3 คำถามจากนักปั่น ทำเอาทัวร์ลงทันที!

เฟซบุ๊กเพจ สวนเบญจกิติ ลงภาพเชิญตำรวจเข้ามาเคลียร์กลุ่มนักปั่นจักรยาน หลังได้รับการร้องเรียนว่าปั่นเร็วจนอาจเกิดอันตรายต่อคนอื่นๆ ที่เข้ามาพักผ่อนโดยทางเพจเผยว่า วันนี้ทางสวนฯ ได้เชิญเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเพื่อชี้แจงเกี่ยวกับให้กลุ่มผู้ปั่นจักรยานเร็วจนทำให้ผู้ใช้บริการที่ต้องใช้วีลแชร์ รถเข็นเด็ก และประชาชนที่เดินชมสวน เกิดความรู้สึกไม่ปลอดภัย เพราะกลัวจะเกิดอุบัติเหตุและร้องเรียนมา ซึ่งทางสวนได้เข้าไปเจรจาเพื่อสร้างความเข้าใจในกติกาในการใช้ทางจักรยานร่วมกับผู้อื่น ในสวนที่มีจุดตัดคนข้ามถนน มากกว่า 30 จุดนี้

แต่นี่คือคำถามจากกลุ่มจักรยานฯ

1.ทำไมต้องให้ความสำคัญคนเดินเท้ามากกว่าจักรยาน?

2.ทางจักยานโล่งๆ จะมาปั่นช้าๆ ได้อย่างไร?

3.ทำไมไม่ย้ายคนให้ไปเดินที่สุวรรณภูมิ เพราะเค้าอยากปั่นเร็วที่นี่?

อยากชวนมาช่วยแสดงความเห็นว่าจะแก้ปัญหากลุ่มบุคคลนี้อย่างไรดี?

หลังโพสต์นี้แชร์ออกไปก็มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก เช่น

• คนที่ตั้งคำถามนี้เป็นคนที่เห็นแก่ตัวมากๆ ผมเป็นคนนึ่งที่ชื่นชอบในการปั่นจักรยาน แต่เมื่อเราไม่ใช่คนเดียวที่ใช้ทางสัญจร ก็ควรที่จะ ให้เกียรติซึ่งกันและกัน และคำนึงถึงความปลอดภัยทั้งตัวเราและคนอื่น

• ที่นี่คือสวนสาธารณะ ไม่ใช่สวนจักรยาน ทุกคนควรเคารพสิทธิ และความเท่าเทียมในการเป็นเจ้าของร่วมกัน ทุกคนที่มาที่นี่ก็เพราะอยากมาที่นี่ ไม่ได้อยากไปสุวรรณภูมิ และไม่ใช่ธุระของใครที่จะบอกให้ใครไปพักผ่อนหย่อนใจที่ไหน

• สวนสาธารณะ เป็นสวนของคน ทุกเพศ ทุกวัย ทุกระดับฐานะ เป็นสถานที่ เพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ ใช้เวลาร่วมกับครอบครัว ไม่ใช่สนามซ้อมจักรยาน และการที่ต้องให้ความสำคัญกับคนเดินเท้า เป็นเพราะว่า คนเดินเท้า สร้างอันตรายได้น้อยที่สุด ในฐานะที่จักรยานใช้ความเร็ว และอาจทำให้เกิดอันตรายได้รุนแรง คนปั่นจักรยานจึงอยู่ในฐานะ ผู้รับผิดชอบสูงสุด ที่จะรับผิดชอบไม่ให้การปั่นจักรยานของตนเป็นภัยต่อคนอื่น

• สวนเบญจกิติ ไม่ใช่สนามปิด ที่ใช้ปั่นจักรยานโดยเฉพาะ ดังนั้น การใช้ทางต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของ ผู้ใช้อื่นๆด้วย ไม่มีสิทธิในการไล่ให้ใครไปเดินที่ไหน และ เมื่อเข้ามาใช้พื้นที่ ควรเคารพกฎของพื้นที่

ขณะเดียวกัน บางคนก็แสดงความเห็นว่า ไม่เห็นด้วยที่แอดมินของสวนเบญจกิติ เข้ามาโพสต์แบบนี้ เอาคำถามอคติของคนบางคนมาเป็นตัวแทนของคนทั้งกลุ่มเหมือนจงใจยั่วยุให้เกิดความแตกแยก ไม่ควรเอาความคิดเห็นด้านลบของแต่ละฝ่ายมาชงให้เกิดการทะเลาะกันแบบนี้ ทางสวนควรเขียนกฎให้ชัดเจน ว่าต้องปฏิบัติตนอย่างไร เพื่อให้ทุกคนเข้าใจตรงกัน แต่หลายคนก็เข้าข้างแอดมินว่า น่าจะได้รับการร้องเรียนมาเยอะพอสมควร จนถึงขั้นต้องเชิญตำรวจมาเจรจา ถ้าแอดมินไม่สะท้อนปัญหานี้ออกมา ก็คงไม่รู้ว่าหลายคนได้รับความเดือดร้อน

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส