ตำรวจล่าระทึกคนร้ายขับรถกู้ภัยขนยาบ้ากว่า 2.4 ล้านเม็ด เป็นเครือข่ายยาเสพติดอีสานตอนบน เจ้าหน้าที่โดนยิงสวนก่อนคนร้านทิ้งรถแล้วหลบหนี
เวลา 15:00 น บริเวณ กองขยะ ภายในป่ารกร้างซอย 10/8 หทัยราษฎร์ 39 ย่านคลองสามวา ตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี พร้อมด้วยตำรวจทางหลวง ได้เข้ามาตรวจสอบยาบ้า จำนวน 6 กระสอบ หรือประมาณ 2 ล้าน 4 แสนเม็ด ที่ถูกคนร้ายในคราบกู้ชีพนำมาทิ้งไว้เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ก่อนขับรถหลบหนี
โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงเที่ยงที่ผ่านมาหลังตำรวจสืบสวนภูธรจังหวัดสระบุรี สืบทราบว่ามีกลุ่มบุคคลไม่ต่ำกว่า 2 คนใช้รถกู้ชีพ ขนยาบ้า มาจากพื้นที่ภาคอีสานตอนบน ลำเลียงเข้าสู่พื้นที่ภาคกลาง จนกระทั่งรถกู้ชีพ ต้องสงสัยคันหนึ้งวิ่งเข้ามาถึงบริเวณ ตำบล ห้วยบง อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสระบุรี จึงขอทำการตรวจค้น แต่คนร้ายชักอาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงเกิดการต่อสู้กันขึ้น ตำรวจทางหลวง กองกำกับการ 1 จังหวัดสระบุรี ซึ่งตั้งด่านตรวจอยู่ในบริเวณดังกล่าว จึงเข้าสนับสนุน แต่คนร้ายขับรถหลบหนีมุ่งหน้าเส้น เวังน้อย อยุธยา และวิ่งต่อเนื่อง คลองสามวา กทม. แต่คนร้ายใช้รถกู้ชีพ และเปิดไฟสัญญาณฉุกเฉินตลอดทางจึงสามารถขับผ่านได้อย่าง สะดวก ส่วนตำรวจเป็นตำรวจต่างภูธรไม่ชินเส้นทาง ประกอบกับบนท้องถนนมีการจราจรคับคั่งเจ้าหน้าที่ไม่กล้าลงมือสกัดจับ หวั่นลูกหลงอาจต่อประชาชนได้
หลังทิ้งยาหลงป่ารกร้าง คนร้ายได้ขับรถหลบหนีไปในซอย ราษฎร์อุทิศ 44/0 ก่อนทิ้งรถหลบหนีไป
พลตำรวจตรีชญานนท์ มีสติ ผู้บังคับการภูธรจังหวัดสระบุรี เปิดเผยว่าตำรวจได้เฝ้าติดตามผลร้ายรายนี้มานานพอสมควร จนทราบข้อมูลแน่ชัดว่าคนร้าย ซึ่งมีอาชีพเป็นกู้ภัยสองผัวเมีย จะขนยาเสพติดจากพื้นที่จังหวัดเลย เข้ามาในพื้นที่กรุงเทพฯเพื่อส่งยาดังกล่าวลงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อีกต่อ
ตำรวจสืบสวนภูธร สระบุรี จึงสะกดรอยทั้ง 2 คน จากจังหวัดเลยขับตามมาตลอดทาง จนกระทั่งถึงพื้นที่ห้วยบง อำเภอเฉลิมพระเกียรติจังหวัดสระบุรี ตำรวจจึง แสดงตัวขอตรวจผลแต่คนร้ายไหวตัวเปิด สัญญาณไฟขอทางจากประชาชนหลบหนี โดยตลอดเส้นทางคนร้ายได้ใช้สัญญาณไฟฉุกเฉินเข้าสู่พื้นที่ซอยหทัยราษฎร์ 39
อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบพบว่ายาบ้าที่ถูกทิ้งบริเวณ ไปหทัยราษฎร์พื้นที่ป่ารกร้างภายในซอยหทัยราษฎร์มีจำนวนทั้งสิ้น 2,400,000 เม็ด และจาก ข้อมูลของตำรวจพบว่าคนร้ายรายนี้ใช้รถกู้ชีพในการขนยามาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 ครั้ง
ผู้บังคับการภูธรจังหวัดสระบุรียังกล่าวอีกว่าก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่าทางคนร้ายเปิดฉากยิงต่อสู้กับตำรวจมาตลอดเส้นทางนั้นไม่เป็นความจริง เพียงแต่คนร้ายได้ใช้สัญญาณไฟฉุก เฉินเพื่อนหลบหนี ขณะที่รถตำรวจไม่สามารถ ขับตามได้ นอกจากนี้ตำรวจยังสามารถสกัดจากรถสเก๊าหน้าได้ผู้ต้องหาอีก 2 คนซึ่งขณะนี้ควบคุมตัวไปสอบปากคำแล้วที่สืบภูธรจังหวัดสระบุรี
ขณะที่ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวที่เห็นเหตุการณ์เล่าให้ฟังว่า ประมาณเที่ยงวันมีรถแอมบูแลนซ์วิ่งผ่านหน้าบ้านไปจอดวิ่งผ่าน ลานข้างบ้านก่อนที่จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจตามเข้าไปเป็นจำนวนมากและตำรวจได้เข้ามาสอบถามเรื่องราวกับแฟนของตนที่บ้านพัก เห็นว่าพร้อมขอภาพกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าบ้านไปด้วยและภาพที่ปรากฏในกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพ คนร้าย 2 คนเป็นชาย 1 หญิง 1 ขณะ ลงจากรถโดยมีรถอีกคันขับมารับทั้ง 2 คนออกไปจากพื้นที่