ถั่วแระโผล่ป้องพระย้อยฮุบเงินกฐิน แจง 6 หมื่นค่าใช้จ่ายพานักแสดงช่วยงานวัด (คลิป)

จากกรณี "กาโตะ" อดีตพระนักเทศน์กับสีกาสาว ได้รับการเปิดเผยคลิปเสียงแชตลับจาก "พระย้อย" ต่อมาถูกกระแสตีกลับถึงเรื่องราวอดีตของพระย้อยเช่นกัน ต่อมาเจ้าอาวาสวัดเปิดเผยข้อมูลข่าวว่าช่วงงานกฐิน พ.ย. 63 ที่หลวงพี่ย้อยได้จัดงานหาเจ้าภาพมาทอดกฐิน เเละได้เชิญนักแสดงมาที่วัด มีคือศิลปินตลก "ถั่วเเระ เชิญยิ้ม" มาร่วมด้วย ก่อนจะบอกว่าต้องจ่ายค่าตัวนักแสดงจำนวน 60,000 บาท เจ้าอาวาสก็จ่ายให้หลวงพี่ย้อยไป แต่สงสัยว่าหลวงพี่ย้อยได้นำเงินนั้นไปจ่ายให้ศิลปินหรือไม่นั้น

วันที่ 3 พ.ค. 65 "ถั่วแระ เชิญยิ้ม" เปิดเผยว่า ตนเคยไปร่วมงานกับพระย้อย เป็นงานกฐินที่วัดราษฎร์บำรุง อีกงานก็ไปงานชักพระที่นครฯ 2-3 ครั้ง รู้จักกับท่านจากการร่วมงานบุญ หลังก็สนิทกับท่าน เพราะท่านเป็นตัวแทนขายยาสีฟันให้ด้วย

สำหรับอุปนิสัยของพระย้อย ท่านเป็นนักเทศน์ที่คอยสอนศิษย์บ่อย ซึ่งท่านก็บอกว่าท่านเป็นนักเทศน์ ตนก็รับฟังท่าน ท่านก็ดูแลเราดี ซึ่งท่านก็เป็นพระที่เก่งคนหนึ่ง ช่วยเหลือลูกศิษย์มาโดยตลอด และไม่มีพิษมีภัย ท่านทำดีกับตน ตนจึงคิดบวกกับท่านอยู่ตลอดเวลา ท่านเป็นคนที่ช่วยเหลือคนมาก ๆ ซึ่งรู้จักท่านมา 3 ปีแล้ว แต่ไม่ได้ติดต่อหากันตลอด จะคุยกันเฉพาะงานบุญใหญ่

จากที่ตนได้ไปร่วมงานงานกฐินงานแรกกับพระย้อย ยอมรับว่าท่านนำเงินมาช่วยค่าเครื่องบิน ค่าโรงแรมให้ มีเงินเหลืออยู่นิดหน่อยซึ่งให้เป็นค่าตัว ซึ่งเงินก็ไม่ได้เยอะมาก ยืนยันว่าจ่ายจริง แต่ไม่รู้ว่าท่านรับมาเท่าไร

ตอนนี้มีกรณีข่าว อดีตพระกาโตะเกิดขึ้น แต่ดันมีพระย้อยมาเกี่ยว ความรู้สึกของตนก็ไม่ได้ตกใจ เพราะดูข่าวที่เกี่ยวกับพระมาแทบจะทุกวัน อย่างกรณีพระปวดหัวให้ยางรัดผมแล้วหาย และมีกรณีอื่นอีก ฉะนั้นเมื่อมาเจอเรื่องกาโตะกับพระย้อย จึงเป็นเรื่องปกติไปแล้ว เลยไม่ได้รู้สึกตกใจ

ตอนนี้ก็ยังไม่ได้โทรหาพระย้อยเพราะกำลังดูทิศทางลม ถ้าหลวงพี่ย้อยคิดจะทำดี ก็ไม่มีอะไรทำท่านได้หรอก หากมีมารก็ต้องสู้ อย่างที่มีคำว่าความจริงก็คือความจริง เอาใจช่วยอยู่แล้ว แต่ยังไม่ได้โทรหา ตนยังศรัทธาในตัวท่าน อย่างไรก็ตาม ตนยึดมั่นในศาสนา ไม่ใช่ตัวบุคคล ใครจะห่มผ้าเหลืองแล้วพฤติกรรมแบบไหน หากรู้ไม่จริงก็ไม่อยากพูด เราจะให้วิบากกรรมเป็นผู้ตัดสิน ใครทำดีก็ได้ดี ใครทำชั่วก็ได้ชั่ว เพราะฉะนั้นจึงไม่ขอออกความคิดเห็น ใครทำใครได้ ทั้งนี้ เชื่อว่าเรื่องราวของศาสนาไม่มีวันเสื่อม ตราบใดที่เรายังรักในองค์พระศาสดา ฉะนั้นหากจะเสื่อม เสื่อมที่ตัวบุคคล ไม่ได้เสื่อมที่ศาสนา