ฟัดกันเละ โจ๋โรงงานรำคาญเปิดเพลงดังกว่า ยกพวกทืบคาน้ำตก พอเลือดออกพากันหนี (คลิป)

25 เม.ย. 65

กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ออกมาโพสต์ข้อความว่า “ถ้าน้อง ๆ เกิดเมื่อ 500 ปีที่แล้ว กรุงศรีอยุธยาคงไม่พ่าย...😌😌อย่าหาทำ” พร้อมกับเผยแพร่คลิปวิดีโอกลุ่มชายวัยรุ่นที่เข้ามาใช้บริการสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติแห่งหนึ่ง ในพื้นที่รอยต่อของ 2 อำเภอ ได้แก่ อ.ปลวกแดง และ อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ลักษณะเป็นแคร่ไม้ไผ่ริมน้ำใต้ร่มไม้ใหญ่สำหรับพักผ่อนเล่นน้ำหรือรับประทานอาหาร

808405

ทั้งนี้ ภาพที่ปรากฏในช่วงเวลาประมาณ 16.30 น. ขณะนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก ทั้งแบบกลุ่มเพื่อนและครอบครัว จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงกลุ่มวัยรุ่น 2 กลุ่ม รวมจำนวนแล้วเกือบ 20 คน ยกพวกตีกันแบบไม่เกรงใจชาวบ้าน บางรายต่อยกันจนร่วงลงน้ำ วิ่งไปคว้าเอาข้าวของเครื่องใช้ของผู้ประกอบการมาเป็นอาวุธ อาทิ โครงเหล็กเก้าอี้ แผ่นสังกะสี ร่มกันแดด แคร่ไม่ไผ่ เรียกว่าพังยับเยิน ท่ามกลางความหวาดกลัวของนักท่องเที่ยวคนอื่น ๆ ที่วิ่งหนีกระเจิดกระเจิง

ในขณะที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กอีกราย ก็โพสต์คลิปเหตุการณ์เดียวกันในมุมใกล้เคียงกัน พร้อมเขียนข้อความว่า “🤔ไม่เข้าใจเลย...ทำไมต้องตีกัน😱”

353764

ล่าสุดวันที่ 25 เม.ย.65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุฝั่ง อ.ปลวกแดง คือ “ร่มไผ่ ไทรย้อย” ต.แม่น้ำคู้ อ.ปลวกแดง จ.ระยอง พบว่าเป็นลำธารชื่อ “คลองละเวิง” ขนาดกว้างประมาณ 4 เมตร มีต้นน้ำมาจากอ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล ต.ปลวกแดง อ.ปลวกแดง จ.ระยอง และมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาใช้บริการหนาแน่น ระยะทางที่มีการจัดตั้งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอยู่ที่ 150 เมตร

231536

นายวินัย ทองศรี อายุ 42 ปี เจ้าของร่มไผ่ ไทรย้อย ให้สัมภาษณ์ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น จริง ๆ แล้วอยู่อีกฝั่งของลำธาร ซึ่งมีชื่อว่า “น้ำเนินไทร” ตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.หนองบัว อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ทั้ง 2 ฝั่งเปิดให้บริการเป็นจุดท่องเที่ยวมาแล้วประมาณ 4 ปี แต่เนื่องจากคลิปที่ถูกถ่ายนั้นถ่ายจากฝั่งนี้ ทำให้ผู้โพสต์อาจจะสื่อสารตำแหน่งจุดเกิดเหตุผิดพลาด เบื้องต้นตนจึงอยากชี้แจงให้ทราบในประเด็นด้วย 

สำหรับสถานที่แห่งนี้เป็นธุรกิจส่วนตัว เนื่องจากริมตลิ่งที่มีการตั้งศาลาและร้านค้าต่าง ๆ เป็นที่ดินของตนซึ่งมีโฉนดชัดเจน แต่จะเกื้อหนุนกับสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ เพื่อให้ชาวบ้านได้เข้ามาเช่าสถานที่ค้าขาย ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ตนไม่ทราบแน่ชัดว่าสาเหตุมีที่มาจากอะไร เพราะตนไม่ได้อยู่ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ แต่ตนเชื่อว่าทุก ๆ วันหยุด ปกติจะมีนักท่องเที่ยวที่เป็นหนุ่มสาวโรงงานจากต่างจังหวัด แวะเข้ามาพักผ่อนประมาณ 400-500 คน และจะมากันเป็นหมู่คณะ อาจจะกระทบกระทั่งกันบ้างตามประสาวัยรุ่นต่างถิ่น ซึ่งแตกต่างจากวันจันทร์-เสาร์ ที่พบว่านักท่องเที่ยวจะมากันเป็นครอบครัว รวม ๆ แล้วประมาณ 200-300 คน

612954

ทั้งนี้ ส่วนหนึ่งก็อาจจะมาจากมาตรการป้องกันที่ไม่รัดกุม ตนไม่ทราบว่าฝั่งตรงข้ามมีมาตรการป้องกันอย่างไรบ้าง แต่สำหรับฝั่งตนนั้นค่อนข้างมีมาตรการชัดเจน ดังตอ่ไปนี้ 

1.มีเจ้าหน้าที่อาสาสมัครคอยดูแลความปลอดภัย
2.ห้ามเปิดเพลงเสียงดังรบกวนผู้อื่น
3.ห้ามสูบบุหรี่ทุกชนิดในลำธาร
4.ห้ามนำสุนัขเข้ามาในสถานที่
5.ห้ามนำเข้าและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
6.ห้ามพกพาอาวุธอันตรายเข้ามาในสถานที่
7.ห้ามทะเลาะวิวาท
8.ห้ามทิ้งขยะทุกชนิดลงในลำธาร
9.ห้ามถ่ายของเสียในลำธาร
10.ห้ามแต่งตัวโป๊
11.ให้บริการตั้งแต่เวลา 09.00-18.00 น.

611263

แต่อย่างไรก็ตาม ตนยอมรับว่าด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวเยอะมาก จึงทำให้มาตรการแต่ละอย่างอาจจะมีคนฝ่าฝืน และนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือบุหรี่เข้ามาสูบ เนื่องจากพื้นที่โดยรอบเป็นสวนยาง และไม่ได้มีเจ้าหน้าที่มากพอในการสอดส่องดูแลความเรียบร้อย ตนตั้งใจไว้แล้วว่าในอนาคตจะทำรั้วรอบกั้นให้เหลือทางเข้า-ออกเพียงแค่ทางเดียว และเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ดูแลความเรียบร้อย

"ในฐานะผู้ประกอบการ ผมก็อยากจะบอกว่าแม้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผมยังไม่ได้รับผลกระทบอะไร แต่ก็อยากจะฝากถึงเหล่านักท่องเที่ยวและวัยรุ่นที่จะเดินทางมาพักผ่อนที่นี่ หรือฝั่งตรงข้าม ก็ขอให้เคารพกฎ และมาตรการที่วางไว้ เนื่องจากสถานที่แห่งนี้มีทั้งกลุ่มคนที่มากันแบบครอบครัว เด็กเล็ก รวมถึงผู้สูงอายุ" นายวินัย กล่าว 

847225

ทีมข่าวได้เดินทางไปยังฝั่งของ “น้ำเนินไทร” พบว่าทันทีที่เข้าไปถึงได้ยินเสียงเพลงดังสนั่น ท่ามกลางนัดท่องเที่ยวที่มาเล่นน้ำและรับประทานอาหาร จึงได้คุยกับนายมงคล คงเมือง อายุ 59 ปี เจ้าของฝั่ง “น้ำเนินไทร” กล่าวยอมรับว่า เหตุการณ์เมื่อวานเกิดขึ้นฝั่งนี้จริง ชนวนเหตุมาจาก 2 เหตุการณ์

เหตุการณ์แรก มีสามีภรรยาคู่หนึ่งทะเลาะกัน เนื่องจากสามีเมาแล้วไปสร้างความรำคาญให้กับนักท่องเที่ยวรายอื่น ๆ ภรรยาจึงดึงศีรษะสามีขึ้นมาบนฝั่ง แล้วก็มีการตบตีกันเล็กน้อย แต่ก็ปรับความเข้าใจกันได้ ก็เลยพากันกลับไปนั่งที่ศาลาต่อ

353764

ส่วนเหตุการณ์ที่ 2 กลุ่มวัยรุ่นต่างพื้นที่ก่อเหตุทะเลาะวิวาทกัน เนื่องจากเสียงเพลงจากลำโพง ซึ่งปกติแล้ววัยรุ่นทั้ง 2 ฝั่งจะมาเที่ยวที่นี่เฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ แต่จะสลับกันมา ไม่เคยได้มาตรงกัน แล้วทุกครั้งที่มาทั้ง 2 กลุ่มก็จะชอบเปิดเพลงเสียงดัง ๆ ทั้งที่ตนก็ติดป้ายเตือนไว้แล้ว และเข้าไปห้ามปรามแต่ไม่เป็นผล ทั้งนี้จริง ๆ แล้วมาตรการป้องกันของฝั่ง “น้ำเนินไทร” ก็มีหลัก ๆ 4 ข้อดังต่อไปนี้ 

1.ห้ามส่งเสียงดังรบกวนผู้อื่น
2.ห้ามทิ้งขยะลงน้ำ
3.ห้ามขึ้นแคร่แล้วกระโดดลงน้ำ
4.ห้ามนำเข้าและดื่มแอลกอฮอล์

กระทั่งช่วงเวลา 16.00 น. ทั้ง 2 ฝั่งบังเอิญมาพร้อมกัน นั่งศาลาติดกัน เปิดเพลงจากลำโพงที่พกมาส่งเสียงดังสู้กัน ประกอบกับดื่มแอลกอฮอล์และลุกขึ้นเต้นด้วยความสนุกสนาน แต่บังเอิญไปเหยียบเท้า มองหน้า และเขม่นผลักกันไปมา แต่ไม่ได้มีการตะโกนด่า จู่ ๆ ก็รุมตีกันตามคลิปดังกล่าว บางคนวิ่งไปหยิบกระเบื้องที่ตนใช้คลุมเครื่องสูบน้ำไว้ แล้วโยนลงไปด้านล่าง ใช้สังกะสี ร่มชายหาด แคร่ฟาดตีกันจนพังยับเยิน ซึ่งตนก็ได้เข้าไปห้ามแล้วแต่ก็ไม่มีใครฟังจึงต้องโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ

619692

"พอตำรวจมา กลุ่มผู้ก่อเหตุก็กลับไปหมดแล้ว ส่วนคู่สามีภรรยาที่ตบตีกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ดำเนินคดี เพราะมองว่าเป็นเรื่องภายในครอบครัว ประกอบกับทั้ง 2 เหตุการณ์มันเกิดในเวลาไล่เลี่ยกัน ผมจึงไม่รู้ว่าในคลิปใครเป็นใคร แต่ยืนยันว่าไม่รู้จักกับทั้งกลุ่มวัยรุ่นและคู่สามีภรรยานั้นเลย" นายมงคล กล่าว 

นอกจากนี้ ตนตั้งใจว่าจะตั้งค่าปรับหากมีการฝ่าฝืนกฎ เพราะจากเหตุการณ์เมื่อวานนี้ก็ทำให้ได้รับความเสียหายประมาณ 2,000 บาท ทั้งแคร่พัง 2 ตัว มูลค่า 1,200 บาท ร่มชายหาดพัง 2 ตัว มูลค่า 600 บาท ป้ายบอกทางไปห้องน้ำ มูลค่า 100 บาท ซึ่งทั้งหมดไม่สามารถเรียกเงินจากใครได้ เนื่องจากติดต่อใครไม่ได้เลย 

544045

นางสาวรสจะริน คงกะเรียน อายุ 40 ปี ผู้โพสต์คลิปดังกล่าว เล่าให้ฟังว่า เมื่อวานนี้ประมาณ 16.30 น. ขณะที่ตนและแฟนหนุ่มไปเล่นน้ำในสถานที่ดังกล่าว แต่ยืนอยู่ฝั่ง “ร่มไผ่ ไทรย้อย” จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงคนโห่ร้องดังขึ้นมา เมื่อหันไปดูปรากฎว่าเป็นวัยรุ่นประมาณ 20-30 คนรุมตีกัน บางคนก็พากันวิ่งขึ้นบก บางคนก็วิ่งลงน้ำ ตนมองว่าน่าจะเป็นเพราะเมาสุรา เพราะตั้งแต่ตนมาถึงเวลา 10.00 น. ก็เห็นว่าวัยรุ่นนั่งดื่มแอลกอฮอล์แล้ว ซ้ำยังเปิดเพลงเต้นกันเสียงดัง ตนไม่คุ้นหน้าคุ้นตาคนกลุ่มนี้

208748

หลังจากตนถ่ายคลิปเสร็จก็กลับบ้านทันที เพราะกลัวว่าจะเกิดเหตุบานปลาย แล้วตนจะได้รับความไม่ปลอดภัยไปด้วย ซึ่งหลังจากที่ตนโพสต์คลิปก็มีเพื่อน ๆ ของวัยรุ่นที่อยู่ในเหตุการณ์ทักมาบอกว่า เพื่อนของเขาโดนฟาดด้วยขวดเบียร์จนศีรษะแตก เย็บหลายเข็มเหมือนกัน ในฐานะนักท่องเที่ยวพฤติกรรมแบบนี้ทำให้คนที่ต้องการจะไปพักผ่อนหมดสนุก หากจะทำอะไรก็นึกถึงส่วนรวมบ้าง คนที่ไม่เกี่ยวข้องอาจจะโดนลูกหลงได้

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส