กรณีนายไพรวัลย์ สมเลียน หรือ แบงค์ อายุ 30 ปี ชาว ต.กระสังอ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ก่อเหตุใช้อาวุธมีดบุกเข้าไปชิงเจ้ามาริโอ้ช้างเพศผู้อายุ 13 ปี ของนายขวัญชัย สมเลียน อายุ 34 ปี พี่ชายของตัวเอง แล้วนำช้างไปผูกไว้ที่บ้าน อ้างว่าเป็นมรดกของครอบครัว และต้องการให้เจรจาขายช้างในราคากว่า 1 ล้านบาท เพื่อนำเงินมาแบ่งกัน 3 พี่น้อง
ล่าสุดวันที่ 8 เม.ย.65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังบ้านของนายขวัญชัย เจ้าของช้าง พบว่าเจ้ามาริโอ้ ช้างวัย 13 ปี มีความสูงประมาณ 2.8 เมตร ถูกล่ามเอาไว้ภายโรงเลี้ยงช้าง ซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่นายไพรวัลย์ ผู้ก่อเหตุนำช้างมาล่ามเอาไว้ที่ต้นมะพร้าวข้างของพ่อแม่ ระยะห่างแค่ประมาณ 100 เมตร
นางสมควร สมเลียน อายุ 52 แม่ของผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า ตนรู้สึกเสียใจที่ต้องแจ้งความดำเนินคดีกับลูกชายตัวเอง เพราะที่ผ่านมานายแบงค์ ได้สมบัติมากกว่าพี่น้องอีก 2 คน ช้างแบ่งให้ 1 ตัว ส่วนอีก 1 ตัวพี่ชายกับน้องสาวได้คนละครึ่ง แต่นายแบงค์ เดินทางผิดชีวิตไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด แล้วก็ต้องเลิกกับภรรยา ตนสัญญาว่าหากเขาพ้นโทษออกมาแล้ว จะหาช้างตัวใหม่ให้เลี้ยงหวังว่าเขาจะกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดี หลังจากนั้นตำรวจได้ควบคุมตัวนายไพรวัลย์ ไปสอบสวนที่สภ.สตึก
นายแหล่ สมเลียน อายุ 61 ปี พ่อของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ตนมีลูกทั้งหมด 3 คน ได้แก่ นายขวัญชัย สมเลียน ลูกชายคนโต นายไพรวัลย์ สมเลียน ลูกชายคนกลาง ผู้ก่อเหตุ และนางสาวมาดี สมเลียน ลูกสาวคนเล็ก ในวันเกิดเหตุช่วงเวลาประมาณหลังเที่ยง (7 เม.ย.65) ตนอยู่ที่บ้านและเห็นว่านายไพรวัลย์ จูงช้างออกมาล่ามเอาไว้ที่ข้างบ้าน โดยขณะนั้นสภาพลูกชายเมาสุรา น่าจะเสพสารเสพติดจึงพูดคุยไม่รู้เรื่อง อาละวาดเสียงดังว่า "จะเอาเจ้ามาริโอ้ ไปขาย 1 ล้านบาท หารกัน 3 คนพี่น้อง"
ในความจริงแล้ว นายไพรวัลย์ เคยได้ช้างไปแล้ว 1 เชือกเมื่อ 4 ปีที่ผ่านมา แต่ลูกชายดันเอาไปให้ภรรยาเก่าที่เลิกราไปแล้วก 4 ปี แล้วในครั้งนี้ก็เสพยาเสพติด แล้วอยากจะเอาช้างไปขายนำเงินไปใช้ส่วนตัว แต่เจ้ามาริโอ้ เป็นช้างของ 2 พี่น้อง ซึ่งช่วงก่อนโควิด-19 การมีช้างก็สามารถทำมาหากินได้ พาไปรับงานได้รับค่าจ้างเป็นเดือน ประมาณ 20,000 บาท แต่ตอนนี้มีโควิด-19 ทุกคนก็ตกงาน ไม่มีงานจ้างช้าง จึงนำช้างล่ามเอาไว้ให้อาหารตามปกติ
ทั้งนี้ ตนยืนยันวันในวันที่เกิดเหตุ นายขวัญชัย ไม่อยู่บ้านเพราะออกไปตัดอ้อยเพื่อนำมาให้ช้าง แต่ตนยอมรับว่าตนเห็นแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ พูดอะไรมากไม่ได้ จึงได้ว่ากล่าวตักเตือนแล้ว เนื่องจากลูกชายเสพสารเสพติดมีพฤติกรรมเช่นนี้มานานประมาณ 1 ปีแล้ว ขณะนี้ก็ปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวเข้ารับการบำบัดต่อไป
"ตอนนี้ผมกังวลใจมาก อยากให้ลูกหายขาดจากยาเสพติดและกลับมาเป็นปกติ เพราะพ่อแม่ก็เป็นห่วง หากเขาสงบสติอารมณ์แล้วได้รับการบำบัด ก็จะเข้าไปให้กำลังใจเขา คนเป็นพ่อเป็นแม่ก็รักลูกนะ อยากให้กลับตัวกลับใจครับ ให้ลูกกลับมาเป็นคนดีเช่นเดิม" พ่อของผู้ก่อเหตุ กล่าว
ขณะนายขวัญชัย พี่ชายของผู้ก่อเหตุ ให้สัมภาษณ์ว่า สาเหตุที่พ่อแม่แจ้งความดำเนินคดี เพราะต้องการสั่งสอนน้องชาย เพราะทุกคนยังรักน้องชายเหมือนเดิม และคาดว่าศาลคงจะลงโทษสถานเบา เนื่องจากคนก่อเหตุก็เป็นพี่น้องกัน หลังจากนี้ก็คงจะปรับความเข้าใจกันได้
อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวน สภ.สตึก ได้แจ้งข้อหานายไพรวัลย์ 2 ข้อหา ได้แก่ ลักทรัพย์ และเสพสารเสพติด (ยาบ้า) เนื่องจากนายขวัญชัย พี่ชายซึ่งเป็นผู้เสียหายยืนยันจะเอาผิดตามกฎหมาย โดยคดีดังกล่าวพนักงานสอบสวน ก็ไม่ได้คัดค้านการประกันตัวในชั้นสอบสวน แต่ขณะนี้ยังไม่มีใครมายื่นประกันตัวนายไพรวัลย์ ส่วนช้างที่นายไพรวัลย์จับไปเป็นตัวประกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจนำไปส่งคืนให้นายขวัญชัยล่ามไว้ที่บ้านแล้ว
