โจ๋แค้นโดนสวนจู๋เจ็บควงไม้บุกรพ. พยาบาลปัดทำแรง ตาโร่ขอโทษรับหลานติดยา (คลิป)

4 เม.ย. 65

กรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง เผยแพร่คลิปวิดีโอ พร้อมระบุข้อความว่า “สิ่งที่ต้องทำคือหน้าที่ สิ่งต้องมีคือความอดทน 10 ปี ที่โลดแล่นในวงการสาธารณสุข ผ่านเหตุการณ์ต่าง ๆ มากมาย ไม่คิดว่าเรื่องเเบบนี้จะเกิดขึ้นกับตัวเอง เเละในหน่วยงานที่ตัวเองสังกัดโรงพยาบาล คือ สถานที่ ๆ ปลอดภัย”

628936

โดยภาพที่ปรากฏนั้น เป็นเหตุการณ์เวลา 13.15 น. ของวันที่ 1 เม.ย. 65 ชายสวมชุดหมีสีเขียว สวมหมวกกันน็อกเต็มใบ สะพายกระเป๋าเป้ ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดหน้าจุดคัดเเยกคนไข้ เดินขึ้นมาบนตึก แล้วโยนซองยาของโรงพยาบาลทิ้ง จากนั้นกระชากไม้ที่พกมาด้วยจากกระเป๋า เปิดประตูห้องฉุกเฉินเข้ามา เเล้วไล่ตีเจ้าหน้าที่ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่เข้าไปในห้องหลังคลอด ทำให้เจ้าหน้าที่พยายามช่วยกันจับและควบคุมตัวชายรายนี้เอาไว้

132113

ล่าสุดวันที่ 4 เม.ย. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี รายงานว่า ที่โรงพยาบาลโพนนาแก้ว นายแพทย์ตฤณพงศ์ ธีรพงศ์ธนสุข ผอ.โรงพยาบาลโพนนาแก้ว กล่าวว่า ผู้กระทำผิดคือนายทนงศักดิ์ อุปติ อายุ 29 ปี ชาวจ.สกลนคร มีญาติติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่าอยากให้บำบัดนายทนงศักดิ์ เนื่องจากเสพยาเสพติดมาอย่างต่อเนื่อง จึงได้ดำเนินการตามขั้นตอน คือ นำตัวมาตรวจที่โรงพยาบาลในเบื้องต้น

569231

ทั้งนี้ บุคลากรทางการแพทย์ก็ได้ตรวจเบื้องตัน ก่อนที่จะส่งไปโรงพยาบาลจิตเวชจังหวัดนครพนม แต่ในระหว่างที่ทำการตรวจ มีการสวนท่อปัสสาวะขณะที่นายทนงศักดิ์หลับ จากการให้ยาของเจ้าหน้าที่ เมื่อตื่นขึ้นมานายทนงศักดิ์ รู้สึกเจ็บจึงได้เอะอะโวยวาย ตะโกนเพื่อจะให้เจ้าหน้าที่ถอดสายสวนออก ทำให้นายทนงศักดิ์รู้สึกโกรธเคืองและฝังใจ แต่เนื่องจากการตรวจเบื้องตันใช้เวลานานพอสมควร เกินเวลาที่โรงพยาบาลจะนำตัวส่งไปยังนครพนม จึงได้ให้มารดาของนายทนงศักดิ์ รับกลับไป แต่หลังจากนั้นก็เข้ามาก่อเหตุดังกล่าว

176502

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับตัวผู้ต้องหาไว้ดำเนินคดี พร้อมทั้งตรวจสารเสพติดในร่างกาย พบว่ามีเมตแอมเฟตามีน จึงได้แจ้งข้อหาว่าบุกรุกโดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยมีอาวุธ ทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงาน เป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เป็นผู้ขับขี่เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมายและเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมตแอมเฟตามีน) 

108885

นายกฤตย์พัฒน์ เจ้าพนักงานสาธารณสุขปฏิบัติงาน กลุ่มงานบริการด้านปฐมภูมิและองค์รวม ระบุว่า ตนทำงานมานานกว่า 10 ปี และผ่านเหตุการณ์ต่าง ๆ มามากมาย แต่ไม่คิดว่าเหตุการณ์แบบนี้ จะเกิดขึ้นกับตัวเอง ทั้งที่โรงพยาบาล คือ สถานที่ที่ปลอดภัย ไม่สมควรจะมีเหตุการณ์ในลักษณะนี้ จึงจะขอปกป้องสิทธิตัวเอง โดยจะไม่ยอมความและจะดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด

312329

นายสุดใจ ขันบรรจง ผู้เป็นตา เปิดเผยว่า ปกติตนก็ไม่ได้สุงสิงกับหลานชาย แต่ก็พอจะทราบเรื่องประวัติการใช้สารเสพติด ตนก็ไม่อยากเข้าไปยุ่ง เพราะกลัวจะเป็นอันตราย ส่วนพื้นฐานนิสัยของนายทนงศักดิ์ เขาเป็นคนก้าวร้าวและมักมีปากเสียงกับแม่อยู่บ่อยครั้ง เพราะอาศัยอยู่ในบ้านกัน 2 คนแม่ลูก มีอาชีพทำนาและรับจ้างเป็นหลัก เรื่องในวันเกิดเหตุนั้นตนพอทราบบ้าง และก็อยากจะขอโทษแทนหลานชาย ที่เขาไปก่อเหตุกับเจ้าหน้าที่ที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุการณ์ในครั้งนี้

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส