กรณีคนร้ายก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ที่หน้าลิฟท์ของโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ย่านสาทร กทม. ทำให้แพทย์หญิงท่านหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้เสียหายและกำลังตั้งครรภ์ 8 เดือน ล้มหน้ากระแทกพื้น ก่อนคนร้ายจะได้กระเป๋าถือไป ภายในมีโทรศัพท์มือถือยี่ห้อไอโฟน 1 เครื่อง เงินสดประมาณ 3,000 บาท และรีบหลบหนีไปทันที
ทั้งนี้ ในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบข้อมูลว่า คนร้ายดังกล่าวเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ รปภ.ของโรงพยาบาลแห่งนี้ จึงรู้ช่องทางหลบหนีเป็นอย่างดี ก่อนจะตามสืบหาตัวจนสามารถจับกุมได้ ทราบชื่อต่อมา นายสุทธิพงษ์ หรือ โอ๊ต อายุ 28 ปี
ล่าสุดวันที่ 1 เม.ย. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปที่หอพักแห่งหนึ่งในซอยตากสิน 21 จุดที่นายโอ๊ต พักอาศัย พบเป็นอะพาร์ตเมนต์ 3 ชั้น
โดยกล้องวงจรปิดจับภาพช่วงที่นายโอ๊ต ผู้ต้องหา กลับเข้ามาที่ห้องหลังเกิดเหตุ ซึ่งขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาในเวลา 18.28 น. จากนั้นนายโอ๊ต จอดรถจักรยานยนต์และนำกระเป๋าของผู้เสียหายมาทิ้งที่ถังขยะหน้าอะพาร์ตเมนต์
สอบถามนางละม่อม สุขกำปัง อายุ 60 ปี ป้าของผู้ต้องหา กล่าวว่า เมื่อวานนี้ (31 มี.ค.65) ก่อนเกิดเหตุเวลา 15.00 น. นายโอ๊ต ซึ่งเป็นหลานชาย เข้ามาขอเงินตนจึงให้ไปจำนวน 100 บาท โดยที่ตนไม่รู้ว่าอีกฝ่ายนำเงินไปใช้ทำอะไร กระทั่งช่วงเช้าของอีกวันตนทราบข่าวว่าหลานชายถูกตำรวจจับไปแล้ว หลังไปก่อเหตุกระชากกระเป๋าของคุณหมอในลิฟต์ และกำลังตั้งครรภ์อีกด้วย ทั้งนี้ ตนก็ตกใจมาก ๆ เพราะหลานชายเคยเป็น รปภ.ที่โรงพยาบาลจุดเกิดเหตุ น่าจะรู้ช่องทางหลบหนี
ที่ผ่านมาหลานชายไม่เคยมีพฤติกรรมเช่นนี้ แต่หลานชายติดการพนัน มักจะใช้เงินไปกับการเล่นพนันออนไลน์ ส่วนเรื่องยาเสพติด ตนไม่มั่นใจ ทั้งนี้ ภรรยาของหลานชายก็กำลังตั้งครรภ์ 8 เดือน ตนก็ภาวนาให้คุณหมอปลอดภัย เพราะกลัวเวรกรรมจะตกมาถึงภรรยาของหลานชาย ส่วนเรื่องคดีความตนคาดว่าครอบครัวคงจะไม่มีเงินประกันตัว เพราะทุกคนต่างหาเช้ากินค่ำทั้งนั้น
จากนั้นทีมข่าวเดินทางมาที่ สภ.ทุ่งมหาเมฆ พบภรรยาของนายโอ๊ต ซึ่งยืนอยู่หน้าโรงพัก ทีมข่าวพยายามสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่เจ้าตัวไม่ขอตอบคำถามใด ๆ
อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวน ได้แจ้งข้อหาชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ โดยใช้ยานพาหนะ และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมตแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ อ้างว่าทำไปเพราะจะนำเงินไปซื้อยาเสพติด ก่อนเจ้าหน้าที่จะนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุและจุดทิ้งกระเป๋าหน้าอะพาร์ตเมนต์ดังกล่าว