สาวแหกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ยุบ้านแตก อ้างผัวพาสาวไปกก รร. จับโป๊ะเพราะหน้า (คลิป)

1 เม.ย. 65

กรณีเฟซบุ๊ก "SSoda Coke" โพสต์คลิปพร้อมภาพ และแชร์ประสบการณ์การคุยกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งหลอกว่าเป็นเจ้าของโรงแรม และสามีของเจ้าของเรื่องพาสาวไปเปิดโรงแรมนอน 4 คืน แล้วไม่จ่ายเงิน ด้วยความอยากรู้ เจ้าของเรื่องจึงแอดไลน์ไปขอหลักฐาน อีกฝ่ายก็ส่งรูปบัตรประชาชนและรูปผู้หญิงคนหนึ่งมา พร้อมเลขที่บัญชีที่จะให้โอนเงินให้ รวมถึงภาพจากกล้องวงจรปิดที่ดูไม่รู้ว่าใคร

โดยคลิปดังกล่าวเป็นคลิปที่มิจฉาชีพในคราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กำลังคุยกับเจ้าของเรื่อง แต่บ่ายเบี่ยงไม่บอกชื่อโรงแรม พูดแต่ว่าเจ้าของเรื่องไม่เด็ดพอทำให้สามีต้องไปหิ้วสาวมานอนโรงแรม และถ้าไม่มีเงินก็ให้เจ้าของเรื่องมาขัดดอกแทนก็ได้ หลังจากนั้น เจ้าของเรื่องก็นำเบอร์ของคนที่อ้างว่าเป็นเจ้าของโรงแรม มาโพสต์เพื่อแชร์อุทาหรณ์ 

611685

ล่าสุดวันที่ 1 เม.ย. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ติดต่อไปยัง น.ส.เจน (นามสมมติ) ผู้โพสต์เรื่องราวดังกล่าว เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นวานนี้ (31 มี.ค. 65) ขณะนั้นตนอยู่ที่บ้าน จู่ ๆ ก็มีสายปริศนาโทรศัพท์เข้ามา ก่อนปลายสายจะอ้างว่าสามีของตนไปเปิดห้องเช่าที่รีสอร์ตในพื้นที่ คลองสี่ จ.ปทุมธานี จำนวน 4 คืน แต่ค้างจ่ายเอาไว้ประมาณ 6,000 บาท พร้อมทั้งยังพาผู้หญิงคนหนึ่งไปนอนค้างแรมด้วย

จากนั้นปลายสายระบุว่าเป็นผู้จัดการโณงแรม จึงให้ตนแอดไลน์เพื่อจะส่งหลักฐานทั้งหมด ซึ่งมีภาพจากกล้องวงจรปิด และบัตรประชาชนของผู้หญิง เมื่อตนเห็นหลักฐานจึงได้ติดต่อหาสามี เนื่องจากสามีทำงาน แต่ปรากฏว่าสามีปฏิเสธเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง และตนก็สงสัยว่าสามีกลับบ้านทุกวัน จะมีเวลาไปเช้าโรงแรมได้อย่างไร ทำให้ตนตัดสินใจประชุมสายและติดต่อคุยกับมิจฉาชีพ จึงปรากฎตามคลิปที่แชร์ออกไป

153625

ทั้งนี้ ส่วนตัวค่อนข้างมั่นใจว่าสามีไม่ได้ทำเช่นนั้น เนื่องจากดูจาหน้าตาของผู้หญิงคนที่อยู่ในบัตรประชาชนแล้วสามีไม่น่าจะชื่นชอบ ซ้ำสามียังจะต้องเสียเงินซื้อบริการด้วย ตนจึงคิดว่าไม่น่าจะใช่เรื่องจริง และสถานที่ที่มิจฉาชีพอ้างนั้น ก็อยู่ไกลจากบ้านและเส้นทางกลับของสามี หลังจากนั้นตนก็นำเรื่องราวไปโพสต์ คาดว่ามีคนโทรศัพท์ไปหามิจฉาชีพจำนวนมาก ทำให้มิจฉาชีพติดต่อเข้ามาหาตน และต่อว่าพูดจาหยาบคาดตามที่ปรากฏในคลิป 

อย่างไรก็ตาม ตนได้แจ้งความไว้แล้ว และตนอยากจะบอกว่ามิจฉาชีพมักจะมาในรูปแบบใหม่ ๆ อีกทั้งข้อมูลที่มิจฉาชีพมีและส่งให้เรา ตนก็ไม่ทราบว่าบัตรประชาชนของผู้หญิงมีตัวตนหรือไม่ จึงลองนำไปค้นหาในอินเทอร์เน็ต ปรากฏว่าว่ามีผู้ใช้เฟซบุ๊กตรงตามบัตรประชาชนจริง แต่ตนก็ไม่รู้ว่าจะใช่มิจฉาชีพตัวจริงหรือไม่ ตอนนี้ตนยืนยันว่าไม่ได้มีปัญหาครอบครัว

452086

ทีมข่าวยังได้คลิปของเพื่อนผู้เสียหาย ซึ่งทำทีหลอกโทรศัพท์ไปสอบถามกลุ่มผู้ก่อเหตุว่าเป็นใคร โดยมิจฉาชีพ ระบุว่า เป็นแค่แก๊งทวงหนี้ แต่สามารถให้มาร่วมเพศแลกเงินแสนได้ ส่วนเรื่องค่ารีสอร์ตก็ไม่ใช่ข้อเท็จจริง แต่ผู้เสียหายมีการกู้เงินไปเกือบ 1 หมื่นบาท แล้วไม่ยอมจ่ายจึงโทรศัพท์ไปทวงเท่านั้น การกู้เงินดังกล่าวเป็นการกู้ผ่านแอปพลิเคชันเท่านั้น

นอกจากนี้ ทีมข่าวยังได้ลองโทรศัพท์ไปยังเบอร์โทรศัพท์ที่ผู้เสียหายโพสต์ไว้ จำนวน 2 เบอร์ แต่มี 1 เบอร์ปิดเครื่องไปแล้ว ส่วนอีกเบอร์ติดต่อได้พบว่าปลายสายรับโทรศัพท์ 1.40 นาที ก่อนจะมีคนพูดเป็นเสียงผู้ชาย อ้างว่าไม่ใช่มิจฉาชีพ แต่อยู่ที่จ.เชียงใหม่ อีกทั้งปลายสายยังมีท่าทีหงุดหงิดเมื่อสอบถามเรื่องสัญชาติ ก็จะเริ่มอารมณ์ไม่ดีใส่ทันที 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส