ลือจับกุนซือบงการแตงโมนั่งฉี่ รัชพลป้องตั้มพ้นร่างแห แฉหลักฐานอัจราคาคุย (คลิป)

31 มี.ค. 65

กรณีกระแสข่าวล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมมีการออกหมายจับ บุคคลที่เป็นกุนซือ เกี่ยวกับการแนะนำให้บุคคลบนเรือให้การเท็จ และเมื่อช่วงเย็นวันที่ 31 มี.ค. 65 ที่ผ่านมา เฟซบุ๊กของ "ทนายรัชพล ศิริสาคร" มีการโพสต์ข้อความระบุว่า “กุนซือ ชี้ช่องคนบนเรือ มีความผิดด้วยนะ#แตงโมต้องไม่ตายฟรี”

413517

นายรัชพล ศิริสาคร ทนายความ เปิดเผยว่า การโพสต์เนื้อหาดังกล่าว เพราะว่าทราบล่าสุดว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมที่จะมีการขยายผลเอาผิดบุคคลที่มีการให้คำแนะนำบุคคลที่อยู่บนเรือ แต่ไม่ใช่คนบนเรือ มีการให้การเท็จเกี่ยวกับตำแหน่งนั่งบนเรือของแตงโม หรือการตกท้ายเรือที่ให้การว่ามีการฉี่นั้น บุคคลที่ร่วมสนับสนุนหรือให้คำแนะนำให้บุคคลที่อยู่บนเรือไปให้การต่อเจ้าพนักงาน โดยระบุว่าแตงโมฉี่ท้ายเรือ จนทำให้เป็นเหตุตกเรือสปีดโบ๊ต เมื่อมีการขยายผลและสืบสวนอย่างละเอียดของชุดทำคดี ปรากฏว่าอาจมีมูลว่าไม่เป็นความจริง จึงทำให้ตำรวจสามารถที่จะเอาผิดบุคคลที่เป็นกุนซือได้ ความผิดให้การเท็จต่อเจ้าพนักงานมีความผิดจำคุก 6 เดือน ซึ่งบุคคลที่ให้การสนับสนุนหรือให้คำแนะนำ มีความผิด 2 ใน 3 ฉะนั้นก็จะมีความผิดร่วมกับบุคคลที่ให้การเท็จ โดยมีโทษจำคุก 4 เดือน

199894

จากการออกมาโพสต์แสดงความคิดเห็นของตนเอง เชื่อมั่นว่าบุคคลที่อยู่บนเรือไม่ใช่กุนซือ ที่มีการให้คำแนะนำกันเองอย่างแน่นอน แต่เกิดจากทนายบางคนที่ไปให้คำแนะนำ เพราะทราบว่าหลังจากที่เกิดเหตุการณ์แล้วได้มีการนัดหมายคุยกับทนายความ เพื่อที่จะพูดคุยเกี่ยวกับแนวทางและความผิดที่อาจเกิดขึ้น ฉะนั้นบุคคลที่ตนเองพูดถึงจึงเชื่อมั่นว่าเป็นคนนอก และมีความเป็นไปได้สูงว่าจะเป็นทนายความ

115101

ขณะเดียวกันก่อนหน้านี้เคยมีชื่อปรากฏคือทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ส่วนตัวมองว่าทนายตั้มเป็นทนายคนลำดับหลัง ๆ ที่มีการโทรไปปรึกษาในทางกฎหมายว่ากระทำการอะไรไว้ และจะมีความผิดอย่างไร การให้คำปรึกษาเป็นการพูดคุยเบื้องต้น แต่เชื่อว่าทนายษิทราไม่ได้เป็นคนแนะนำหรือชี้นำอย่างที่ถูกตั้งข้อสังเกต เพราะอย่าลืมว่าหลังจากที่เกิดเหตุขึ้นแล้วทนายษิทรายังออกมาแสดงความคิดเห็น พูดถึงกลุ่มคนบนเรือ ดังนั้นถ้าหากมองในมุมของทนายความที่ให้คำปรึกษาทางกฎหมาย แล้วเอาข้อมูลของลูกความมาเปิดเผย ก็เรียกได้ว่าผิดมรรยาททนายความ แม้ว่าจะไม่ได้รับการแต่งตั้งหรือเป็นทนายเต็มตัว ก็ไม่มีใครทำกันแบบนี้ ที่สำคัญอย่าลืมว่าถ้าหากทนายษิทราเป็นกุนซือจริง ทำไมเจ้าตัวถึงไม่รับทำคดีให้กับคนบนเรือ เพราะถ้าเกิดจะให้คำแนะนำแต่แรกก็จะต้องเป็นทนายด้วยเท่านั้น

142869

อย่างไรก็ตาม จากกระแสข่าวที่ตำรวจจะมีการเอาผิดกุนซือ แสดงให้เห็นว่าตำรวจต้องมีพยานหลักฐานหรือข้อมูลบางอย่าง ที่ไม่ได้เชื่อตามคำให้การของคนบนเรือบางคน ที่ระบุว่านางสาวแตงโมฉี่อยู่ท้ายเรือก่อนที่จะตกเรือ เพราะเตรียมที่จะมีการเอาผิดคนที่ให้คำแนะนำหรือชี้แนะ และถ้าดูจากการเตรียมการของเจ้าหน้าที่ ก็เชื่อมั่นได้ว่าพฤติกรรมคนบนเรือ ต้องไม่เป็นไปตามที่คนบนเรือให้การอย่างแน่นอน หรืออาจจะมีความเป็นไปได้ว่าแตงโมไม้ได้ตกที่ท้ายเรือ

443897

ด้านนายเดชากิตติ วิทยานันท์ ทนายความส่วนตัวของแม่แตงโม กล่าวประเด็นที่ทางนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ทนายความชื่อดัง ระบุว่าเตรียมเข้าพบกับพนักงานสอบสวน เพื่อยื่นหลักฐานเพิ่มเอาผิดบุคคลบนเรือท่านหนึ่ง ในข้อหาให้การเท็จ วันที่ 1 เม.ย. 65

ทนายเดชา ระบุว่า ส่วนตัวไม่ได้มีโอกาสพูดคุยกับทางด้านนายอัจฉริยะโดยตรง ทราบมาจากสื่อฯ ตนก็ยืนยันคำเดิมว่าเป็นเรื่องส่วนบุคคลในฐานะประชาชน ที่จะเข้าไปร้องทุกข์กล่าวโทษ ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับตนเอง

"เป็นการใช้สิทธิเหมือนคนอื่นที่ไปงมหาขอนไม้ หากล้องวงจรปิด ก็เป็นเรื่องของเขา ถามว่ามันจะส่งผลให้เกิดความวุ่นวายกับทางเจ้าหน้าที่หรือไม่ ตนคิดว่าเป็นคนละส่วนกัน เพราะตนไม่ทราบว่าเขาเองมีพยานหลักฐานอะไร อาจจะเป็นหลักฐานเด็ดของเขาก็ได้ แต่ยืนยันว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการอยู่แล้ว ไม่มีคนมายื่นเรื่องเขาก็ต้องทำ"

427546

นอกจากนี้ ทนายรัชพล ศิริสาคร ทนายความ เปิดเผยว่า การที่นายอัจฉริยะเตรียมที่จะนำหลักฐานบางอย่างไปมอบให้กับพนักงานสอบสวนหรือชุดทำคดีนั้น ส่วนตัวมองว่าหลักฐานอาจจะเป็นเพียงแค่คลิปและการวิเคราะห์ เพราะเชื่อว่าหลักฐานเหล่านั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจมีหมดแล้ว

ฉะนั้นตำรวจอาจจะไม่ได้นำไปทำให้สำนวนคดีมีการเปลี่ยนแปลงก็ได้ เนื่องจากเท่าที่ตนเองทราบคือตำรวจรู้พฤติกรรมของคนบนเรือหมดแล้ว และรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบนเรือ ใครนั่งอยู่ในตำแหน่งไหน และเกิดอะไรขึ้นตามช่วงเวลาใดบ้าง ดังนั้นการที่นายอัจฉริยะนำหลักฐานไปให้ จึงอาจเป็นการนำหลักฐานไปซ้ำซ้อนกับสิ่งที่ตำรวจมี ตนเองก็เชื่อว่าอาจไม่ใช่หลักฐานใหม่

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส