ลากคอโจ๋ถีบเด็กคารถเมล์ คิดว่าเป็นอริต่างสถาบัน ตร.จับเมากัญชา สุดแสบปิดรถกระแทกหน้าสื่อ (คลิป)

15 มี.ค. 65

กรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง แชร์ภาพจากกล้องวงจรปิดบนรถโดยสารปรับอากาศสาย 80 ขณะกำลังวิ่งระหว่างวัดศรีนวลธรรมวิมล-สนามหลวง ในช่วงเวลา 21.57 น. ของวันที่ 13 มี.ค.65 ที่ผ่านมา ปรากฏว่าขณะที่รถเมล์กำลังเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ซอยเพชรเกษม 81 เขตหนองแคม กทม. มีชายวัยรุ่นคนหนึ่ง ผมสั้น สวมกางเกงขายาวสีดำ ใส่แมสก์สีขาว ถือถุงกับข้าวมานั่งรถใกล้ประตูทางลงรถ

743726

แต่เมื่อรถปอ. 80 จอดเทียบป้าย ชายคนดังกล่าวได้ใช้เท้าถีบไปที่หน้าของหนุ่มอีกราย ทราบชื่อภายหลังว่า "น้องกัปตัน" ทั้ง ๆ ที่ไม่รู้จักกัน หรือนั่งใกล้กัน ก่อนวิ่งลงรถเมล์ไปอย่างรวดเร็ว พลเมืองดีที่อยู่ใกล้ประตูพยายามคว้าตัวชายคนดังกล่าวแต่ไม่ทัน ก่อนที่ภาพวงจรปิดด้านหลังรถเมล์ จะจับภาพชายคนนั้นวิ่งหนีเข้าไปในซอยเพชรเกษม 81

331228

โดยคุณแม่ของน้องกัปตัน นำคลิปวิดีโอไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ ก่อนโพสต์ว่า “โคตรเศร้ากับคำตอบ ฉันมีคลิป ฉันเอาคลิปไปให้ คำตอบคือ ไม่รับปากนะว่าจะตามตัวเจอ ต้องไปติดต่อสืบสวนเอาเองนะ ถ้าใครใส่แมสก์ แล้วไปทำร้ายคนอื่น คุณกลับบ้านนอนสบายใจ เพราะไม่รับปากว่าจะเจอกับตัว พูดไม่ออก มีแต่น้ำตาที่มันไหลออก เลี้ยงมาด้วยความรัก แต่กลับต้องมาเจอใครก็ไม่รู้ ถีบหัวจนสุดแรง ช่วยแชร์ได้นะคะ เผื่อแชร์ไปแล้ว มีคนรู้จัก ผช.ในคลิป ขอบคุณค่ะ”

300037

ล่าสุดวันที่ 15 มี.ค. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปพบกับนายกัปตัน อายุ 17 ปี ผู้เสียหายที่ถูกทำร้ายบนรถเมล์ กล่าวว่า ในวันเกิดเหตุตนได้นั่งรถเมล์สาย 80 มาจากห้างสรรพสินค้าซีคอนบางแค เพื่อจะเดินทางกลับบ้าน ระหว่างทางไม่มีอะไรผิดปกติ แต่พอมาถึงบริเวณซอยเพชรเกษม 81 ชายคนดังกล่าวได้มองหน้าแล้วก็ถีบเข้าที่ท้ายทอยของตนอย่างแรง ก่อนจะวิ่งหนีตามในคลิป ตนตกใจมาก ๆ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนยืนยันว่าไม่เคยรู้จักกับคนก่อเหตุมาก่อน

ก่อนหน้านี้ตนก็ใช้บริการรถสายนี้เป็นประจำ ๆ ไม่เคยเห็นหรือพบเจอกับคนก่อเหตุมาก่อน เมื่อไปถึงโรงพักตำรวจก็ให้ชี้ตัวและไกล่เกลี่ยกัน คนก่อเหตุได้ขอโทษและยอมรับว่าเมากัญชา ที่ก่อเหตุเป็นเพราะว่าตนหน้าเหมือนกับคู่อริของเขา ระแวงว่าจะถูกทำร้ายจึงชิงลงมือทำร้ายก่อน อย่างไรก็ตาม ตนและครอบครัวยืนยันจะไม่รับเงินไกล่เกลี่ย แต่จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด หากยอมความคนก่อเหตุอาจจะไปก่อเหตุซ้ำอีก หากในวันเกิดเหตุเขามีอาวุธ ตนอาจจะเจ็บตัวมากกว่านี้หรือไม่ 

127101

เวลา 11.30 น. แม่และยายพร้อมด้วยน้องกัปตัน ได้เดินทางมาพบกับ รองผู้กำกับ สน.หนองแขม เพื่อจะสอบปากคำเพิ่มเติมร่วมกับ สหวิชาชีพ โดยนางสาวิตรี สาละวัน อายุ 61 ปี ยายของน้องกัปตัน ให้สัมภาษณ์ว่า ครอบครัวได้เจอผู้ก่อเหตุแล้ว หลังพลเมืองดีแจ้งเบาะแสกับตำรวจ เขาขอโทษน้องกัปตันและครอบครัว อ้างว่าที่ลงมือก่อเหตุ เพราะคิดว่าน้องกัปตันเป็นคู่อริเก่า และเขาก็ยอมรับว่าเมากัญชาด้วย

557628

นางชมพูนุช อินสว่าง แม่ของน้องกัปตัน เปิดเผยว่า ตนพยายามหาข้อมูลและหลักฐานภาพจากกล้องวลจรปิดของรถเมล์ ขสมก.สาย 80 และเบาะแสจากคนในพื้นที่ รวมถึงข้อมูลจากโซเซียลมีเดีย ขณะนั้นตนไม่รู้เลยว่าจะสามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีได้หรือไม่ เนื่องจากตำรวจ สน.หนองแขม ที่รับแจ้งความบอกว่าภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นภาพตอนกลางคืน เห็นลักษณะใบหน้าไม่ชัด ขณะผู้ก่อเหตุก็สวมหน้ากากอนามัย อาจจะใช้เวลาในการติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้ยาก

669747

กระทั่งมีพลเมืองดี แจังเบาะแส กับตำรวจ และสามารถติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุได้ ขณะนี้จึงอยู่ระหว่างการนำตัวผู้ก่อเหตุมาสอบปากคำเพิ่มเติม หลังจากเมื่อคืนฝั่งผู้ก่อเหตุพยายามไกล่ ขอชดเชยเป็นเงินสินไหมทดแทนแลกกับการไม่ถูกดำเนินคดี แต่ครอบครัวไม่ขอรับ เนื่องจากต้องการให้เป็นบทเรียนกับผู้ก่อเหคุ ตนมองว่าเหตุการณ์แบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้นในสังคม เพราะลูกชายตนเป็นเด็กเรียบร้อย ตั้งใจเรียน มีผลการเรียน 3.50 ไม่เคยไปมีเรื่องทะเลาะกับใคร เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับลูกชายครอบครัวรับไม่ได้ ตนจึงอยากให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

331881

จากนั้นเวลาประมาณ 15.00 น. มีรายงานว่านายนัท ผู้ก่อเหตุ ได้เดินทางไปพบกับตำรวจชุดสืบสวน สน.หนองแขม พร้อมกับแม่และน้าชาย เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมและทำประวัติ แต่เมื่อทำประวัติเสร็จ ป้าของนายนัท นำรถมาจอดรอเพื่อรับนายนัทกลับบ้าน

236062

ขณะที่ นายนัท เดินออกมาจากห้องสืบสวน ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ตั้งใจก่อเหตุหรือไม่ และอยากจะขอโทษผู้เสียหายหรือไม่ แต่นายนัท เอาแต่ยกมือไหว้ไม่ยอมตอบ และปิดประตูใส่ผู้สื่อข่าว อ้างว่า "ผมขอกลับบ้าน"

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส