กระติก-แซน เปิดใจครั้งแรก โต้รับงานเอนฯ ยืนยัน แตงโม ปัสสาวะเป็นเหตุพลัดตกเรือ

27 ก.พ. 65

วันนี้ 27 ก.พ. 65 ที่ สภ.นนทบุรี กระติก อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ ผู้จัดการของแตงโม และ แซน วิศาพัช มโนมัยรัตน์ เพื่อนที่อยู่บนเรือสปีดโบ๊ต ได้เข้าพบพนักงานสอบสวน จากนั้นทั้งคู่ได้ออกมาเปิดเผยไทม์ไลน์ที่เกิดขึ้นในวันที่ แตงโม นิดา พลัดตกเรือจมแม่น้ำเจ้าพระยา

จากเหตุการณ์ที่ แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์ นักแสดงสาววัย 37 ปี ประสบอุบัติเหตุตกเรือจมลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณช่วงใต้สะพานพระราม 7 ท่าเรือพิบูลสงคราม เมื่อคืนวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา และล่าสุดวันนี้ (26 ก.พ.65) เมื่อเวลาประมาณ 13.10 น. เจ้าหน้าที่กู้ภัยพบร่างของ แตงโม นิดา แล้ว โดยลอยอยู่กลางแม่น้ำตรงข้าม ท่าน้ำพิบูลสงคราม ห่างประมาณ 300 เมตร โดยส่งร่างชันสูตรที่ รพ.ตำรวจนั้น

ความคืบหน้าวันที่ 26 ก.พ.65 เวลาประมาณ 20.25 น. มีรายงานว่า สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ เผยผลชันสูตรในเบื้องต้น แตงโม นิดา เสียชีวิตจากขาดอากาศหายใจจากการจมน้ำ ปากและใบหน้ามีทรายจำนวนมาก พบทรายจำนวนมากในปอด คาดว่าร่างจะจมไปถึงพื้นด้านล่างของแม่น้ำ พบบาดแผลลึก 1 แผล บริเวณต้นขาด้านซ้าย ส่วนชุดที่แตงโมสวมใส่อยู่เป็นลักษณะบอดี้สูท การปัสสาวะอาจทำได้ยากสำหรับการโดยสารเรือ สำหรับผลชันสูตรเรื่องแอลกอฮอล์และยาเสพติด คาดว่าจะทราบผลภายใน 3-7 วัน 

ล่าสุดวันนี้ 27 ก.พ. 65 กระติก-แซน เปิดใจครั้งแรก ยืนยัน แตงโม ปัสสาวะเป็นเหตุพลัดตกเรือ 

โดย กระติก เผยว่า "เริ่มต้นคือคุณปอที่เป็นเจ้าของเรือซึ่งเป็นเพื่อนเรามานาน ชวนไปเจอกันไปเมาท์กัน วันนั้นเราก็นัดแซนไปด้วย นัดเจอกัน 4 โมง กระติกไปแต่งตัวบ้านโม และออกมาพร้อมกัน เราไปถึงเลทประมาณ 16.45 น. ซึ่งเราไปเจอเพื่อนปออีก 2 คน ซึ่งเขาก็แจ้งเราก่อนแล้วว่า จะพาเพื่อนไปด้วย ซึ่งเราโอเค เพราะไม่งั้นเขาก็จะเป็นผู้ชายคนเดียวในเรือ"

"หลังจากล่องเรือไปถึงร้านอาหาร 6 โมงครึ่งได้ ก่อนกลับทุกคนก็ไปเข้าห้องน้ำ เพราะเราไม่เห็นห้องน้ำบนเรือ และระยะทางไม่ใช่สั้นๆ แต่โมไม่ไป แม้เราจะชวนแล้ว เพราะเขายังไม่ปวด เขาก็เล่นโทรศัพท์ของเขาไป ขากลับออกจากร้านอาหารประมาณ 2 ทุ่ม ก็ลงเรือ แวะถ่ายรูประหว่างทาง จนเกิดเหตุเวลาประมาณ 4 ทุ่ม ที่ใช้เวลานาน เพราะระหว่างทางเราแวะถ่ายรูป ตอนที่แตงโมไปปัสสาวะท้ายเรือ กระติกไม่เห็น เพราะเราหยุดถ่ายรูปกันแล้ว ตอนนั้นตัวเองกำลังนั่งชมบรรยากาศ เราเหนื่อยแล้ว เรือออกจากสะพานพระราม 8 กำลังจะเข้าอู่เรือแล้ว เพื่อนบอกว่าปวดฉี่ เราก็ว่าเพื่อน ทำไมตอนนั้นไม่ไป ซึ่งแตงโมก็บอกว่าตอนนั้นยังไม่ปวด (สะอื้น) เรายังว่าเลยไม่ปวดแต่มีฉี่ในกระเพาะ ทำไมไม่ไป แล้วเขาก็กลับไป โดยไม่ได้แสดงอาการว่าทนไม่ไหว เราก็ไม่ได้สนใจ ตอนนั้นเราสนใจแต่วิวแล้ว เพราะเราเสียเวลาไปกับการถ่ายรูปเยอะ เพราะอากาศดี ฟ้าใส ได้ยินเสียงอีกที คือ แซนตะโกน ซึ่งแซนอยู่ข้างหลัง ท้ายเรือ เราอยู่ด้านหน้า"

เมื่อถาม แซน ว่า เห็นตอนที่ แตงโม พลัดตกเลยไหม แซน เผยว่า ลักษณะที่แตงโมตกเรือ คือ

"พลิกด้านข้างลงไป มือเกาะขาสองข้างของแซน โดยหันหลังไปทางท้ายเรือ หัวหน้ามาทางแซน ตอนนั้นนอนเล่นมือถืออยู่ ตอนนั้นดื่มนิดหน่อย ถามว่าโมดื่มไหม จำไม่ได้ คือ เขาเดินมาแล้วนั่งลงไปเลย ทุกอย่างมันเร็วมาก"

ชุดของแตงโมเป็นบอดี้สูทสามารถถอดนั่งปัสสาวะตรงนั้นได้ ?
"พี่ไม่เคยเหรอคะ ไม่เคยต้องปัสสาวะรีบๆ ในชุดบอดี้สูทเหรอคะ อ๋อถ้าเกิดเคย พี่คงทราบว่ามันทำยังไงอ่ะเนอะ ถ้าให้อธิบายให้เห็นภาพ มันก็ไม่ค่อยสุภาพเท่าไร"

บอดี้สูทมี 2 ประเภท หรือเปล่า?
"อันนี้ก็ไม่รู้ ไม่ได้สังเกตขนาดนั้น"

1645954702524-3

ขณะที่ กระติก ขอชี้แจงประเด็นนี้แทน แซน ว่า
"อันนี้ต้องตัดมาให้ติกก่อนนะ ที่เห็นและทราบเลยนะ เค้าใส่ผ้าอนามัยอยู่ด้วยนะ และถามว่า เห้ยๆ เห็นไหม ซึ่งลักษณะการปัสสาวะของคนที่ใส่บอดี้สูท มันไม่ได้ถอดนะคะ มันแหวกข้าง อันนี้ประสบการณ์ของติกนะคะ แต่ไม่ทราบว่าโมทำหรือเปล่า อยู่บนเรือ ผู้ชายก็เยอะ แล้วยังเป็นที่โล่งแจ้ง แต่เสื้อคลุมก็ใส่ คงไม่มีใครที่จะถอดออกทั้งหมด เป็นติกก็จะเลือกแหวกข้าง"

"เขาไม่ได้บอก ติกไม่ทราบว่าเขาจะฉี่ ทุกคนมองไปข้างหน้า รู้อีกทีคือตกแล้ว รู้จากแซนคือ เขาเดินมาแล้ว ก็นั่งเลย มันเร็วมาก ตอนแรกตนยังว่าแซนว่าเล่นอะไรกันหรือเปล่า แซนยังว่าตนกลับมาเลยว่า ก็มันไม่บอก เราเข้าใจกระบวนการตอนนั้นว่ามีผู้ชายอยู่ด้วยใครจะมาประกาศว่าจะฉี่ ติกก็เชื่อในตรงนี้ เราอยู่ในเหตุการณ์ แต่เราไม่เห็นตอนเพื่อนตกลงไป ส่วนคนขับเรือ เขาก็สลับกันขับ ติกไม่ได้สนใจ จากหางตาติกก็เห็นพี่ปอกับโรเบิร์ตยืนอยู่ที่พวงมาลัย"

"ขอโทษทุกคนที่ไม่ได้ออกมาพูด สภาพจิตใจเรายังมัวไปโฟกัสอยู่กับเพื่อน ติก็งงๆ ว่าสรุปแล้วเราจะรู้สึกอะไรดี จะมานั่งฟูมฟายที่เพื่อนเราหายไปมันก็ไม่ได้ (สะอื้น) เพราะทุกคนต้องรอมารุมถามเรา คนอื่นยังมีเวลานะแต่เราไม่มีเวลาตรงนี้เลย คนอื่นเสียเพื่อนไป ยังได้นั่งร้องไห้ คิดถึงเพื่อน แต่ของติกไม่มี ต้องมานั่งเตรียมตัวตอบคำถาม มานั่งรีเช็คว่าตอนนั้นเราอยู่ตรงไหนอะไรยังไง ติกอยากขอความเห็นใจทุกคนด้วยค่ะ เข้าใจความรู้สึกของคนสูญเสียด้วย ติกก็ตอบอะไรไม่ได้มาก เพราะไม่ได้เห็นเขาลงไป หลายคนอาจจะโทษทำไมดูแลเพื่อนไม่ดี ติกเข้าใจ ติกก็โทษตัวเองเหมือนกัน แต่ ณ เวลานั้น เราก็อยากมีเวลาของตัวเองที่จะชมวิวแค่นั้นเอง"

ส่วนที่สังคมตั้งคำถามเกี่ยวกับการรับงานเอนฯ กระติกบอกว่า
"ไม่ใช่โดยสิ้นเชิง ไม่มีการรับงานใดๆ ทั้งสิ้น มันเป็นการไปเที่ยงลงเรือ แบบเพื่อนชวนเพื่อน เพื่อนเป็นเจ้าของเรือ เราก็ไป ติกก็ไม่เข้าใจว่ามันมาได้ยังไงซึ่งรายละเอียดตรงนี้ติกแสดงความบริสุทธิ์ใจกับตำรวจไปหมดแล้ว"

"ไม่มีทางที่จะเกิดประเด็นทะเลาะและผลักตกน้ำ เพราะเรารักเขามาก เขารับลูกเราเป็นลูกบุญธรรม (ร้องไห้) แล้วถ้าโมเสียชีวิตไปพี่ต้องเข้าใจนะว่า เงินติกก็หายไปเหมือนกันนะ งานติกอะไรติกอ่ะ ลูกต้องเข้าโรงเรียนเขาก็ช่วยเหลือมาตลอด ถ้าเกิดเราผลักเขาตกลงไป ติกก็ทุบหม้อข้าวตัวเองนะคะ"

1645954648602-2

ส่วนที่กระติกไม่ได้โทรแจ้งข่าวหาคุณแม่แตงโม เจ้าตัวบอกว่า
"ประเด็นที่1 ติกสนิทกับคุณพ่อมากๆ แต่คุณพ่อจากไปแล้ว เพราะฉะนั้นเราจะหาคนที่สนิทที่สุดก่อน และตั้งใจหาเพื่อนกับเจ้าหน้าที่ แต่แม่ประดาน้ำไม่เป็น แม่ไม่มีอุปกรณ์อะไรใดๆ แล้วเราอยู่กันคนละบ้าน เราไม่ได้สนิทกับแม่มากขนาดที่จะโทรไป คุณแม่เคือง กระติกก็เข้าใจคุณแม่นะ แต่หัวติกคือคุยกับคุณพ่อเลยอ่ะ ถ้าคุณพ่ออยู่คือคุณพ่อต้องมาตรงนั้นเลย คุณพ่อช่วยเราได้ คุณพ่อกว้างขวาง ตอนนั้นเราคิดว่าคุณแม่หลับ จะตื่นมารับยังไม่รู้เลย เอาจริงๆ ไม่ได้คิดถึงด้วยซ้ำ ไม่ได้คิดว่าจะไม่โทรหาด้วยซ้ำ มันไม่มีเลยค่ะว่า เอ๊ะ จะโทรดีไหม หรือไม่โทร มันไม่มีในหัว มันคือศูนย์"

เมื่อถามว่า ใครเป็นคนเขียนชื่อแตงโมให้ตำรวจในวันนั้น แซน เผยว่าเป็นตนเอง
"ก็ไม่ได้ติดตามว่าเขาเปลี่ยนชื่ออะไรยังไง รู้แค่ไหนก็เขียนแค่นั้น ซึ่งแซนก็ไม่รู้เลยว่า เขาพบศพตรงไหน เพราะไม่ได้ตามโซเชียลเลย"

"ตอนนั้นเราก็แจ้งทุกคนที่สามารถช่วยเราได้ 191 และโทรให้เพื่อนบนบกช่วยแจ้ง มีหลักฐานการโทรออกทุกอย่าง คือทำทุกวิถีทางที่ดีที่สุดในเวลานั้น ส่วนที่กู้ภัยบอกว่าไม่มีข้อมูล นี่ก็งงว่ากู้ภัยทำไมบอกไม่มีข้อมูล เขาโทรมาหาเราเกิน 3 รอบ เรามีหลักฐานนะคะไม่ได้พูดลอยๆ กู้ภัยไปไหนคะกว่าจะมาถึงใช้เวลานานมากค่ะ"

นอกจากนี้ยังย้อนถามถึงเหตุการณ์ที่แตงโมตกเรือว่า ตนนอนเล่นมือถืออยู่ เรือไม่ได้ขับเร็วเพราะนอนเล่นมือถือได้ โฟกัสกับมือถืออยู่ ตอนที่โมกำลังลุกเหมือนเสียหลักและตกลงไป ก็ตะโกนบอกแตงโมตกน้ำ ค่อนข้างดังแบบกรี๊ด แล้วรีบกลับเรือมาช่วยกัน

ด้าน กระติก เล่าเสริมต่อว่า ตอนนั้น "ก็ถามว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ไม่ได้ถามไรมากมาย เพราะมันเสียเวลา เราก็ไปวุ่นกับการหาคนมากกว่า เรื่องการจับขาฉี่อะไรนี่เรามาถามกันทีหลัง ส่วนตัวติกไม่รู้ว่ามีห้องน้ำในเรือ ดังนั้นถึงเคลียร์ตัวเองว่าต้องเข้าห้องน้ำตั้งแต่ที่ร้านอาหาร เรื่องที่ไม่ได้ใส่ชูชีพ มันเป็นอุปสวรรค เพราะเราก็ใส่เสื้อคลุม เวลาถ่ายรูปยังต้องถอดเข้าถอดออก เราก็เลยไม่ได้ใส่ เพราะเราก็อยากถ่ายรูปสวยๆ เราไม่ได้เล่นบานาน่าโบ๊ท"

สำหรับเรื่องไอจีแตงโมที่โดนลบรูป ถามกระติกว่า รู้รหัสล็อกอิน หรือไม่ เจ้าตัวเผยว่า
"
ไม่เคยรู้ค่ะ ไม่ได้อยากรู้ด้วยซ้ำ โมเขาค่อนข้างหวงนะ เกี่ยวกับรูป ของใครของมัน เราเกี่ยวข้องกันเป็นเพื่อนและเรื่องงาน อะไรที่เป็นเรื่องส่วนตัวเราไม่แตะต้องเลยนะ เขาไม่รู้เรื่องของเรา เราไม่รู้เรื่องของเขา ทุกครั้งที่จะถ่ายรูปแล้วหน้าจอล็อคแม้เขาจะบอกเรา แต่พอเรากดแล้วก็ออกไปจากหัวเราแล้วค่ะ เราไม่ได้สนใจของของคนอื่น เพราะมันเป็นของเพื่อนเรา เอาไปคืนให้แม่บ้านแล้วก็จบ"

ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเสริมว่า เรื่องโทรศัพท์ให้ ปอท. เก็บรักษา และข้อมูลไม่ไปไหนพิสูจน์ได้ด้วยวิทยาศาสตร์

เมื่อถามย้อนกลับไปเรื่องที่กู้ภัยยืนยันว่าไปถึงแล้ว เป็นทางเพื่อนเองที่ไม่ให้ข้อมูลจุดตกที่ชัดเจน กระติก ชี้แจงว่า
"มันเป็นการเสียเวลาที่มาให้ข้อมูล เพราะอุปกรณ์เขาไม่มี แล้วเราก็ชี้จุดแล้ว ในความคิดเราคือ คุณยังไม่จำเป็นต้องรู้ว่าเขาคือใคร ชีวิตคนจมน้ำมันสำคัญกว่า คุณช่วยเขามาก่อนแล้วค่อยไปถามว่าเขาเป็นใคร เรามีเรือ เราก็ออกไปหา ตะโกนกันสุดเสียง เราเห็นมีคนมาออกัน เราไม่เห็นเรือ ไม่เห็นเครื่องมือ เราก็ถามปอเราต้องเข้าไหม ปอก็บอกเข้าอะไร เราต้องช่วย เขาก็ด่าเรากลับมา เราก็เออว่ะ เขามีเครื่องมือช่วยได้เหรอ เราก็หาตะโกนกันสุดเสียง"

สำหรับประเด็นที่โซเชียลวิจารณ์กลุ่มเพื่อนในเรือหายตัวไปหลังเกิดเหตุ ขณะที่มีทีมกู้ภัยมาช่วยหาแตงโมยันเช้า กระติก เล่าว่า
ตนปวดท้องเข้าห้องน้ำ จึงลงจากเรือไปกับโรเบิร์ตที่ไปช่วยเฝ้าเป็นเพื่อนเพราะตนเป็นผู้หญิง หลังจากนั้น ตนโทรหาเพื่อนคนอื่นให้มาช่วย และตนต้องรอข้าวข้าวต่างๆ ที่อยู่บนเรือ กว่าจะได้ของเรียบร้อยก็กลับไปที่อู่เรือ จุดที่กู้ภัยตามหาแตงโม โดยตนอยู่ถึงตี3-ตี4 ตนก็คิดถึงลูก จึงกลับบ้านแตงโม โดยรถแตงโม ไปถึงก็อาบน้ำแล้วก็ผ่านอีกวัน ตนไม่ได้คิดเรื่องการเข้ามาให้ปากคำ ใจเราคิดเผื่อเพื่อนจะกลับบ้าน เผื่อติดเรือใครไป แล้วกลับมาบ้าน พอถัดมาอีกวัน ประเด็นสังคมมันเยอะ เรารู้สึกต้องปรึกษาใครสักคน เลยทำให้มันช้า กระติกต้องตั้งสติ จึงไม่ได้ไปอ่านข้อความในโซเชียล

ส่วนกรณีที่คุณแม่ให้สัมภาษณ์ มีเพื่อนของแตงโมพยายามเรียกคุณแม่ไปและบอกให้แม่ปิดข่าว กระติกยืนยันว่า
"ต้องถามคุณแม่แล้วให้คุณแม่ชี้ตัวเลยค่ะ ตั้งแต่เกิดเรื่องติกเพิ่งคุยกับคุณแม่เมื่อวาน ตอนที่พบโมแล้ว ถามคุณแม่ได้เลย"

417523

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- โซเชียลจวกวลีเบสท์เฟรนด์แห่งปี แตงโม เสียชีวิต กระติก เสียรายได้
- การตาย แตงโม มีเงื่อนงำ!? ทนายนิด้า ตั้งข้อสงสัยคนบนเรือปกปิดความจริง
- ทุกความทรงจำชัดเจน เบิร์ด แฟนแตงโม สุดอาลัย โพสต์ภาพและคลิปแท็กถึงที่รัก

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวบันเทิง เป็นกระแส