ประธานาธิบดี ยูเครน ยืนยันไม่หนี แม้เป็นเป้าหมายอันดับ 1 ของ รัสเซีย

25 ก.พ. 65

ประธานาธิบดี ยูเครน ยืนยันไม่หนี แม้เป็นเป้าหมายอันดับ 1 ของ รัสเซีย พ้อถูกทิ้งให้สู้ลำพังไม่มีใครช่วยเหลือ 

วันที่ 24 ก.พ.ประธานาธิบดี โวโลดีมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ออกมายืนยันว่า ตนเองและครอบครัวยังคงอยู่ในกรุงเคียฟ เมืองหลวงของประเทศ และยอมรับว่าตนเองจะไม่หลบหนี ถึงแม้จะตกเป็นเป้าหมายอันดับ 1 และครอบครัวของเขาเป็นเป้าหมายอันดับ 2 ในปฏิบัติการทางทหารของรัสเซีย และยืนยันว่า ตนเอง ไม่กลัวที่จะ "เปิดการเจรจา" เพื่อยุติการรุกรานของรัสเซีย

เซเลนสกี วัย 44 ปี เผยว่า เขาได้ขอความช่วยเหลือไปยังประเทศพันธมิตรและหุ้นส่วนในโลกตะวันตกแล้ว ซึ่งรวมถึงการติดต่อกับผู้นำของ 27 ชาติในยุโรป แต่ ไม่มีประเทศใดที่จะยื่นมาเข้ามาช่วยเหลือยูเครนอย่างจริงจัง มีเพียงการตอบรับตามมารยาททางการทูตเท่านั้นว่า "ประเทศของเราจะอยู่เคียงข้างยูเครน"

"วันนี้ผมได้ถามผู้นำ 27 ชาติในยุโรปว่า ยูเครนจะได้เข้าร่วมนาโตหรือไม่ ผมถามไปตรงๆ ทุกคนกลัว ไม่มีใครตอบคำถามผม แต่พวกเราไม่กลัว เราไม่กลัวสิ่งใด เราไม่กลัวที่จะปกป้องประเทศของเรา เราไม่กลัวรัสเซีย เราไม่กลัวที่จะเจรจากับรัสเซีย เราไม่กลัวที่จะเจรจาในเรื่องใดก็ตามที่เกี่ยวกับการประกันความปลอดภัยของประเทศ เราไม่กลัวที่จะพูดคุยเรื่องความเป็นกลาง ตอนนี้เราไม่ใช่สมาชิกนาโต้ แต่อะไรที่จะเป็นเครื่องยืนยันว่าเราจะได้เข้าร่วม และที่สำคัญที่สุดคือประเทศใดที่จะให้ความมั่นใจกับเราในเรื่องนี้ได้"

ประธานาธิบดีเซเลนสกี ได้กล่าวว่า ประเทศของเขาถูกโดดเดี่ยวแล้ว และเขาไม่กลัวที่จะเปิดการเจรจากับรัสเซียเพื่อยุติการรุกรานครั้งนี้ แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องการให้รัสเซีย รับประกันความปลอดภัยของประเทศยูเครนและประชาชนชาวยูเครนด้วย

ทั้งนี้มีรายงานซึ่งอ้างแหล่งข่าวทางการทูตในกรุงมอสโกของรัสเซียที่ระบุว่า รัฐบาลรัสเซียภายใต้การนำของประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ก็พร้อมเจรจากับยูเครน แต่ยูเครนต้องยอมรับ "เงื่อนไขเบื้องต้น" 3 ประการ คือ

1.จากนี้ไปยูเครนต้องวางจุดยืนของตน ให้เป็นประเทศที่เป็นกลาง
2.ยูเครนต้องล้มเลิกความตั้งใจที่จะเข้าเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ซึ่งเป็นองค์กรทางทหารที่นำโดยสหรัฐอเมริกาและชาติในยุโรปตะวันตก และถือเป็นภัยคุกคามต่อรัสเซีย
3.ยูเครน ต้องไม่ยอมให้สหรัฐอเมริกา หรือชาติสมาชิกนาโต้ชาติใดชาติหนึ่ง นำเอาระบบอาวุธหรือขีปนาวุธเพื่อการโจมตี มาติดตั้งในดินแดนของยูเครน

ทั้งนี้ ดมิตรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซีย ออกมาเปิดเผยว่า หากรัฐบาลยูเครน ยอมรับเงื่อนไขเบื้องต้นทั้งหมดนี้ ก็มีความเป็นไปได้ ที่รัสเซียจะยอมเจรจา เพื่อยุติปฏิบัติการทางทหารในยูเครน 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ยูเครน ประกาศตัดสัมพันธ์การทูต รัสเซีย แจกอาวุธประชาชน ร่วมปกป้องประเทศ
เปิดที่มา สงครามรัสเซีย ยูเครน ที่อาจเป็นชนวนร้อนไปทั่วโลก
สงครามรัสเซีย ยูเครน ไบเดน สั่งคว่ำบาตรรัสเซียชุดแรก ชี้ ปูติน ไร้สาเหตุและไร้เหตุผล

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม