หมอปลารุดช่วยเณรเหยื่อกามหลวงพี่ ลั่นถึงกองปราบแน่ พระหนุ่มขอทำใจก่อนแจง (คลิป)

กรณีหนุ่มรายหนึ่งซึ่งเคยบวชเป็นสามเณร สังกัดวัดในพื้นที่ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ออกมาแฉนำภาพและคลิปวิดีโอของพระกำลังตั้งวงดื่มสุรากันกลางดึกเพื่อฉลองวันเกิดภายในกุฏิ และดื่มยอมใจหลังถูกสามเณรคู่ขาบอกเลิก นอกจากนี้ ยังมีคลิปพระกับเณรมีเพศสัมพันธ์กันด้วย ทำให้กลายเป็นเรื่องที่ถูกวิจารณ์ เพราะเป็นการกระทำผิดหลักพระพุทธศาสนา

กระทั่งวันที่ 23 ก.พ.65 นายศุภมิตร เปาริก รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี และพระครูสารกิจโกศล เจ้าคณะอำเภอเมืองอุบลราชธานี พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เดินทางเข้าพบพระครูประโชติ กิตติคุณ เจ้าอาวาสวัดนิคมกิตติยาราม เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ก่อนจะมีมติให้สามเณร จำนวน 4 รูป ที่ยังอยู่ภายวัดสึก ส่วนพระท็อป และพระแมน หลังตกเป็นข่าวยังคงหลบหนีไม่ยอมกลับเข้ามาที่วัด แต่ก็จะต้องถูกจับสึกด้วยเช่นกัน

ล่าสุดวันที่ 24 ก.พ.65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังวัดนิคมกิตติยาราม บ้านนิคมพัฒนา หมู่ที่ 18 ต.ไร่น้อย อ.เมือง จ.อุบลราชธานี อีกครั้ง พบว่าอดีตสามเณร จำนวน 4 รูปที่ถูกจับสึกไปเมื่อวานนี้ ยังคงอยู่ภายในวัด เนื่องจากมีคำสั่งจากรองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี และพระครูสารกิจโกศล เจ้าคณะอำเภอเมืองอุบลราชธานี ให้สามเณรทั้งหมดกักตัวเป็นระยะเวลา 10 วัน หลังตรวจพบเชื้อโควิด-19

จากการสังเกต เจ้าหน้าที่ได้ล้อมรั้วด้วยเชือกรอบ ๆ กุฏิเพื่อกันเป็นแนว โดยสั่งให้สามเณร จำนวน 4 รูปที่ถูกจับสึกอยู่ภายในกุฏิหลังด้วยกัน เมื่อครบกำหนด 10 วันและตรวจไม่พบเชื้อโควิด-19 ก็จะปล่อยให้เดินทางกลับบ้านตามภูมิลำเนาของแต่ละบุคคลต่อไป

ทั้งนี้ นายเบล หรือ อดีตเณรเบล ที่เป็นผู้ออกมาแฉเรื่องทั้งหมด ได้เดินทางไปขอความช่วยเหลือกับหมอปลา มือปราบสัมภเวสี ที่จังหวัดนครราชสีมา เนื่องจากไม่รู้จะพึ่งพาใคร เพราะขณะนี้ถูกเณรด้วยกันข่มขู่ว่า จะตามสืบว่าใครเป็นคนปล่อยข่าว หากรู้ตัวจะเอาปืนมายิง ขณะนี้จึงกลัวความไม่ปลอดภัยมาก ๆ อย่างไรก็ตาม หมอปลาและทนายไพศาล จึงเดินทางไปรับให้มาอยู่ที่บ้านของหมอปลา จังหวัดเพชรบุรีก่อนชั่วคราวเพื่อความปลอดภัย

ทนายไพศาล กล่าวว่า อดีตเณรคนนี้จะถูกกันตัวเป็นผู้เสียหายที่ถูกพระไม่ดีข่มขื่นและทำร้าย เรื่องนี้ตนตั้งใจจะช่วยเหลืออยู่แล้ว และตนไม่เห็นด้วยที่ทางวัด หรือผู้นำชุมชนจะเอาผิดกับอดีตเณรเบลที่ออกมาเปิดโปงเรื่องทั้งหมด หลังจากนี้ตนจะพาน้องไปแจ้งความที่กองบังคับการปราบปราม กรุงเทพ ในวันที่ 28 ก.พ.65 เพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำผิดต่อไป

ทีมข่าวได้พูดคุยกับ พระครูประโชติ กิตติคุณ เจ้าอาวาสวัดนิคมกิตติยาราม เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (23 ก.พ.65) รองผู้ว่าราชการ และพระครูสารกิจโกศล พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก็ได้เดินทางเข้าพบอาตมา เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง อาตมาจึงให้สามเณร จำนวน 4 รูป ที่ยังอยู่ภายวัดสึก ประกอบด้วย นายธันวา, นายธัญญา, นายอภิสิทธิ และนายรุ่งโรจน์ ซึ่งจากที่อาตมาได้รับข่าวมา ทราบว่าพระท๊อป ได้ประสานเข้ามาพูดคยแล้ว จะเดินทางกลับมาที่วัด เพื่อเคลียร์ปัญหาที่เกิดขึ้นให้จบ

แต่ทั้งนี้อาตมายังไม่รู้จะเข้ามาวันไหน อาตมายืนยันว่าเมื่อไรที่เข้ามาถึงวัด ก็จะจับสึกขาดจากการเป็นพระให้แล้วเสร็จ ส่วนลำดับต่อไปหากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการอย่างไร ก็แล้วแต่ความเหมาะสม อาตมาในฐานะเป็นเจ้าอาวาสวัด ก็อยากฝากถึงชาวบ้านเกิดความสบายใจและไม่ต้องมีความกังวล เนื่องจากวัดไม่ได้นิ่งเฉย หากผิดก็ต้องว่าไปตามขั้นตอน

พระอาจารย์ สุรศักดิ์ ฐาวโร ให้สัมภาษณ์ว่า ในฐานะพระลูกวัดก็รู้สึกเป็นห่วงและทุกข์ใจแทนเจ้าอาวาส เนื่องจากที่ผ่านมา เจ้าอาวาสก็คอย ๆ บ่มสอนให้พระภายในวัดปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ แต่กรณีที่เกิดขึ้นกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ซึ่งอาตมาก็อยากจะให้มองว่าเป็นพฤติกรรมสวนบุคคล แตกคอกันเองในวงเหล้า แล้วก็ออกมาแฉกันและกันจนกลายเป็นประเด็นหรือไม่ อาตมาจึงรู้สึกว่าไม่ถูกต้อง เพราะเป็นการกระทำที่ทำให้ศาสนาเสื่อมเสีย รวมไปถึงให้ประชาชนมองพระบางรูปที่ปฏิบัติดีดูแย่ไปด้วย

ทั้งนี้ อาตมาอยากให้คนในสังคมที่เสพข่าวให้พื้นที่กับทางวัดด้วย และอยากให้มองพระในมุมมองที่ดีบ้าง เพราะพระที่ปฏิบัติดีก็มีอยูมาก และสื่อมวลชนก็อย่าเสนอข่าวไปในทิศทางที่แย่ เพราะพระหรือสามเณรรูปใดที่กระทำความผิด วัดก็มีการดำเนินการอย่างเด็ดขาดและจับสึกเป็นที่เรียบร้อย