กรณีนายธนภัทร สงวนเขียว หรือ ธน อายุ 28 ปี ถูกออกหมายจับในคดีจงใจทำร้ายร่างกาย จนเป็นเหตุให้นางสาวสุกัญญาบิล หมัดอาด หรือ เมย์ ภรรยา อายุ 28 ปี เสียชีวิตนั้น (อ่าน :
แม่ “ธน” ชายทืบเมียตาย เทพประทับร่าง อ้างไม่ใช่เนื้อคู่ – แม่ “เมย์” แฉกลับ เคยรอดหินทุบถ่วงน้ำ)
วันที่ 12 ม.ค. 62 ทีมข่าวเดินทางลงพื้นที่พร้อมกับ
นางทองหลาง ลำพองชาติ อายุ 60 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต โดยอุ้มลูกของนางสาวเมย์ติดตามไปด้วย เข้าไปในสวนยางหลังรีสอร์ต ในตำบลคลองขุด จังหวัดสตูล เพื่อต้องการไปบอกกล่าวดวงวิญญาณของลูกให้กลับบ้าน อีกทั้งต้องการเห็นจุดที่ลูกสาวตาย
โดย
นางทองหลาง กล่าวว่า จากริมถนนต้องเดินเท้าเข้าไปประมาณ 300 เมตร จะเจอบ่อปลาขนาดใหญ่ 1 บ่อ ที่ปล่อยทิ้งร้างเอาไว้กลางสวน บ่อน้ำข้างบ้านร้างอีก 1 บ่อ ซึ่งเคยเป็นจุดเกิดเหตุที่นางสาวเมย์ ถูกจับโยนลงไปเมื่อปีก่อน อีกทั้งตลอดทางเดิน ก็จะพบกับหญ้าคารกสูง
เมื่อเดินเข้าไปได้ยะยะทางประมาณ 250 เมตร เจอบ่อปลาขนาดใหญ่คล้ายสระน้ำ ลักษณะทิ้งร้าง น้ำแห้งลงเล็กน้อย มีสาหร่ายกลางน้ำ ริมของบ่อมีหญ้าสูงปกคลุม
นางทองหลาง ชี้จุดที่ลูกสาวโดนนายธนภัทรทำร้าย และวันก่อนตาย ก็ถูกลากมาทำร้าย แต่ไม่พบร่องรอยสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด แต่พบว่ามีบ้านของประชาชนอยู่ระยะห่างประมาณ 400 เมตร
นางทองหลาง ลำพองชาติ แม่ของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า วันนี้ตนมาเชิญดวงวิญญาณของลูกสาวกลับบ้าน และอยากให้ดวงวิญญาณของลูกดลใจให้เจอสิ่งผิดปกติที่จะเป็นหลักฐาน และที่สามีของตัวเองไม่ออกมาให้สัมภาษณ์นั้น ยอมรับเป็นเพราะว่าเสียใจอย่างมาก และยังทำใจไม่ได้ ส่วนหลานชาย ตนเองก็จะทำหน้าที่ในการดูแลเลี้ยงดูต่อไป เนื่องจากฝ่ายญาติของนายธนภัทร ในฐานะพ่อ ไม่สามารถเลี้ยงดูได้
ส่วนกรณีที่นายธนภัทร ได้ติดต่อผ่านทางแม่ว่าจะเข้ามอบตัวในวันพรุ่งนี้ (14 ม.ค. 62) ส่วนตัวรู้สึกพอใจ แต่ตนก็ไม่รู้ว่ามีการดำเนินคดีรุนแรงแค่ไหน เนื่องจากลูกสาวก็เสียชีวิตไปแล้ว ดังนั้นก็ควรให้เป็นไปตามกระบวนการของตำรวจ แต่หากมีการขอขมา ตนก็จะไม่ปิดกั้น แต่จะไม่มีการอโหสิกรรมให้ เพราะเคยให้อภัยมาหลายครั้งแล้ว ทั้งนี้ ยอมรับว่าครอบครัวยังอยู่ในความกลัว วิตกว่านายธนภัทรจะทำร้ายคนในครอบครัว ตามที่เคยขู่ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะมาฆ่ายกครัว และยังกลัวว่านายธนภัทรจะแอบมาชิงเอาลูกชายไป และทำร้ายหลายชายของตน
อย่างไรก็ตาม ในระหว่างที่ทีมข่าวพูดคุยกับนางทองหลาง ช่วงที่มีการลงพื้นที่ มีสายโทรศัพท์โทรเข้ามา คือนางจู แม่ของผู้ก่อเหตุ และพยายามบอกกับนางทองหลางว่าให้เลิกสัมภาษณ์กับนักข่าว ไม่ต้องให้ข้อมูลอะไรอีกแล้ว ซึ่งมีลักษณะท่าทีคล้ายกับปิดกั้นไม่ให้มีการให้ข้อมูลกับทีมข่าว
ขณะที่
นายเสือ (นามสมมติ) คนสุดท้ายที่เห็นนายธนภัทรกับนางสาวเมย์ทะเลาะกัน เปิดใจว่า วันเกิดเหตุ ตนขับรถผ่านบริเวณด้านข้างรีสอร์ต เวลา 18.20 น. ขณะนั้นเจอนายธนภัทรกับนางสาวเมย์ ขับรถจักรยานยนต์สีแดง มุ่งหน้าเข้าไปภายในสวนยาง พร้อมทั้งมีปากเสียงกันอยู่ จนกระทั่งรถล้มลงตรงทางเข้าสวน ประมาณ 500 เมตร จังหวะนั้น ตนเองนึกในใจว่าจะเข้าไปช่วย แต่มีธุระต้องรีบเดินทางต่อ จึงไม่ได้ชะลอรถช่วยเหลือ และคิดว่าเป็นการทะเลาะของสามีภรรยาตามปกติ
จากนั้นเมื่อตนเองทำธุระเสร็จในเวลา 19.40 น. ขับรถผ่านมาบริเวณจุดดังกล่าว พบว่ารถตำรวจจอดเต็มไปหมด ซึ่งตำรวจสอบถามตนว่ารู้จักญาติของผู้ตายหรือไม่ ขณะนั้นมีนางจู แม่ของนายธนภัทร เข้ามาถามกับตัวเองว่ารู้เห็นเหตุการณ์อะไรหรือไม่ ซึ่งตนเองก็ตอบไปตามตรง และตำรวจให้ตนเองเข้าไปในพื้นที่เกิดเหตุพร้อมกับเจ้าหน้าที่ก็พบว่ามีร่องรอยลักษณะหญ้าเหมือนมีคนต่อสู้กัน แต่ก็ไม่พบรอยเลือดหรืออาวุธแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม ตนเองพบเห็นนางสาวเมย์เป็นคนสุดท้าย ซึ่งยอมรับว่าเสียใจ ที่ไม่ได้ตัดสินใจเข้าไปช่วยเหลือ แต่หากตนเองตัดสินใจเข้าไปช่วยในวันนั้น ก็คงจะไม่ใช่เพียงแค่ศพเดียว อาจจะเป็นตนเองก็ได้ที่เสียชีวิตไปด้วยอีกคน เพราะลักษณะของคนก่อเหตุคล้ายกับคนเมายา น่ากลัว อีกทั้งไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องที่มีคนตายเกิดขึ้น
ทีมข่าวเดินทางย้อนกลับไปที่บ้านของนายธนภัทร คนก่อเหตุ โดย
นางจู (นามสมมติ) แม่ของผู้ก่อเหตุ แต่งกายชุดขาว กำลังขึ้นรถจักรยานยนต์พ่วง พร้อมกับปิ่นโต และบอกกับทีมข่าวว่าจะเดินทางไปทำบุญที่วัด และจะมีการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับนางสาวเมย์