กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก @Natthanan Maprayeun โพสต์ภาพหน้าโลงศพ เเละภาพหมายจับศาลจังหวัดนครสวรรค์ พร้อมกับระบุข้อความว่า "ตามหาบุคคลในภาพค่ะ ใครพบเห็นแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เลยค่ะ ซึ่งบุคคลในภาพได้ทำร้ายร่างกายแฟนตัวเองจนถึงแก่ความตาย แล้วได้ทำการหลบหนีอยู่ สงสารเพื่อนหนูด้วยค่ะ ลูกกำลังเล็กอยู่ไม่น่าทำกันถึงขนาดนี้ รบกวนเพื่อน ๆ ช่วยแชร์ด้วยนะคะ ใครพบเห็นส่งเบาะแสให้ตำรวจได้เลยค่ะ"
ทั้งนี้ เบื้องต้นทราบข้อมูลว่า ผู้ก่อเหตุคือ นายสุรชัย บุญประสงค์ หรือ ตุ้ม ชาวต.นครสวรรค์ตก อ.เมืองนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์ ลงมือทำร้ายร่างกายภรรยาจนเสียชีวิต เเละถูกแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ส่วนผู้เสียชีวิต ทราบชื่อ น.ส.ณัฐธิดา พิลึก หรือ มิ้ม อายุ 30 ปี เสียชีวิตในวันที่ 27 ม.ค.65 ญาติ ๆ จึงช่วยกันจัดงานศพที่วัดหนองรักสามัคคีธรรม จ.อุทัยธานี
ล่าสุดวันที่ 30 ม.ค.65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี สอบถามไปยัง ร.ต.อ.พรไพรสนธ์ กลัดเฟื่อง รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองนครสวรรค์ ทราบว่าขณะนี้นายสุรชัย ได้ติดต่อเข้ามาตั้งเเต่เมื่อวาน (29 ม.ค.65) ว่าจะเข้ามอบตัว เเต่จะเป็นการขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปรับ โดยที่ยังไม่ได้ระบุวันเเละเวลาใด ทั้งนี้ นายสุรชัย มีหมายจับศาลจังหวัดนครสวรรค์ ในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุถึงแก่ความตาย
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมาที่วัดหนองรักสามัคคีธรรม ตำบลไผ่เขียว อำเภอสว่างอารมณ์ จังหวัดอุทัยธานี เวลา 15.00 น. มีกำหนดฌาปนกิจศพ นางสาวณัฐธิดา พิลึก หรือ มิ้ม อายุ 30 ปี ทีมข่าวได้พบกับนายอนัน พิลึก อายุ 58 ปี พ่อผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ขณะนี้คดีก็คืบหน้าเล็กน้อยเท่านั้น เเละยังจับตัวคนทำร้ายลูกสาวของตนไม่ได้ ตนก็ไม่มีเบาะแสอะไรเลย เพราะอยู่กันคนละที่กัน ตนยอมรับว่ากับลูกเขยคนนี้ ตนเเทบจะไม่รู้จักนิสัยใจคอ เคยมาที่บ้านเเค่ครั้งเดียวเท่านั้น มาช่วงเเรก ๆ ก็พูดจาดี ตนเคยพูดคุยด้วยเเค่ไม่กี่คำเท่านั้น
ทั้งนี้ ตั้งเเต่เกิดเหตุครอบครัวฝั่งนายตุ้ม ก็ยังไม่ได้ติดต่อจะเยียวยารับผิดชอบใด ๆ ทั้งสิ้น และยังไม่เคยมาไหว้ศพจนวันนี้ก็ยังไม่เห็นว่าจะมา ส่วนนายตุ้มตอนนี้ตนก็ไม่ทราบว่าไปอยู่ที่ไหน เเต่ก็อยากจะให้เขามอบตัว เเละขอให้ตำรวจดำเนินการให้ถึงที่สุด เพราะการกระทำของเขาเกินกว่าเหตุ ลูกสาวตนผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ยังทำได้ถึงขนาดนี้ เเล้วกับคนอื่นจะเป็นอย่างไร
"วันนี้วันสุดท้ายเเล้วที่ผมจะได้อยู่กับลูกสาว ก็เสียใจมาก ๆ เสียใจมากที่สุด เพราะลูกสาวถือว่าเป็นเสาหลักของครอบครัว ผมจุดธูปบอกลูกสาวทุกวันให้จับคนร้ายให้ได้ ผมเคยเตือนลูกสาวเเล้วว่าอย่าคบกับผู้ชายคนนี้ เพราะว่า ท่าทางเขาดูเป็นคนไม่ดี เเละเคยมีเพื่อนลูกสาวที่ชื่อน้ำฝน บอกว่ามิ้มเคยถูกนายตุ้มทำร้ายร่างกายด้วย" พ่อผู้เสียชีวิต กล่าว
หลังจากนั้น ทีมข่าวได้เดินทางมาที่บ้านพักหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 10 ต.นครสวรรค์ตก อ.เมืองนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์ ซึ่งเป็นบ้านของนายสุรชัย เเละเป็นบ้านที่เกิดเหตุที่นางสาวณัฐธิดา หรือ มิ้ม ซึ่งถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต
นางบุญธรรม บุญประสงค์ อายุ 90 ปี ย่าของนายสุรชัย เปิดเผยว่า ตนเลี้ยงดูนายสุรชัย หรือ ตุ้ม ผู้เป็นหลานชาย มาตั้งเเต่เล็ก ๆ ปกตินิสัยใจคอเขาก็นิสัยดี รักลูกรักเมียดี ส่วนน.ส.มิ้ม หลานสะใภ้ก็นิสัยดี ถึงเเม้จะอยู่ที่บ้านนี้ได้ไม่นาน เเต่ตนไม่เคยเห็นว่าเขามีปัญหาอะไรกันมาก่อน เมื่อช่วงปีใหม่ตนก็ยังอวยพรว่า “ขึ้นปีใหม่เเล้วขอให้รักกันนาน ๆ” ตนไม่เคยรังเกียจหลานสะใภ้
โดยทั้งหลานชายเเละหลานสะใภ้ต่างคนต่างทำงานทั้งคู่ เวลานายตุ้ม กลับมาบ้านก่อน ก็มักจะทำกับข้าวให้ฝ่ายหญิงกินเสมอ ไม่เคยเห็นว่าเขาทะเลาะกัน ส่วนใหญ่จะทีเล่นทีจริง ส่วนเรื่องปมชู้สาวหรือหึงหวงและเรื่องมือที่สาม ตนก็ไม่เคยทราบมาก่อน ในวันที่เกิดเหตุ ตนยอมรับว่าได้ยินเสียงทั้ง 2 คนทะเลาะกัน แต่ตนไม่รู้จริง ๆ ว่าทะเลาะดันเรื่องอะไร เตนยังบอกหลานชายอยู่เลยว่า “อย่าทะเลาะ อย่าเถียงกันเลย ปีใหม่เเล้ว” ไม่นานเสียงก็เงียบไป ตนจึงได้เข้ามาในห้องนอนตามปกติ เเละไม่ได้ยินเสียงทำร้ายร่างกายหรือเสียงร้องใด ๆ
กระทั่งรถพยาบาล และรถตำรวจมาที่บ้าน ตนก็ยังไม่รู้เรื่องนอนหลับสนิทมาก ๆ เเละหูของตนไม่ดีอยู่เเล้วด้วย ก่อนหน้าที่หลายชายจะหนีไป นายตุ้มร้องไห้ไม่หยุดตั้งเเต่นางสาวมิ้ม ถูกหามส่งโรงพยาบาล พร้อมกับพูดขอโทษเเม่ยาย “เเม่ ๆ ผมขอโทษนะเเม่นะ ผมขอโทษ” ตนได้เเต่นั่งฟังเเต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ตนพยายามปลอบใจหลานชายให้ยอมรับ เพราะได้ทำผิดไปแล้ว สักพักนายตุ้ม ก็ขอไปทำใจ สงบสติอารมณ์ จนตอนนี้ตนก็ไม่ทราบว่าหลานชายไปอยู่ที่ไหน เเต่ตนอยากฝากบอกว่า “ลูกเอ้ย เป็นคดีไปแล้ว ยังไงก็หนีไม่พ้น ให้มามอบตัวเถอะ”
"วันนี้ที่วัดหนองรักที่จะเผาร่างของน.ส.มิ้ม ย่าอยากจะฝากขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิตจากใจ เพราะไปเองก็คงจะไปไม่ไหว เงินทองที่ช่วยเหลือก็ไม่มีจริง ๆ มีเงินเเค่พอกินไปวัน ๆ เท่านั้น ไม่รู้จะทำอย่างไรจริง ๆ ขอโทษด้วย ย่าเหมือนอยู่ตัวคนเดียว มีผัวมีลูกก็มีชิงตายด่วนจากไปก่อนจนเกือบหมด ย่าเป็นคนทำศพให้ทุกคน เเต่หลังจากนี้จะหวังพึ่งใครไม่ได้เลย กลัวว่าถ้าตายไปจะไม่มีใครเผาเเล้ว" นางบุญธรรม กล่าว
ทีมข่าวได้ลองเข้าไปดูเฟซบุ๊กของนางสาวณัฐธิดา หรือ มิ้ม ผู้เสียชีวิต พบว่าเมื่อวันที่ 24 ธ.ค.64 ได้โพสต์รูปคู่กับนายตุ้ม พร้อมกับระบุข้อความว่า “เคาท์ดาวน์จะมีเเค่สิ้นปี เเต่หนูรักพี่นะคนดี จะมีตลอดไป รักมากแหละ เปิดตัวเลยเเล้วกัน”
จากนั้นวันที่ 1 ม.ค.65 ผู้เสียชีวิต โพสต์ภาพคู่กับนายตุ้ม พร้อมกับระบุข้อความว่า “สวัสดีปีใหม่ 2565 ขอบคุณเวลาดี ๆ 3 ปีที่อยู่ด้วยกันมา ผ่านทุกข์ผ่านสุขมาด้วยกัน มีทั้งเรื่องราวดี ๆ เเละไม่ดี อยู่ด้วยกันแบบนี้ไปนาน ๆ นะ รักมากแหละ”
นอกจากนี้เมื่อ 6 วันที่เเล้ว ในวันที่ 23 ม.ค.65 ก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายยังได้โพสต์ภาพสุขสันต์วันเกิดลูกชาย ระบุข้อความว่า “สุขสันต์วันเกิดนะครับ เด็กอ้วนของเเม่ 6 ขวบเเล้วมีความสุขมาก ๆ ตั้งใจเรียน เรียนเก่ง ๆ เป็นเด็กดีของเเม่ ตายายเเละเป็นที่รักของทุกคน ขอบคุณฟ้าที่ส่งเทวดาตัวน้อยมาให้เเม่”
