ตร.ยังไม่ตั้งข้อหา เก๋งเปลี่ยนเลนกะทันหัน เฉี่ยวรถสูบส้วมพลิกคว่ำฟาดเสาไฟ คนขับเสียชีวิต

25 ม.ค. 65

ตำรวจยังไม่ตั้งข้อกล่าวหา คนขับรถยนต์เก๋งเปลี่ยนเลนกะทันหัน เฉี่ยวชนรถสูบส้วมเสียหลักพลิกคว่ำฟาดเสาไฟดับ ล่าสุดคนขับเสียชีวิตแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.เตชินท์ ดีทองอ่อน สารวัตร (สอบสวน) สภ.ฉลอง ได้รับแจ้งเหตุรถเฉี่ยวชนกันที่บริเวณหน้าสถานีบริการน้ำมันเชลล์ถนนวิเศษ ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต เมื่อเวลาประมาณ 11.30 น.จึงได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ และทำการบันทึกรายงานประจำวัน

1643104781250

ที่เกิดเหตุพบรถยนต์บรรทุก (สูบสิ่งปฏิกูล) ยี่ห้ออีซูซุสีขาว ป้ายทะเบียน 81-1420 ภูเก็ต ซึ่งมีนายนิกร ธุระพล อายุ 31 ปี เป็นผู้ขับขี่ได้รับบาดเจ็บสาหัสในที่เกิดเหตุก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา และรถคู่กรณีเป็นรถยนต์โตโยต้าวีออสสีขาว ป้ายทะเบียน ขก 1553 ภูเก็ต ซึ่งมีนายรุ่งเรือง จำปาทอง อายุ 50 ปี เป็นผู้ขับขี่ได้รับบาดเจ็บ

1643104628536

ก่อนเกิดเหตุในเวลาประมาณ 11.30 น.นั้น รถทั้ง 2 คัน ได้วิ่งมาจากห้าแยกฉลองมุ่งหน้าไปเขตพื้นที่ตำบลราไวย์ ในลักษณะขับตามกันมาคนละช่องทางการเดินรถ ต่อมารถยนต์เก๋งที่มีนายรุ่งเรืองเป็นคนขับได้เปลี่ยนช่องทางการเดินรถกะทันหันจากช่องซ้ายไปช่องขวาทำให้เกิดการเฉี่ยวชนกับรถบรรทุกคู่กรณี ด้วยความแรงจึงทำให้รถยนต์บรรทุกเสียหลักพลิกคว่ำไปชนเฉี่ยวชนกับเสาไฟฟ้าที่อยู่ข้างถนนจนได้รับความเสียหาย นายนิกรคนขับรถบรรทุกได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ซึ่งในขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ตั้งข้อหาผู้ขับขี่รถยนต์แต่อย่างใด เนื่องจากต้องเรียกคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายมาพูดคุยกันเพื่อดำเนินการสืบสวนสอบสวนตามขั้นตอนของกฎหมาย

1643104618073

อย่างไรก็ตาม พ.ต.ท.เตชินท์ เปิดเผยว่าสำหรับข้อกล่าวหานั้นคาดว่าจะเป็นการกระทำความผิดฐาน “ขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และ "ทำให้ทรัพย์สินเสียหาย” แต่ขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการสืบสวนสอบสวนและสรุปพยานหลักฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

1643104418557

ด้านนางนภสร บุญแต งอายุ 28 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิตอ กล่าวว่าตอนนี้ทางบริษัทประกันภัยเข้ามาดูแลเยียวยาทางครอบครัวของตนแล้ว ปกติตนกับสามีก็ทำงานกันทั้งคู่ตอนนี้ตนต้องเป็นหัวหน้าครอบครัวดูแลลูกทั้งสองคนแทนสามีที่ต้องมาจากไปด้วยอุบัติเหตุ ส่วนผู้ก่อเหตุเองก็ติดต่อเข้ามาเพื่อขอเยียวยาตามครอบครัวตนเหมือนกัน ช่วงที่รถของสามีเกิดเหตุตนทราบข่าวจากทางสื่อออนไลน์ก็ตกใจมาก เห็นรถที่เกิดเหตุรู้ได้ทันทีว่าเป็นรถของสามี หลังจากนั้นก็ประสานงานไปที่บริษัททราบข่าวว่าส่งตัวไปหาที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ตทางนายจ้างก็บอกว่าสามีตนไม่เป็นอะไรมากเพียงแค่กระดูกหักตนก็ดีใจ แต่มาทราบอีกว่าช่วงล่างตั้งแต่เอวลงไปของสามีหักอีกด้วยและต่อมาเวลาประมาณ 4 โมงเย็นว่าสามีจากไปแล้ว อยากจะฝากผู้ที่ขับรถทุกคนต้องระมัดระวัง อย่าประมาทจนเกิดเหตุซ้ำรอยเหมือนกับที่สามีของตนต้องจากไปอย่างไม่มีวันกลับอีก

advertisement

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส