ความคืบหน้าเหตุการณ์คนร้ายบุกเดี่ยวจี้ชิงทรัพย์ ร้านสะดวกซื้อ บริเวณข้างโรงเรียนสารสาสน์วิเทศ ถนนมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ประตู 1 ต.หนองจะบก อ.เมือง จ.นครราชสีมา เมื่อช่วงเวลา 03.00 น. ของวันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา โดยกล้องวงจรปิดภายในร้านสามารถบันทึกภาพคนร้ายที่ก่อเหตุไว้ได้ เป็นชาย 1 คน รูปร่างท้วม สวมกางเกงขายาว เสื้อคลุมสีดำคาดแดง สวมหมวกกันน็อคครึ่งใบ และสวมหน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า ทำทีเป็นลูกค้าเดินเข้าไปในร้านสะดวกซื้อ
ก่อนที่คนร้ายจะอาศัยจังหวะปลอดคนไม่มีลูกค้าเดินเข้าไปบริเวณหน้าเคาท์เตอร์คิดเงิน ก่อนที่คนร้ายจะบีบน้ำแอลกอฮอล์ลงไปบริเวณสินค้าที่วางอยู่ด้านหน้าเคาท์เตอร์ แล้วใช้ไฟแช็คจุดไฟจนเกิดไฟลุกไหม้ ทำให้พนักงานหญิงที่อยู่หน้าเคาท์เตอร์ตกใจ จากนั้นคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนพกสั้นข่มขู่พนักงานหญิง และบุกเข้าไปในพื้นที่เคาท์เตอร์หยิบเงินสด และสินค้าหลายชนิดใส่ในกระเป๋าผ้า ก่อนที่คนร้ายจะเดินออกมาหน้าเคาท์เตอร์แล้วจุดไฟเผาอีกรอบ โดยคนร้ายใช้เวลาในการก่อเหตุเกือบ 3 นาที ก่อนที่คนร้ายจะวิ่งหลบหนีออกจากร้านไป
ซึ่งหลังเกิดเหตุพบว่าเคาท์เตอร์ได้รับความเสียหายจากไฟไหม้ และคนร้ายได้ขโมยของไปหลายรายการ ประกอบด้วย เงินสดประมาณ 6,000 บาท เหล้าหงส์ทอง 1 กลม เครื่องดื่มชูกำลัง 2 ขวด และกระเป๋าเดลิเวอรี่ 1 ใบ โดยพนักงานได้เข้าแจ้งความที่ สภ.โพธิ์กลาง เพื่อเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี
ล่าสุดวันนี้ (21 มกราคม 2565) พันตำรวจเอก นาวิน ธีระวิทย์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรโพธิ์กลาง เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการติดตามตัวคนร้ายที่ก่อเหตุว่า หลังเกิดเหตุชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ติดตามตัวคนร้ายที่ก่อเหตุอย่างเร่งด่วน ซึ่งถนนบริเวณที่คนร้ายก่อเหตุช่วงกลางคืนค่อนข้างเปลี่ยว จึงเปิดโอกาสให้คนร้ายลงมือ
โดยชุดสืบสวนได้แกะรอยเส้นทางหลบหนีของคนร้ายตามกล้องวงจรปิดที่อยู่ตามจุดต่างๆ ที่เป็นเส้นทางการหลบหนีของคนร้าย เบื้องต้นเชื่อว่าคนร้ายที่ก่อเหตุลงมือเพียงลำพังคนเดียว และขณะนี้พอทราบเบาะแสของคนร้ายที่ก่อเหตุแล้ว มั่นใจว่าจะสามารถติดตามจับกุมตัวได้ภายในเร็วๆ นี้.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เปิดปฏิบัติการ "ล่าไม่ถอย" รวบ 4 นักโทษหนีกักตัวโควิด สุดแสบแบ่งทีมแหกคุก - ชิงทรัพย์ชาวบ้าน (คลิป)
- รวบหนุ่มชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อ ช็อกเป็นโจรตั้งแต่เด็ก - แม่แฉสันดานลูกหากไม่ถูกจับคงฆ่าคน (คลิป)
- ตำรวจปิดเกมเร็ว ล่าตัวคนร้ายเขียน จม.น้อย ขู่ชิงทรัพย์ธนาคาร 6 แสนบาท ได้สำเร็จ
