จากกรณี เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 13 ม.ค.64 มีเหตุยิงกันในซอยผูกมิตร ถนนปู่เจ้าสมิงพาย อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ โดยที่เกิดเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บถูกยิงเข้าที่ลำตัว และถูกนำส่งโรงพยาบาลเมืองสมุทรปู่เจ้า ทราบชื่อคือ นายกฤษณะ จันทร หรือ เเชมป์ อายุ 18 ปี โดยฝ่ายผู้บาดเจ็บมาทั้งหมด 3 คน ส่วนฝ่ายผู้ก่อเหตุจากพยานระบุว่าประมาณ 6 คน หลังเกิดเหตุได้พากันหลบหนีไป
ล่าสุด วันที่ 14 ม.ค. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางลงพื้นที่ลานดินข้างโลตัสเอ็กซ์เพรส ในซอยผูกมิตร ถนนปู่เจ้าสมิงพราย อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ โดยพื้นที่เกิดเหตุ เป็นลานดินโล่งข้างโลตัส
นางปีนัง ใจตรง อายุ 43 ปี แม่ค้าร้านก๋วยเตี๋ยวหน้าโลตัส เปิดเผยว่า ช่วงเวลาประมาณ 20.00 น. ตอนนั้นตนยังขายของอยู่ที่ร้าน มีลูกค้ามานั่งกินก๋วยเตี๋ยวอยู่จำนวนหนึ่ง ตนไม่ทันได้สังเกตว่ามีกลุ่มวัยรุ่นมารวมตัวกันหรือไม่ เพราะตนมัวเเต่ทำงานอยู่จึงไม่ได้สนใจ จากนั้นตนก็ได้ยืนเสียงดังปังขึ้น 1 ครั้ง เข้าใจว่าเป็นเสียงยางรถระเบิด จากนั้นก็เห็นว่ากลุ่มวัยรุ่นก็วิ่งกรูกันมาจากลานดิน ตนไม่รู้ว่ากี่คน วิ่งมาด้านหน้าโลตัส ตนตกใจกลัวจะถูกลูกหลง ทั้งที่ไม่รู้ว่าเกิดเหตุการณ์อะไรก่อนจะวิ่งไปแอบด้านข้างโลตัส
ก่อนจะชะโงกหน้าออกมามอง ตนก็เห็นว่ากลุ่มคนบาดเจ็บวิ่งเข้าไปหลบในโลตัส ส่วนคนก่อเหตุยืนรออยู่ด้านนอก ส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย หนึ่งในนั้นมีคนถือมีดยาวไว้ด้วย ตอนเเรกก็เหมือนจะเข้าไปด้านใน เเต่พนักงานของโลตัสมาห้ามไว้ ไม่ให้เข้าไปด้านใน เพราะตอนนั้นนอกจากนี้จะมีคนเจ็บเเล้ว ก็ยังมีกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาซื้อของในโลตัสด้วย
จากนั้นกลุ่มผู้บาดเจ็บก็เดินออกมาจากโลตัส ตนจึงได้ทราบว่ามีคนถูกยิง เป็นผู้ชายเดินกุมหน้าอกฝั่งขวาออกมา ก่อนจะมีรถกระบะจะมารับไป ส่วนกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุยืนรอด้านนอก ก็ขับจักรยานยนต์หนีไป ไม่มั่นใจว่ากี่คัน รวมระยะเวลาเหตุเกิดทั้งหมดประมาณ 5 นาที ยอมรับเมื่อคืนกลัวมาก สั่นไปหมด ลูกค้าที่มาทานก๋วยเตี๋ยวก็ตกใจ
ภาพจากกล้องวงจรปิด ความยาว 1.12 นาที เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในกล้อง จะเป็นช่วงที่พี่สาวของนายสัญชัย เจ้าของบ้านกล้องวงจรปิด ออกมาดูเหตุการณ์วัยรุ่นยิงกัน ตรงกับช่วงเวลา 20.10 น. จากนั้นไม่นานก็ภายในกล้องก็จะเห็นรถจักรยานยนต์ที่มีคนซ้อนท้าย 2 คน ขับผ่านไปประมาณ 4-5 คัน มีรถกระบะ 1 คันขับผ่านไป ซึ่งเป็นกระบะที่พาคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล
ล่าสุด เมื่อเวลา 13.30 น. นายไฟท์ อายุ 17 ปี กับนางสาวจ๋า อายุ 17 ปี พยานในที่เกิดเหตุ ได้เดินทางมาที่ สภ.สำโรงใต้ พร้อมกับผู้ปกครอง เพื่อมาให้การเพิ่มเติม โดยมี พ.ต.อ.จักรพงศ์ นุชผดุง ผกก.สำโรงใต้ เป็นผู้สอบปากคำเอง
หลังจากนั้น ทาง พ.ต.อ.จักรพงศ์ นุชผดุง ผกก.สำโรงใต้ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า เบื้องต้น ได้มีการเรียกพยานที่อยู่ในที่เกิดเหตุการณ์มาให้ปากคำเเละให้ข้อมูลเพิ่มเติมแล้ว โดยในวันนี้มี 2 คนคือ นายไฟท์ อายุ 17 ปี เเละนางสาวจ๋า อายุ 17 ปี พยานที่อยู่ในเหตุการณ์ ที่อยู่ในกลุ่มผู้ก่อเหตุ ซึ่งกลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นวัยรุ่น อายุ 17-19 ปี จำนวน 6 คน
จากการสอบปากคำทั้งคู่ก็มีความคืบหน้าที่น่าเชื่อว่าจะได้ตัวผู้ก่อเหตุมารับผิดเร็ว ๆ นี้ เพราะทราบชื่อเเละที่อยู่ของคนก่อเหตุเเล้ว เเต่ยังไม่ยืนยันอายุ ส่วนรายละเอียดคงต้องขอสงวนไว้ในสำนวนคดี โดยสาเหตุของเรื่องนี้คาดว่าน่าจะมาจากปมชู้สาว เเละมีการท้าทายกันผ่านโซเชียล ก่อนจะมีการนัดหมายเคลียร์ปัญหากัน ส่วนอาวุธที่ใช้ก่อเหตุเป็นปืนไทยประดิษฐ์ โดยใช้หัวกระสุนลูกซองเบอร์ 9 เบื้องต้นอาการของนายเเชมป์ ผู้บาดเจ็บตอนนี้พ้นขีดอันตรายเเล้ว
นายรุ่งศักดิ์ จันทร อายุ 42 ปี พ่อของนายเเชมป์ ผู้บาดเจ็บ เดินทางมาที่ สภ.สำโรงใต้ เปิดใจว่า เมื่อคืนนายเเชมป์ ลูกชายของตนกำลังจะไปดูรถที่ซ่อมไว้ที่อู่เเถวสมุทรสาคร เเต่หลังจากออกไป ลูกชายก็ได้ไปหาเพื่อนที่ชื่อเจมส์ เพราะได้มีการนัดหมายเคลียร์ปัญหากับกลุ่มคนก่อเหตุไว้ ซึ่งเป็นการเคลียร์ปัญหาเรื่องผู้หญิง คือนายเจมส์คบกับนางสาวจ๋า ก่อนจะเลิกรากันไป จนนางสาวจ๋ามีเเฟนใหม่ เเละเริ่มมีปัญหาคือแฟนใหม่คือ นายไฟท์ มีการเช็กเฟซบุ๊กว่านางสาวจ๋าเเละนายเจมส์ว่ายังคบกันอยู่หรือไม่ จนกระทั่งเริ่มมีการท้าทายเเละนัดเคลียร์ปัญหากัน
เมื่อคืนนี้ลูกชายของตนเพียงเเค่ไปเป็นเพื่อนนายเจมส์เท่านั้น เเต่กลายเป็นว่าลูกชายของตนถูกยิง ตอนนี้เเพทย์เเจ้งว่าอาการของลูกชายดีขึ้น เเต่ยังไม่ครบ 24 ชั่วโมง ต้องอยู่ในห้องไอซียูเพื่อรอดูอาการก่อน เพราะมีกระสุนปืนคาอยู่ในปอด 3 เม็ด ตนรู้สึกเสียใจ เพราะเหตุการณ์แบบนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้น อยากให้คนผิดรับโทษ เเละรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองทำ
โดยนายเจมส์เคยมาฝึกงานที่โรงงานที่บ้านของตน เป็นเพื่อนกับลูกชายตนมานาน ตนรู้สึกรักนายเจมส์เหมือนลูกคนหนึ่ง หลังเกิดเหตุก็ได้มีการพูดคุยกันเเล้ว นายเจมส์ก็รู้สึกผิดกับเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ปกตินิสัยใจคอขอนายเจมส์ ก็เป็นเด็กดีมาก เเละเพื่อนในกลุ่มก็ไม่มีนิสัยก้าวร้าว ไม่มีใครหาเรื่องใคร ยืนยันว่ากลุ่มของลูกชายไม่มีการไปหาเรื่องคนอื่นก่อนแน่นอน ส่วนจะเป็นการยิงผิดตัวหรือไม่นั้น ตนก็ไม่มั่นใจ
ส่วนนางสาวจ๋าก็เคยมาหานายเจมส์ที่บ้านของตนบางครั้ง ตนก็ยังเคยเลี้ยงข้าวนางสาวจ๋าด้วย เคยมากินมานอนอยู่ที่บ้านของตน ตนก็รู้สึกเอ็นดูเหมือนลูกอีกคนหนึ่งเช่นกัน พอเกิดเหตุการณ์เมื่อวาน ตนก็ไม่รู้ว่านางสาวจ๋าคิดอย่างไร ถึงได้พาคนอื่นมาทำร้ายลูกชายของคนได้ขนาดนี้ ยอมรับว่าโกรธเเละเสียใจมากกับนางสาวจ๋า เพราะเหมือนกับไม่สำนึกถึงข้าวแดงแกงร้อนที่ตนเคยดูแล
จากนั้น นายรุ่งศักดิ์ ได้เดินเข้าไปพูดคุยกับเเม่ของนางสาวจ๋าในห้องสอบสวน โดยในช่วงระหว่างที่คุยกันนั้น นายรุ่งศักดิ์ก็ได้มีการสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กับเเม่ของนางสาวจ๋าโดยถามว่า "ทำไมถึงทำแบบนี้ พาคนอื่นมาทำร้ายลูกผม เพราะลูกผมไม่ได้ยุ่งเกี่ยวอะไรด้วยเลย เเล้วจ๋าอยู่ไหน" เเม่ของนางสาวจ๋าจึงชี้ไปยังจุดที่นางสาวจ๋านั่งอยู่ จากนั้นนายรุ่งศักดิ์ตะโกนถามนางสาวจ๋าว่า "นั่นจ๋าใช่ไหม จ๋า ได้ยินพ่อไหมลูก จ๋าทำแบบนี้ได้ยังไง จ๋าพาคนอื่นมาทำร้ายเเชมป์ได้ยังไง จ๋ามากินมานอนที่บ้านพ่อ พ่อเคยว่าจ๋าสักคำไหม จ๋ารู้ไหมว่าเเชมป์เป็นยังไงบ้างตอนนี้ ตอนนี้ลูกกระสุนคาปอดอยู่ 3 เม็ด" ก่อนที่คนอื่น ๆ จะบอกให้นายรุ่งศักดิ์ใจเย็น
ด้านนายรุ่งศักดิ์จึงถามว่า "ถ้าเป็นพี่จะรู้สึกยังไง ถ้าเป็นผม ผมไม่ซีเรียส เเต่ไม่อยากให้เรื่องแบบนี่เกิดขึ้นอีก ลูกผมไม่ทันได้พูดอะไรสักคำ เเล้วพี่คิดดูว่า จ๋าพาคนอื่นมายิงลูกผมที่หน้าปากซอยบ้าน ทำอย่างนี้ทำไม ทำไม่ไม่พูดความจริง" ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะขอให้สอบปากคำนางสาวจ๋าก่อน
ส่วนทางด้านเเม่ของนางสาวจ๋า เผยว่า ตนยังไม่รู้รายละเอียดเลย เเละก็ไม่รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น ตนเข้าใจความรู้สึกนายรุ่งศักดิ์ ผู้เป็นพ่อดี ว่าคงจะเสียใจเเละโกรธ ตนไม่โกรธนายรุ่งศักดิ์ที่พูดแบบนั้นเลยเเม้เเต่น้อย
