ไอเดียเลิศ! แต่งในเมรุชวนระลึกตาย เจ้าสาวผวาเงาหลอน พระแจง "มาดี" (คลิป)

กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า "Nonts Kongchaw" โพสต์ภาพชุดพรีเวดดิ้งคู่รักหนึ่ง พร้อมเขียนข้อความบรรยายว่า "Pre Wedding – Love Beyond Death เพราะความรักอยู่เหนือความตาย" โดยภาพพรีเวดดิ้งดังกล่าวค่อนข้างแตกต่างจากภาพทั่วไป เพราะมีเรื่องเกี่ยวกับความตายเข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้ภาพที่ออกมานั้นบอกเล่าเรื่องเกี่ยวกับงานศพ ตลอดจนมีการถ่ายทำกันที่ป่าช้า ซึ่งบางภาพคู่บ่าวสาวโพสต์ท่าคู่กับเมรุเผาศพ โลงศพ และเจดีย์เก็บกระดูก ตลอดจนมีการทำท่าทำทางเหมือนจะกินเถ้ากระดูก หรือกินน้ำจากถ้วยที่เอาไว้กรวดน้ำศพ

ทั้งนี้ ชาวเน็ตแห่ให้ความสนใจและแชร์มากกว่า 1 หมื่นครั้ง และยังมีคนเข้ามาคอมเมนต์จำนวนมาก บางรายก็บอกว่าแปลกดีและน่าสนใจ ขณะที่บางรายก็หวั่นว่าจะเป็นลางไม่ดี เพราะการแต่งงานคืองานมงคล แต่ที่หลายคนสงสัยอีกหนึ่งประเด็นคือ มีคนเข้ามาตั้งข้อสังเกตว่าภาพสุดท้ายมีเงาลักษณะคล้ายคนยืนอยู่ด้านหลังของคู่รัก

หลังจากนั้นเจ้าของโพสต์ ก็เข้ามาตอบคอมเมนต์ว่าสงสัยเหมือนกันว่าภาพสุดท้ายเป็นใคร เนื่องจากมีทีมงานอยู่หลังกล้อง จำนวน 4 คน และเป็นวัยรุ่นทั้งหมด ซึ่งพื้นที่ที่ถ่ายเป็นป่าช้าเก่า โดยถ่ายเวลา 02.00 น. ไม่รู้ว่าเงาดังกล่าวเป็นใครและมายืนทำอะไร

ล่าสุดวันที่ 7 ม.ค.65 ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปยังบ้านหลังหนึ่ง ในเขตพื้นที่ ต.ย่านยาว อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย เพื่อพูดคัยกับ นายคงชาว ไอกายอินทร์ อายุ 28 ปี เจ้าของภาพพรีเวดดิ้งที่ไปถ่ายทำในป่าช้าและเมรุเผาศพ

นายคงชาว กล่าวว่า ภาพชุดพรีเวดดิ้งที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในขณะนี้ ส่วนหนึ่งเป็นความชื่นชอบส่วนตัว และต้องการที่จะสื่อให้คนทั่วไปนับรู้ว่าความตายอยู่ใกล้ตัว แต่คนทั่วไปมักมองว่าความตายอยู่ไกลตัว ประมาทในการใช้ชีวิต พอถึงช่วงหนึ่งที่ไม่เหลือเวลาในการใช้ชีวิต ก็จะทำให้กลับมาถึงคิดถึงช่วงเวลานั้น ซึ่งจริง ๆ แล้วชีวิตมีค่ามาก ความตายอยู่ใกล้เรามาก เราควรสนใจตัวเองมากกว่านี้

สำหรับการถ่ายภาพพรีเวดดิ้งชุดนี้ ตนไม่ได้กลัวอะไร ในวันถ่ายทำมีทีมงาน 4 คน เจ้าบ่าว และเจ้าสาว รวมเป็น 6 คน ส่วนภาพที่มีเงาคล้ายคนมายืนรวมเฟรมนั้น ตนคิดว่าน่าจะเป็นสัปเหร่อหรือชาวบ้านที่มาดูมากกว่าวิญญาณ ส่วนภาพที่ถ่ายออกมาถือว่าถูกใจตนเป็นอย่างมาก

สำหรับว่าที่เจ้าสาวที่มาถ่ายภาพกับตนนั้น เป็นเพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัยด้วยกัน ก่อนหน้านี้เคยติดต่อนางแบบไปหลายคน แต่ไม่มีใครยอมถ่ายให้ สุดท้ายก็ได้เพื่อนที่เรียนมาด้วยกันยอมมาถ่าย ซึ่งเพื่อนก็กลัว และหลังจากที่ถ่ายภาพแล้วตนไม่ได้ไปทำบุญอะไรเป็นพิเศษ เพราะว่าตนทำบุญตามปกติอยู่แล้ว สำหรับภาพทั้งหมดที่ถ่ายเป็นผลงานที่ตนชื่นชอบ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยภ่ายภาพแนวดังกล่าวออกมาหลายชุดแล้ว

น.ส.วริศรา เพ็ญเอี่ยม อายุ 28 ปี หญิงสาวที่สวมชุดเจ้าสาว เปิดเผยว่า ภาพถ่ายพรีเวดดิ้งดังกล่าว จริง ๆ แล้วเป็นการถ่ายภาพทำคอนเทนต์ ไม่ได้เป็นการถ่ายพรีเวดดิ้งแต่งงานจริง ๆ ขณะเจ้าบ่าวก็คือเพื่อนสนิทของตนตั้งแต่สมัยมหาวิทยาลัย ภาพเซตดังกล่าวต้องบอกว่าถ่ายมานานแล้ว ประมาณช่วงกลางปี 64 แต่เพิ่งมาปล่อย เหตุเพราะเพื่อนตั้งใจให้เป็นของขวัญวันเกิดตนครบรอบ 28 ปี

ส่วนที่มาที่ไปของการถ่ายภาพเซตนี้ มาจากเพื่อนชื่อ นนท์ หรือคนที่สวมชุดเจ้าบ่าว เขานิยมถ่ายภาพลี้ลับ อีกทั้งย้อนกลับไปประมาณ 3 ปีก่อน เขาก็เคยถ่ายภาพเซตงานศพตัวเองตายมาแล้ว 1 รอบ ครั้งนี้เขาเห็นว่าตนรับงานถ่ายแบบอยู่แล้ว และเป็นเพื่อนสนิท จึงชักชวนพร้อมว่าจ้างเป็นเงิน 8,000 บาท โดยใช้เวลาตั้งแต่ 16.00-05.00 น. ตนยอมรับว่าตอนแรกก็คิดหนัก เพราะตนเป็นคนกลัวผี แต่ด้วยงานและเพื่อน จึงตัดสินใจรับปาก

ทั้งนี้ เพื่อนของตนก็เป็นคนจัดหาสถานที่ไว้เรียบร้อยแล้ว วันถ่ายทำจริงยอมรับว่าค่อนข้างมืดและน่ากลัว ทีมงานก็ได้ทำพิธีจุดธูปไหว้และบอกกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขณะที่ตนก็ได้ห้อยพระเพราะถือเป็นครั้งแรกที่รับงานแบบนี้ แต่จู่ ๆ โหลที่ใส่กระดูกซึ่งซื้อมาใหม่ก็แตกแบบไม่เหตุผล ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ทำหล่นหรือกระแทกกับอะไร ตอนนั้นทีมงานทุกคนอึ้ง แต่ก็ไม่มีใครกล้าพูดอะไร

"ส่วนที่หลายคนถามว่ากลัวไหม ถ่ายแบบนี้จะทำให้ชีวิตไม่มีคู่ หรือเจอเรื่องร้าย ๆ หนูก็เคยถ่ายพรีเวดดิ้งชุดแต่งงานมาก่อนแล้ว ซึ่งมันก็มีความเชื่อว่าห้ามใส่ชุดแต่งงาน เดี๋ยวจะไม่ได้แต่งงาน ขณะที่ครอบครัวก็ไม่ได้ว่าอะไร แถมยังมาเเซวว่าดังใหญ่แล้ว แต่ว่างานนี้หากไม่ใช่เพื่อน หนูก็คงไม่กล้ารับ" น.ส.วริศรา กล่าว 

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้เดินทางไปยังวัดหนองหมู หมู่ 5 บ้านหนองหมู ตำบลสระพัฒนา อำเภอกำแพงเเสน จังหวัดนครปฐม ซึ่งเป็นสถานที่ที่ทีมงานได้มาปักหลักถ่ายภาพ ทั้งนี้ ทีมข่าวได้มีโอกาสพูดคุยกับพระชัยรถ ชยธรรมโม เจ้าอาวาสวัด เล่าให้ฟังว่า สำหรับเรื่องราวที่มีการโพสต์และแชร์นั้น สถานที่เป็นที่วัดจริง เบื้องต้นมีกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 4-5 คน มาติดต่อขอใช้สถานที่ อ้างว่าจะมีการถ่ายทำละครสั้นเกี่ยวกับคู่รักอมตะ เจ้าบ่าวเสียชีวิต แต่ด้วยเจ้าสาวรักเจ้าบ่าวมากเลยจัดพิธีแต่งงานกับผี เมื่ออัตมาได้ยินก็คิดว่าคงไม่มีอะไรเสียหาย จึงอนุญาตและให้ความร่วมมือ

สำหรับระยะเวลาถ่ายทำประมาณ 17.00 น. ก่อนถ่ายทำอาตมาพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่วัด ตลอดจนทีมงานได้ร่วมทำพิธีเพื่อขอใช้สถานที่ ด้วยการจุดธูปจำนวน 16 ดอก เพื่อให้เปิดทางและช่วยคุ้มครองทีมงาน ซึ่งจริง ๆ แล้วเงาในภาพไม่ใช่สิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือสิ่งลี้ลับ แต่เป็นอตมาเองที่เดินไปดู เพราะอาตมาเห็นว่าช่วงนั้นค่อนข้างดึกแล้ว 22.00-23.00 น. แต่กองถ่ายยังถ่ายทำไม่แล้วเสร็จ อาตมาไม่ทราบว่าช่างภาพถ่ายติดภาพอาตมาไป คิดว่าช่างภาพน่าจะรู้ว่าคนในภาพคืออาตมา

"อาตมาก็เพิ่งทราบข่าวเมื่อเช้า หลังชาวบ้านที่เห็นข่าวได้มาสอบถามอาตมาว่า คนในภาพนี้คือใคร ใช่สัปเหร่อหรือคนในหมู่บ้านที่เสียชีวิตไปแล้วหรือไม่ พออาตมาได้เห็นก็เลยบอกว่า อาตมาเอง หลาย ๆ คนก็ขำกัน เรื่องดังกล่าวขึ้นอยู่กับความเชื่อของแต่ละคน และภาพที่จะสื่อออกไปหากทำให้วัดเสียหายก็ฝากพิจารณาดูสักนิด แต่หากถ่ายทำแล้วไม่ได้ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของวัดก็สามารถทำได้ และอยากให้รักษาความสะอาดด้วย" เจ้าอาวาสวัด กล่าว

ต่อมาทางทีมข่าวได้มีโอกาสพูดคุยกับนางดาวเรือง ทองเชื้อ อายุ 45 ปี เล่าให้ฟังว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นส่วนตัวก็แอบตกใจ เพราะที่ผ่านมาก็ไม่ค่อยเห็นเรื่องราวแบบนี้ แม้ว่าอาจจะขัดกับความเชื่อของคนไทย เพราะงานมงคลส่วนใหญ่จะไม่ค่อยมาใช้สถานที่ของวัดในการจัดพิธี ยกเว้นงานบวชที่อาจจะต้องทำพิธีในวัดบางช่วงบางตอน แต่งานมงคลสมรสเรียกว่าตลอดชีวิตของตนไม่เคยเห็นแบบนี้มาก่อน เป็นเรื่องแปลกใหม่และครั้งแรกที่ตนเคยเห็น

"พอเป็นข่าวไปในฐานะชาวบ้านใกล้วัด ก็รู้สึกดีใจกับวัดด้วย คาดว่าคงมีคนเดินทางมาร่วมทำบุญ หรือมีการร่วมพิธีสำคัญกับวัดมากขึ้น เพราะตอนนี้วัดเองไม่ค่อยมีคนเข้ามา เนื่องจากในหมู่บ้านจะมีวัดติด ๆ กันค่อนข้างเยอะ เลยทำให้มีตัวเลือกหลายวัด" ชาวบ้าน กล่าว

ขณะที่ความเชื่อเกี่ยวกับสิ่งลี้ลับ ต้องบอกว่าปกติชาวบ้านละแวกนี้ก็จะสัมผัสกันบ่อย ๆ เพราะจุดด้านหลังที่ตนสัมภาษณ์นี้ จะเห็นว่าเป็นสถานที่ที่ชาวบ้านนำซากปรักหักพังของศาลพระภูมิ หรือพระพุทธรูป และสิ่งที่คนบูชาแล้วแตกหักนำมาวางไว้ ตนยอมรับว่าช่วงค่ำ ๆ จะเห็นเด็ก ๆ คนแก่ เดินวนอยู่ในรอบ ๆ วัดเป็นประจำซึ่งคนละแวกนี้เห็นจนชินแล้ว