กรณีแฟนเพจเฟซบุ๊ก "อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น part 2" ออกมาโพสต์อ้างว่าคลินิกเสริมความงามของ "พิมรี่พาย" มีผู้เสียหายแจ้งเรื่องเข้ามาว่าหลังจากจองคิวหรือสิทธิ์เข้าใช้บริการผ่านไลฟ์สดของ "พิมรี่พาย" ด้วยจำนวนเงิน 500 บาทต่อสิทธิ์ แล้วส่วนต่างที่เหลือค่อยไปจ่ายวันทำจริง ปรากฏว่าลูกค้าหลายคนกลับเจอปัญหาเรื่องของระบบการจัดการ ทักแชตไปในเพจคลินิกกลับไม่มีแอดมินตอบกลับ สุดท้ายพอติดต่อไปขอเงินคืน แอดมินบางคนบอกทำได้ แอดมินบางคนบอกทำไม่ได้ เล่นเอาหลาย ๆ คนเคว้งเหมือนโดนลอยแพ
เมื่อตรวจสอบพบว่าคลินิกดังกล่าว เป็นของพิมรี่พายจริง ๆ ผ่านการจดทะเบียนในนาม บริษัท พิมรี่พาย สกินแคร์ จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 10 มิ.ย.62 โดยมี น.ส.พิมรดาภรณ์ เบญจวัฒนะพัชร์ หนึ่งในคณะกรรมการบริษัทฯ แจ้งประเภทธุรกิจตอนจดทะเบียนเป็นกิจกรรมคลินิกโรคเฉพาะทาง ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท
โดยพิมรี่พายจัดโปรโมชันหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น โบท็อก 100 ยู ราคา 2,555 บาท มัดจำ 500 บาท ที่เหลือจ่ายวันทำจริง เสริมจมูกใหม่ 5,555 บาท ยกหน้า 4,444 บาท เป็นต้น ซึ่งหลังจากที่พิมรี่พายไลฟ์สดออกไป ส่งผลให้มียอดการสั่งจองมากกว่า 2 แสนคน โดยสามารถเก็บสิทธิ์ดังกล่าวไว้ได้ 6 เดือน
ล่าสุดวันที่ 9 ธ.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปพูดคุยกับทาง คุณวาดจันทร์ (นามสมมติ) หนึ่งในลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ เล่าให้ฟังว่า เบื้องต้นเคสของตนนั้น ช่วงประมาณวันที่ 3 ธันวาคม 64 ตนได้เข้าไปดูไลฟ์สดของพิมรี่พาย ซึ่งเป็นเพจของคลินิกเสริมความงาม ตนมองว่าราคาถูกและน่าสนใจ เลยตัดสินใจจองไปทั้งหมด 4 รายการ ประกอบไปด้วยดังต่อไปนี้
1.ยกตา 3,333 บาท
2.สวย 5,000 บาท (โบท็อก-ฟิลเลอร์คาง)
3.วิตามินผิว 500 บาท
4.ยกหน้า 4,444 บาท (ร้อยไหม)
ทั้งนี้ จะมีค่ามัดจำเป็นจำนวน 2,000 บาท จากยอดรวม 13,277 บาท หลังจากนั้นตนก็ได้โอนเงินไปทันที พอโอนเงินเสร็จก็มีการยืนยันการจอง ในวันที่ 4 ธันวาคม 64 ตนเลยทักไปว่าขอเข้าไปใช้บริการวันที่ 17 ธันวาคม 64 ผลปรากฏว่าตนรออยู่ประมาณ 4 วัน กลับไม่ได้รับข้อความคอนเฟิร์มหรือยืนยันการให้เข้าไปรับบริการ แต่กลับเงียบเฉย สุดท้ายพอเข้าไปส่องในเพจบ่อย ๆ กลับพบว่ามีคนที่เจอปัญหาเดียวกับตน จึงตัดสินใจรวมกลุ่มกันเพื่อพูดคุยถึงปัญหาที่เกิดขึ้น กระทั่งพบว่ามีคนที่เจอปัญหามากกว่า 1,500 รายแล้ว ตนเชื่อว่าน่าจะมีคนที่เกิดปัญหาคล้าย ๆ กันอีกหลายราย หากนับตามจำนวนลูกค้าที่ CF จองสิทธิ์เป็นหลักแสนคน
สำหรับปัญหาหลัก ๆ มาจากระบบการจัดการที่แอดมินไม่ตอบแชตและไม่อ่านไลน์ลูกค้า หลังจากโอนเงินมัดจำไปแล้ว ตลอดจนปัญหาการจองคิวเละเทะ คนจองคิวไปแล้วตามเวลา พอไปจริง ๆ ต้องไปรับบัตรคิวหน้าคลินิก แล้วรอทำ 4-5 ชั่วโมง รวมไปถึงยังเปิดให้คนที่ไม่ได้จองคิววอร์กอินเข้าไปใช้บริการ ส่งผลให้เกิดความแออัด ทั้งที่ภายในร้านพื้นที่ไม่เพียงพอรองรับคนจำนวนมาก และไม่เป็นไปตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 กลัวว่าจะเป็นคลัสเตอร์ใหม่ได้
"บางคนตัดสินใจจะไม่ขอเข้ารับบริการต่อ พร้อมจะทำเรื่องขอคืนเงินมัดจำ เพราะกังวลเรื่องความไม่ปลอดภัยที่จะต้องไปนั่งรอคิวแออัด ท่ามกลางคนเยอะ ๆ กลัวจะติดเชื้อโควิด-19 ตลอดจนเรื่องของมาตรฐานในการบริการ เบื้องต้นตอนนี้แอดมินได้ตอบกลับเรื่องการคืนเงินแล้ว ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลา 14 วัน หากเลยเวลายังไม่ได้รับเงินคืน ก็เตรียมร้องเรียน สคบ. ต่อไปค่ะ" ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ กล่าว
