เปิดภาพนาทีเพื่อน “เลย์ ตัวแสบ” ตาย เจอกระบะประกบ เชื่อรูที่ศพปืนยิง (คลิป)

กรณีวันที่ 25 พ.ย. 61 เมื่อเวลา 03.00 น. เจ้าหน้าที่ สน.พญาไท รับแจ้งเหตุรถจักรยานยนต์บิ๊กไบก์ ชนราวสะพานข้ามแยกยมราช มีผู้เสียชีวิต 1 ราย คือ นายทัศพล อินทร์รอด อายุ 23 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานเบื้องต้นว่า ผู้ตายขี่รถมาด้วยความเร็วสูง เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุเป็นทางโค้ง ทำให้รถหลุดโค้งเสียหลักไปเฉี่ยวกับขอบปูนราวสะพานอย่างรุนแรงนั้น โดยญาติและเพื่อนของผู้เสียชีวิตพบพิรุธ ที่ข้อมือผู้ตายพบรอยคล้ายกระสุนปืน จึงคาใจว่าเป็นการฆาตกรรมหรือไม่นั้น (อ่าน : “เลย์ ตัวแสบ” เชื่อ เพื่อนหนุ่มบิ๊กไบก์ถูกจัดฉากฆ่า ชี้พิรุธรูยิงที่ข้อมือ – เพื่อนสาวปัดแฟนเก่าเอี่ยว)

วันที่ 27 พ.ย. 61 ที่ สน.พญาไท พ่อแม่ของนายทัศพล อินทร์รอด ผู้เสียชีวิต รวมถึงนายพีรวัฒน์ ธีรภาพเจริญ หรือ เลย์ ตัวแสบ และนายคมสัน ชลไพโรจน์ เพื่อนผู้ตาย เดินทางมาที่ สน.พญาไท เพื่อประสานขอดูกล้องวงจรปิดในวันเกิดเหตุ ซึ่งขณะที่พ่อและแม่ผู้ตายกำลังพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ร้องไห้ออกมา

นายคมสัน ชลไพโรจน์ เพื่อนผู้ตาย ซึ่งอยู่กับผู้ตายก่อนจะไปเกิดเหตุ เปิดเผยว่า ตนทราบข่าวการเสียชีวิตของเพื่อน เมื่อช่วงเช้าวันที่ 25 พ.ย. สภาพศพเพื่อนตนเมื่อดูจากภาพก็พบว่าข้อมือข้างขวาของผู้ตายเป็นรู ซึ่งตนมองว่าหากเป็นรอยถูกแทงต้องเป็นรอยฉีกขาด แต่ปากแผลผิวค่อนข้างเรียบ ต่างจากแผลที่ผิวถูกของมีคมแทง และสภาพศพผู้ตาย ก็ไปนอนอยู่ในซอก รวมไปถึงในภาพที่ถ่ายมา คล้ายกับปลอกกระสุนปืนตกอยู่ โดยวันเกิดเหตุคือวันที่ 24 พ.ย. ตนและผู้ตาย รวมกลุ่มไปนัดมีตติ้งตามปกติ จากนั้นได้มาที่สวนลุมพินี ซึ่งมานั่งเล่นตามปกติ จากนั้นตนกับผู้ตายชวนกันกลับบ้าน โดยผู้ตายอาสาจะไปส่ง โดยขับรถไปทางหัวลำโพง และแวะกินก๋วยเตี๋ยว เมื่อขับมาถึงช่วงแยกราชดำเนินก็มีบิ๊กไบก์ที่ขับตามมาด้านหลัง 2 คัน โดยคันหนึ่งนั่งมา 2 คน อีกคันนั่งมา 1 คน สีหน้าของบิ๊กไบก์กลุ่มนี้มองด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตร เมื่อขับมาถึงสี่แยกอรุณอมรินทร์ ก็เห็นบิ๊กไบก์กลุ่มนี้ขับตามมา โดยไม่คิดที่จะขับแซงรถพวกตนขึ้นมา ซึ่งไม่เหมือนลักษณะของคนขับบิ๊กไบก์ทั่วไปที่จะขับรถเชิงคล้ายกับแข่งกัน เมื่อเลยแยกอรุณอมรินทร์มาแล้ว ผู้ตายได้ให้ตนขับแซงขึ้นไปด้านหน้าก่อน แล้วผู้ตายก็จะขับตามมา ซึ่งเมื่อมาถึงแยกตรงหน้าโรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา ผู้ตายก็ชิดซ้ายไปจอด จังหวะนั้นตนก็หันไปมองแล้วก็ขับรถไปตามปกติ ซึ่งตอนแรกตนแปลกใจ เนื่องจากผู้ตายจะต้องเลี้ยวไปทางสะพานพระราม 8 แต่กลับตรงมาตามถนนบรมราชชนนี ทั้งนี้ ตนคิดว่าบิ๊กไบก์ที่ขับมา 2 คัน ในเส้นทางเดียวกันกับตนมีพิรุธ แต่ไม่ได้เป็นการฟันธง เพียงแค่สงสัยเท่านั้น ส่วนปมที่เพื่อนเสียชีวิต ตั้งไว้ 2 ปม คือเรื่องชู้สาว เนื่องจากผู้ตายมีหญิงสาวเยอะ และเรื่องหนุ่มบิ๊กไบก์ที่ขับตามมา ส่วนหญิงสาวที่ผู้ชายได้ไปหาในวันเกิดเหตุ ตนสงสัยหญิงสาวรายนี้ เพราะจากการพูดคุยกันเมื่อวาน ทราบมาว่ามีแฟนอยู่แล้ว และมาตีตัวออกห่างจากกัน ส่วนตัวไม่เห็นว่าผู้ตายมีพฤติกรรมแปลกแต่อย่างใดในวันเกิดเหตุ เพียงดูนิ่ง ๆ ไม่ร่าเริง ซึ่งตนคิดว่ามีลางบอกเหตุ คือ ผู้ตายได้เอ่ยปากจะไปส่งตนที่บ้าน เพราะกลัวตนเหงา ทั้งที่ผ่านมาไม่เคยพูดเช่นนี้ และจะแยกทางกลับบ้านกันตลอด ต่อมา นายคมสัน ได้พาทีมข่าวไปดูรถบิ๊กไบก์ของผู้เสียชีวิตที่มีรอยไถล และชิ้นส่วนแตกหักอยู่ทางด้านขวา แต่ช่วงท่อกลับไม่มีรอยถลอก จากฝั่งด้านซ้ายที่ไม่มีรอยเช่นเดียวกัน

นายเดช อินทร์รอด พ่อของนายทัศพล ผู้เสียชีวิต เผยว่า เมื่อวันที่ 25 พ.ย. ตนไม่ได้โทรศัพท์หาลูกชาย แต่มีเพื่อนในกลุ่มบิ๊กไบก์ของลูกโทรศัพท์มาบอกว่า ลูกตนเสียชีวิตที่สะพานข้ามแยกยมราช เมื่อได้ยินครั้งแรกก็ตกใจ แต่ยังไม่เชื่อ จึงเดินทางมาดูสภาพศพลูก เมื่อมาถึง มูลนิธิที่นำส่งลูกตนเข้าโรงพยาบาล ก็บอกว่า “อย่าไปดูเลย มันดูไม่ได้” ซึ่งให้ดูแต่ใบหน้าเท่านั้น เพื่อเป็นการยืนยันว่าผู้เสียชีวิตคือลูกตนจริงหรือไม่ วินาทีนั้นคิดว่าสาเหตุการเสียชีวิตคงเกิดจากอุบัติเหตุ แต่เมื่อเห็นกลุ่มเพื่อนลูกพูดถึงรอยบาดแผลที่เป็นรูข้อมือขวาก็รู้สึกสงสัย แต่ไม่กล้าเปิดดูบาดแผล ส่วนเรื่องจะเป็นร่องรอยการถูกยิงหรือไม่นั้นก็ต้องรอความแน่ชัดอีกครั้ง ส่วนวันนี้ได้เดินทางมาที่สน.พญาไท เพื่อขอดูกล้องวงจรปิดในวันเกิดเหตุ แต่เมื่อดูก็พบว่ากล้องยังไม่ชัดเจนมากนัก เพราะดูภาพจากกล้องได้เพียงบางส่วนเท่านั้น รวมไปถึงต้องขอดูใบชันสูตรพลิกศพของลูก เนื่องจาก ยังไม่มีการระบุรายละเอียดที่ครบถ้วน ทั้งนี้ ตนเชื่อลางบอกเหตุอย่างหนึ่งคือเมื่อวันที่ 24 พ.ย. ก่อนวันเกิดเหตุ ลูกตนได้ขับรถบิ๊กไบก์มาที่บ้าน แต่วันนั้นเสียงรถลูกกลับเบา ทั้งที่ปกติรถลูกจะเสียงดังระดับหนึ่ง จึงคิดว่าคือลาง ซึ่งหากผลออกมาว่าลูกถูกทำร้ายตนก็จะดำเนินเรื่องให้ถึงที่สุด โดยลูกไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับใคร นิสัยดี ซึ่งสิ่งที่ตนพูดไม่ใช่การยกยอลูก แต่คือเรื่องจริง แม้กระทั่งเหล้าก็ไม่กิน และบุหรี่ก็ไม่สูบ นายเดช พูดทั้งน้ำตาว่า อยากจะช่วยลูกให้เต็มที่ ซึ่งตนก็มีลูกคนเดียว จึงไม่รู้ว่าในอนาคตข้างหน้า หลังจัดงานศพลูกแล้วจะอยู่ต่อได้หรือไม่ เมื่อไม่มีลูกอยู่แล้ว

ทีมข่าวได้กล้องวงจรปิด ซึ่งเป็นภาพวงจรปิดตรงแยกนางเลิ้ง ถนนดังกล่าวมีช่องทางสำหรับรถเมล์ 1 ช่องทาง และอีก 4 เลน เพื่อจะขับมุ่งหน้าไปแยกยมราช และไปทำเนียบรัฐบาลได้ โดยตรงจุดนี้จะพบว่า ผู้ตายได้จอดรถอยู่ในช่องที่ 2 และรถกระบะมาจอดเทียบอยู่ในช่องทางที่ 3 เพื่อรอสัญญาณไฟเขียว สังเกตเห็นว่าผู้ตายได้หันขวา ไปมองรถกระบะก่อนจะถอยรถบิ๊กไบก์ไปเล็กน้อย ก่อนที่รถกระบะจะถอยหลังตาม ซึ่งผู้ตายก็หันไปมอง เมื่อสัญญาณไฟเขียว รถกระบะได้ออกตัวไปก่อน แล้วรถบิ๊กไบก์ก็ได้ออกตัวตามไป

โดยมีกล้องวงจรปิดอีกตัวหนึ่ง จะเห็นว่ารถทั้ง 2 คัน ได้ตีคู่เลี้ยวขวาเพื่อมุ่งหน้าไปแยกยมราช  ซึ่งกล้องวงจรปิดตรงจุดนี้ จะเห็นการจราจรช่วงล่างสะพานข้ามแยก และบนสะพานข้ามแยก ซึ่งจะเห็นจังหวะรถของผู้ตายขับไป ก่อนที่หลังจากนั้นรถบนสะพานการจราจรเริ่มติดขัด และเมื่อสังเกตด้านล่างสะพานก็พบรถกระบะคันหนึ่ง ที่คล้ายกับรถคันก่อนหน้านี้ จอดรถติดไฟแดง เมื่อไฟเขียวก็เปิดไฟเลี้ยวซ้าย เพื่อขึ้นทางด่วนด่านยมราชไป หลังจากนั้น ก็จะเห็นว่าบนสะพานมีรถเจ้าหน้าที่มา

ด้าน พ.ต.ท.ศรายุทธ อรุณฉาย รอง ผกก.ควบคุมฝูงชน 1 เปิดเผยว่า จากภาพที่เห็นคงระบุไม่ได้ว่าจะเป็นการถูกยิงหรือไม่ เพราะสามารถคาดเดาได้ทั้งหมด ว่าจะเป็นรอยกระสุน หรือเป็นรูที่กระแทกกับน็อตบนสะพานด้วยความเร็ว ซึ่งทุกอย่างมันอยู่ที่การตรวจที่เกิดเหตุ และพิสูจน์หลักฐาน แต่จากการสังเกตรอยแผลวงกลม ถ้าเป็นการถูกยิงที่มือขวาที่ต้องบิดคันเร่ง ก็คงขับรถต่อไปไม่ได้ ซึ่งหากญาติและเพื่อนผู้เสียชีวิตยังติดใจการตายก็คงต้องรอผลชันสูตรจากทางนิติเวช และการย้อนกล้องวงจรปิดเส้นทางที่ผู้ตายขับรถผ่านมาว่ามีใครไล่ล่าหรือยิงปืนใส่ผู้ตายหรือไม่ พ.ต.ท.ศรายุทธ กล่าวต่อว่า จากแผลบนแขนขวาที่เป็นรูกลม ไม่มีรอยยุ่ยของเนื้อเหยื่อ คล้ายแผลจากรอยกระสุน แต่ตนก็ปักใจเชื่อไม่ได้เพราะยังต้องรอการตรวจเขม่าดินปืนบนแผลที่จะติดมากับหัวกระสุน แต่ถ้าเจอจุดทะลุของกระสุนในแขนอีกด้าน ก็สามารถบ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่าถูกยิง แต่ตอนนี้ก็ไม่อยากให้สรุปสาเหตุการตาย อย่างไรก็ตาม ขนาดของแผลรูวงกลม ถ้าเป็นรอยกระสุนจริง ก็คำนวนได้ว่าเป็นขนาด .38 ,ขนาด .45 และขนาด 9 มม. ซึ่งมีความใกล้เคียงกันทั้งหมด ซึ่งมันก็ต้องอยู่ที่การตรวจพิสูจน์พยานหลักฐานของพนักงานสอบสวน