ไฟไหม้ศาลาวัด ไม้สักเก่า วอดสูญ 10 ล้าน พระรอด! หนีตายชุลมุน จนท.คุมเพลิง 3 ชม. คาดไฟฟ้าลัดวงจร

วันที่ 25 พ.ย. 61 พ.ต.ท.สิทธิ์ หวังสุขกลาง รอง ผกก.สอบสวน สภ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้ศาลาการเปรียญทรงไทย วัดโพธาราม บ้านผักหวาน ต.ถนนหัก อ.นางรอง จึงได้รายงาน พ.ต.อ.ภัควัต ธรรมดี ผู้กำกับการ สภ.นางรอง ทราบ พร้อมได้ประสานเจ้าหน้าที่ดับเพลิงทั้งเทศบาลเมืองนางรอง อบต. และหน่วยกู้ชีพ กู้ภัยฯ ใกล้เคียง ร่วมเข้าระงับเหตุเพลิงไหม้

ที่เกิดเหตุ พบเพลิงกำลังโหมลุกไหม้ศาลาการเปรียญอย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่ชุดดับเพลิงเร่งช่วยกันระดมฉีดน้ำดับไฟที่โหมลุกไหม้ศาลาการเปรียญอย่างโกลาหล แต่ก็ไม่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ เนื่องจากบริเวณชั้นสองของศาลาการเปรียญสร้างด้วยไม้สักเก่าแก่ทั้งหลัง จึงเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทำให้ไฟลุกไหม้อย่างรุนแรงและรวดเร็ว

ซึ่งเจ้าหน้าที่ใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ ข้าวของเครื่องใช้ของพระ เณร ที่เก็บไว้ภายในศาลา รวมถึงตัวศาลาถูกเพลิงไหม้วอดเสียหายทั้งหมด เบื้องต้นคาดว่ามูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ซึ่งศาลาการเปรียญดังกล่าว สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 2544 โดยเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด

จากนั้น นายยุทธนา พิทยานันทกุล นายอำเภอนางรอง, นายธนศักดิ์ ปุ่นประโคน ปลัดอาวุโสอำเภอนางรอง, นางราวัลย์ เรือโป๊ะ นายก อบต.ถนนหัก เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วยตัวเอง พร้อมทั้งให้ตรวจสอบข้าวของทรัพย์สินที่ถูกเพลิงไหม้เสียหาย เพื่อรายงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และดำเนินการให้ความช่วยเหลือตามขั้นตอนต่อไป

จากการสอบถาม ผู้ที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุ พระครูโพธิธรรมรังสี เจ้าอาวาสวัดโพธารามดังกล่าว ไปรับกิจนิมนต์ ไม่ได้อยู่วัด แต่มีพระลูกวัดกำลังสอนหนังสือเด็กนักเรียนอยู่ด้านล่างของศาลาหลังดังกล่าว ได้ยินเสียงดังคล้ายระเบิดบริเวณชั้นบน พระจึงวิ่งขึ้นไปดู ก็เห็นไฟลุกไหม้ศาลาแล้ว พยายามจะเข้าไปดับ แต่ไม่สามารถดับได้ เพราะเพลิงโหมลุกไหม้อย่างรุนแรง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าสาเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้น่าจะเกิดจากกระแสไฟฟ้าลัดวงจร  อย่างไรก็ตาม ต้องรอผลตรวจจากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง