กรณี ธ.ก.ส. จ่าย เงินประกันราคาข้าว วานนี้ นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้สั่งการให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศติดตามรายงานบรรยากาศการเบิกจ่ายเงินส่วนต่างโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีที่ 3 งวดที่ 1 สำหรับเกษตรกรที่แจ้งการเก็บเกี่ยวไว้ก่อนวันที่ 15 ต.ค. 2564 ปรากฏว่าเกษตรกรต่างเดินทางมายังธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพื่อเบิกเงินและกดเงินจากตู้ ATM กันอย่างคึกคัก ซึ่งจังหวัดที่มีบรรยากาศส่วนใหญ่เป็นจังหวัดที่มีการเพาะปลูกข้าว
ทั้งนี้ เงินส่วนต่างงวดแรกที่จ่ายของปีการผลิต 2564/65 เกษตรกรจะได้รับเงินสูงสุดของข้าวแต่ละชนิด ดังนี้ ข้าวเปลือกหอมมะลิได้สูงสุด 57,900.78 บาท ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ 57,524 บาท ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี 26,303.25 บาท ข้าวเปลือกเจ้า 58,038.6 บาท และข้าวเปลือกเหนียว 69,399.52 บาท โดยเกษตรกรต่างมีความพึงพอใจ ส่วนเกษตรกรที่ปลูกข้าวจำนวนลดหลั่นลงไปก็จะได้รับส่วนต่างตามสิทธิ์ของตนที่ระบุไว้
สำหรับการจ่ายเงินส่วนต่างในงวดต่อไป นายจุรินทร์ได้นำเสนอในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อให้ความเห็นชอบเกี่ยวกับการจ่ายเงินแล้ว เพราะจะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายมาตรา 28 ของ พ.ร.บ.การเงินการคลังที่ต้องรายงาน ครม.อนุมัติงบประมาณก่อนดำเนินการ
อย่างไรก็ตาม โครงการประกันรายได้ปีที่ 3 ได้กำหนดเงื่อนไขประกันรายได้รายข้าวความชื้น 15% จำนวน 5 ชนิด ได้แก่ ข้าวเปลือกหอมมะลิ ประกันรายได้ 15,000 บาทต่อตัน จำนวน 14 ตัน ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ 14,000 บาทต่อตัน จำนวน 16 ตัน ข้าวเปลือกหอมปทุม 11,000 บาทต่อตัน จำนวน 25 ตัน ข้าวเปลือกเจ้า 10,000 บาทต่อตัน จำนวน 30 ตัน ข้าวเปลือกเหนียว 12,000 บาทต่อตัน จำนวน 16 ตัน
ด้าน นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่าว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรั และ รมว.กลาโหม เป็นประธาน ได้มอบหมายให้กระทรวงการคลังไปหารือร่วมกับสำนักงบประมาณ เพื่อหาแหล่งเงินมาใช้ในโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ฤดูกาลผลิต 2564/65 ที่กระทรวงพาณิชย์เสนอมา จำนวน 89,306 ล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติงบประมาณก้อนแรก จำนวน 13,000 ล้านบาท โดยยังเหลือภาระที่ต้องเร่งหางบประมาณมาใช้ในโครงการอีก จำนวน 76,000 ล้านบาท
“คลังจะหารือกับกับสำนักงบประมาณก่อน ดูรายละเอียดร่วมกันเกี่ยวกับแหล่งเงินที่จะนำมาใช้ในโครงการประกันราคาข้าว ว่ามีแหล่งเงินจากตรงไหนบ้าง งบกลางก็ต้องดูด้วย ตอนนี้คงยังบอกอะไรไม่ได้ ต้องคุยกันก่อนถึงจะสรุปได้ โดยขณะนี้ยังต้องใช้เงินอีกราว 76,000 ล้านบาท เพื่อจ่ายให้เกษตรกร โดยการจ่ายเงินก็จะทยอยจ่ายเป็นงวด ๆ ตามผลผลิตที่จะออกมา ประมาณ 2-3 เดือนนี้ หรือในช่วง พ.ย. 2564 – ม.ค. 2565” นายอาคม กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เช็กเลย! ประกันรายได้เกษตรกร ผู้ปลูกข้าว เปิดราคาเกณฑ์กลาง ปี 64/65 ก่อนโอนเงิน 9 พ.ย. นี้
- เงินประกันรายได้ข้าว จ่ายงวดแรก 9 พ.ย. นี้ ผ่าน ธ.ก.ส. อ้างอิงราคาโครงการประกันรายได้เกษตรกร
- ธ.ก.ส. โอนแล้ว เงินประกันรายได้เกษตรกร ผู้ปลูกข้าว 5 ชนิดปี 2564/65
