ผัวเก่ารับแล้วแค้นแทนเมียแทงผัวใหม่คาบ้าน ญาติเดือดจวกสาวนกต่อลวงฆ่า (คลิป)

จากกรณีนายอนุชา ปลอดอ่อน หรือ ยอด อายุ 40 ปี ถูกแทงเสียชีวิตใน ต.นาทราย อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช สภาพศพนอนคว่ำหน้า ร่างกาย และศีรษะโชกไปด้วยเลือด มีบาดแผลถูกตีศีรษะด้วยของแข็ง ส่วนตามลำตัวมีบาดแผลถูกแทงด้วยอาวุธมีดหลายจุด โดยเฉพาะหน้าอกซ้ายเป็นแผลฉกรรจ์ น่าจะเป็นจุดที่ทำให้เสียชีวิต

ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัว นายสมศักดิ์ ยิ่งประดิษฐ์ หรือ คิง อายุ 33 ปี แฟนเก่าของ น.ส.วรรณวิษา เจดีรัตน์ หรือ ฝน อายุ 26 ปี ซึ่งเป็นแฟนใหม่ของผู้ตาย

วันที่ 6 พ.ย. 64 เวลา 11.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน และพนักงานสอบสวนคุมตัว นายสมศักดิ์ ยิ่งประดิษฐ์ หรือ คิง ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ จุดแรกที่บ้านของ น.ส.ฝน แฟนเก่าผู้ต้องหา เริ่มจากบริเวณหน้าบ้าน นายคิง ขับรถจักรยานยนต์มาจอด ส่วนคนตายนั่งอยู่ที่แคร่ใต้ถุนบ้าน

จากนั้น นายคิงเดินไปหาคนตายมีการถกเถียงกันเรื่องรถยนต์ของ น.ส.ฝน ที่นายอนุชา หรือ ยอด ผู้ตายนำไปจำนำ นายยอดใช้หมวกกันน็อกตีนายคิง 2 ครั้ง นายคิงจึงเดินเข้าไปในครัวเพื่อหยิบมีดสั้นในกระเป๋าสะพายที่แขวนเอาไว้ โดยระบุว่ากระเป๋าเป็นของตัวเองที่ทิ้งไว้ที่บ้านน.ส.ฝนนานแล้ว แต่มีดเป็นของผู้ตาย

เมื่อหยิบมีดเสร็จได้เก็บมีดไว้ในกระเป๋ากางเกง ก่อนออกมาโทรศัพท์หาน.ส.ฝน ให้รีบกลับมาที่บ้านระหว่างนั้นนายยอดเดินขึ้นไปบนถนนจึงเดินตามไป โดยนายยอดหยิบหมวกกันน็อกออกมาจะตีตัวเองอีก จึงหยิบมีดออกมาแทงสวนไป 1 ครั้งที่บริเวณหน้าอกข้างซ้าย จากนั้นนายยอดวิ่งไปล้มที่บริเวณลานหน้าบ้าน ส่วนตัวเองขับรถจักรยานยนต์หนี โดยทิ้งมีดไว้ที่คลองห่างจากบ้านน.ส.ฝน ประมาณ 10 เมตร

จุดที่ 2 บ้านของนางน้อย (นามสมมติ) น้าสะใภ้ น.ส.ฝน ซึ่งเป็นจุดที่นายคิงขับรถจักรยานยนต์มาส่ง น.ส.ฝน ก่อนเกิดเหตุหลังกลับจากร้านสะดวกซื้อ

นายคิง กล่าวว่า ตนทำลงไปเพราะนายยอดรังแก น.ส.ฝน หลอกเอารถกระบะของ น.ส.ฝน ไปจำนำ ก่อนเกิดเหตุมีการถกเถียงกับนายยอดที่โกหก เอารถไปจำนำแล้วไม่เอามาคืน ซึ่งนายยอดตีตนไป 2 ครั้งที่ใต้ถุนบ้าน ก่อนจะพยายามตีอีกครั้งบนถนน ตนจึงชักมีดแทงเพื่อป้องกันตัว ยืนยันไม่ได้ตั้งใจทำ ก่อนหน้านี้ตนไม่เคยเจอนายยอดมาก่อน เพิ่งเจอครั้งแรกวันเกิดเหตุ และยืนยันว่าไม่เคยทะเลาะกัน

โดยตนไม่ได้ทำไปเพราะหึงหวง เนื่องจากเลิกรากันไปแล้ว ไม่ได้กลับมาคบกัน แค่มาช่วยดูแล เพราะสงสารที่น.ส.ฝน เครียดเรื่องรถมาก ซึ่งตนก็รู้ว่าฝนคบกับนายยอด และไม่เคยเข้าไปยุ่ง พยายามหลบตลอดเพราะไม่อยากมีปัญหากัน โดยตนอยากขอโทษครอบครัวผู้ตาย เพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นไปแล้ว ยืนยันทำคนเดียว แฟนเก่าไม่ได้เกี่ยวข้องในเรื่องนี้

จากนั้น เพื่อนของ น.ส.ฝน ได้เข้าไปกอดผู้ต้องหาและร้องไห้ ระบุว่า "ไหนบอกจะไปเที่ยวด้วยกัน ให้รีบออกมา"

ด้าน น.ส.วรรณวิษา เจดีรัตน์ หรือ ฝน แฟนผู้ตายและเป็นแฟนเก่าผู้ต้องหา กล่าวว่า ช่วงเกิดเหตุในขณะที่ตนอยู่ที่บ้านนางน้อย (นามสมมติ) น้าสาว นายคิงโทรศัพท์มาบอกว่าทะเลาะกับนายยอด ผู้ตาย โดยนายยอดใช้หมวกกันน็อกตีตัวเองแล้ว ตนจึงรีบวิ่งไปที่บ้าน ขณะนั้นเห็นนายยอดเดินไปบนถนนเลียบคลองหลังบ้าน ส่วนนายคิงกำลังเดินตามไป ตนจึงเดินเข้าไปหา โดยนายยอดใช้หมวกกันน็อกตีนายคิง ส่วนนายคิงตีกลับสวนกันไปมา 2-3 ครั้ง แต่ตนไม่รู้ว่านายคิงมีมีด โดยได้เข้าไปห้ามและผลักนายคิงออก จากนั้นผู้ตายวิ่งลงมาล้มที่ลานข้างบ้าน ตนยังไม่รู้ว่านายคิงมีมีด คิดว่าผู้ตายแค่สะดุดล้ม กระทั่งเห็นเลือดที่ตัวนายยอด

โดยสาเหตุที่นายคิงทำลงไป เพราะโกรธแค้นแทนตน ที่ผู้ตายนำรถกระบะของตนไปจำนำ ซึ่งรถกระบะคันนี้ตนเป็นคนซื้อและผ่อนเอง โดยใช้เงินดาวน์ประมาณ 70,000 บาท ผ่อนเดือนละ 11,000 บาท เป็นเงินเก็บของตัวเองของลูก และใช้สร้อยคอทองคำของตัวเอง ไม่ได้ใช้เงินของนายยอดตามที่ญาติของอีกฝ่ายให้ข่าว

ซึ่งก่อนหน้านี้ประมาณ 1 เดือน ตนติดโควิด-19 นายยอดนำรถไปใช้แล้วรถก็หายไป จนเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม ญาติของนายยอดบอกตนว่านายยอดน่าจะเอารถไปจำนำแล้ว ตนจึงสอบถามเจ้าตัวก็รับสารภาพ โดยหลังจากนั้นมีการคุยกันให้ตามเรื่องรถ วันเกิดเหตุตนพยายามโทรศัพท์ตามให้นายยอดมาหา เพราะอีกฝ่ายนัดว่าจะนำรถจักรยานยนต์ที่ยืมของตนไปใช้มาคืน ยืนยันไม่ได้ลวงมาฆ่า เพราะหากเป็นเช่นนั้นจริงก็คงไม่ให้มาที่บ้านให้ตัวเองตกเป็นผู้ต้องสงสัยแบบนี้

ที่ผ่านมาตนเล่าให้นายคิงฟังตลอด และอีกฝ่ายก็เป็นห่วงเพราะเห็นว่าตนเครียดมาก เนื่องจากตั้งใจเก็บเงินเก็บทองซื้อรถคันนี้มาด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง ยืนยันไม่มีเรื่องหึงหวง นายคิงแค่เห็นใจเพราะช่วงที่อีกฝ่ายติดคุกตนคอยดูแลตลอด เมื่อตนเครียดนายคิงก็เป็นห่วงคอยเคียงข้างเท่านั้น ส่วนสาเหตุที่ตนปฏิเสธว่าไม่รู้เรื่องในตอนแรก เพราะความกลัว เนื่องจากมีคนตายที่บ้านก็กังวลว่าจะมีความผิดไปด้วย ยืนยันไม่ได้ตั้งใจจะปกปิดเพื่อช่วยนายคิง

ด้านนางสาวสุพัตรา ปลอดอ่อน พี่สาวนายอนุชา ผู้ตาย กล่าวว่า ไม่เชื่อว่านายคิงก่อเหตุแทงน้องชายตนคนเดียว มองว่าฝน แฟนของน้องชายมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย เพราะโทรศัพท์ตามน้องชายของตนตลอด และฝนก็ไม่พูดความจริงตั้งแต่แรก เหตุการณ์ดังกล่าวน่าจะมีการวางแผนไว้แล้วล่วงหน้า มีดที่ใช้ก่อเหตุก็น่าจะเป็นมีดยาว ไม่ใช่มีดสั้นตามที่ผู้ต้องหาอ้าง เพราะแผลน้องชายที่ถูกแทงบริเวณหน้าอกค่อนข้างลึก การจะอ้างว่าป้องกันตัวก็ฟังไม่ขึ้น เพราะน้องชายของตนไม่มีอาวุธอะไรเลย แต่อีกฝ่ายมีมีด ส่วนที่บอกว่าทำไปเพราะสงสารฝนเรื่องรถยนต์ ผู้ต้องหาเป็นแฟนเก่าก็ไม่น่าจะเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้

ทั้งนี้ ตนยังไม่ได้คุยกับ น.ส.ฝน มีเพียงการติดต่อเข้ามาผ่านญาติอีกคน โดยตนไม่อยากให้อีกฝ่ายมาร่วมงานศพเพราะญาติยังทำใจไม่ได้ ส่วนใหญ่ยังเชื่อว่าฝนรู้เห็นด้วย

ขณะที่กล้องวงจรปิดหน้าร้านสะดวกซื้อ เวลา 19.30 น. จับภาพนายคิง ผู้ต้องหา กำลังขึ้นรถจักรยานยนต์โดย น.ส.ฝน แฟนเก่าและเป็นแฟนผู้ตาย ขึ้นซ้อนท้ายขับออกไป หลังจากนั้นนายคิงไปส่ง น.ส.ฝน ที่บ้านนางน้อย (นามสมมติ) น้าสาว โดยเป็นช่วงก่อนเกิดเหตุ

ด้าน พ.ต.อ.มนเทียร เบ้าทอง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช ระบุว่า เบื้องต้นผู้ต้องหารับสารภาพ มีการแจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพกพาอาวุธมีดไปในเมืองทางสาธารณะ