แก๊งละอ่อนบังคับรุ่นน้องกินน้ำล้างเท้า พี่ฉะอีกฝ่ายก็ใช่ย่อยขนคนขู่ถึงหน้าบ้าน (คลิป)

กรณีแฟนเพจเฟชบุ๊ก "อีซ้อขยี้ข่าว ภาค 2" ได้โพสต์คลิปวิดีโอ พร้อมข้อความระบุว่า "บังคับให้เพื่อนกราบเท้าและกินน้ำล้างเท้า...ผลิตผลจากพ่อและแม่ ที่ไม่รู้จักคำว่าถุงยางอนามัย"

โดยคลิปดังกล่าว มีผู้เสียหายชื่อ นางสาวพิ้งค์ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี กำลังนั่งถือขันล้างเท้าให้กับ ด.ญ.หนึ่ง ผู้ก่อเหตุ ซึ่งกลุ่มผู้ก่อเหตุนั้น มีกันทั้งหมด 5 คน

ล่าสุดวันที่ 26 ต.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมายังบ้านโคกนาคำ อ.หนองพอก จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นบ้านของนางสาวพิ่งค์ ผู้เสียหาย แต่ทางผู้ปกครองและญาติ ไม่ขอให้ข้อมูล เนื่องจากไม่อยากเป็นข่าว

ต่อมาทีมข่าวเดินทางมายังบ้านหนองโน อ.หนองพอก จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นบ้านของ ด.ญ.หนึ่ง ผู้หญิงเสื้อเขียวในคลิป จึงได้พบกับนางสาวโบว์ (นามสมมติ) ลูกพี่ลูกน้องของผู้ก่อเหตุ ให้สัมภาษณ์ว่า ตนยอมรับว่าในคลิป คือ ด.ญ.หนึ่ง น้องสาวตน และเขาก่อเหตุจริง ส่วนสาเหตุที่ก่อเหตุ เพราะก่อนหน้านี้ นางสาวพิ้งค์ เคยพาพวกมาขู่จะทำร้ายน้องสาวประมาณ 3 ครั้ง จนน้องสาวไม่กล้าที่จะออกไปไหน เก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน กระทั่งวานนี้ (25 ต.ค.64) น้องสาวถูกกลุ่มของนางสาวพิ้งค์ เข้ามาพูดให้น้องตนเสียหาย ทำให้น้องสาวทนไม่ไหว และได้ก่อเหตุดังกล่าว

"วันนี้กลุ่มของน้องสาว 5 คน ได้ไปขอโทษนางสาวพิ้งค์ และขอโทษครอบครัวของเขาแล้ว ทั้งสองฝ่ายก็ได้ไกล่เกลี่ยกัน โดยฝั่งนั้นเรียกร้องให้ฝั่งพวกเรา จ่ายเงินให้เขาคนละ 4,000 บาท ถึงจะไกล่เกลี่ยกันแล้วก็ตามแต่เรื่องก็ไม่จบ เพราะหลังจากเช้าวันนี้ กลุ่มของน้องสาวได้ไปขอโทษ ช่วงบ่ายผู้บาดเจ็บได้โทรศัพท์หาเพื่อนของเขาให้มาหาเรื่องน้องสาวตัวเองอีก มีเด็กวัยรุ่นทั้งชายและหญิง รวม 20 คน มาจอดรถข่มขู่ที่หน้าบ้าน บางคนก็มีการพกอาวุธมีด ถืออกมาโชว์ด้วย" นางสาวโบว์ กล่าว 

กรณีที่เห็นว่า ด.ญ.หนึ่ง ให้ผู้บาดเจ็บล้างเท้าให้นั้น ตนก็ขอโทษแทนการกระทำของน้องสาวด้วย เพราะทำเกินไปจริง ๆ ถ้าตัวเองเป็นพ่อแม่ของผู้บาดเจ็บ แล้วลูกสาวไปล้างเท้าให้คนอื่นแบบนี้ ก็คงไม่พอใจเหมือนกัน แต่ปกติแล้ว ด.ญ.หนึ่ง เป็นคนเงียบ ๆ ไม่ค่อยยุ่กับใคร อยู่แต่บ้านเลี้ยงหลาน แต่ที่เขากระทำแบบนั้นเพราะเขาถูกคู่กรณีคุกคามหลายครั้ง ตนยืนยันว่าเหตุที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวกับเรื่องการแย่งผู้ชาย ตนอยากฝากถึงสังคมออนไลน์ให้หยุดแชร์คลิป และเลิกคอมเมนต์ด่าบุพการีการกระทำของน้องสาวรู้ว่าผิด ไม่ใช่ว่าตนจะไม่เตือนน้องสาว เพราะพ่อแม่ทุกคนเลี้ยงได้แค่ตัว แต่หัวใจกับนิสัยเลี้ยงไม่ได้