กรณี พ.ต.อ.ธีรวัฒน์ เลี่ยมสุวรรณ ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต สั่งการให้ตำรวจสภ.เมืองภูเก็ต ลงพื้นที่ร้านทองแห่งหนึ่ง หลังรับแจ้งเหตุคนร้ายปีนเข้าร้านทอง ก่อนจะทำร้ายเจ้าของร้านได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเหตุเกิดเวลาประมาณ 23.30 น. ของวันที่ 23 ต.ค.64 หลังรับแจ้งจึงรุดเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุห้างทองทวีชัย ถนนระนอง ต.ตลาดเหนือ อ.เมือง จ.ภูเก็ต
จากการสอบถามเจ้าของร้าน เป็นผู้สูงอายุ ทราบชื่อ นายหวังดี อินทวงศ์ อายุ 71 ปี และนางพวงเพ็ญ ศักดิ์เกษมกฤต อายุ 65 ปี ซึ่งเป็นผู้เสียหาย เล่าว่า ขณะที่นอนหลับพักผ่อนอยู่ในห้องนอนชั้น 2 ของร้านทอง ได้มีคนร้าย 1 คน ปีนหลังคาบ้าน เจาะฝ้าเพดานห้องน้ำชั้น 2 และปีนลงมาที่ห้องนอน บังคับให้พาไปเอาทองที่อยู่ในตู้ชั้นล่างของร้าน
กระทั่งวันที่ 25 ต.ค.64 ที่ผ่านมา ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ รอง ผบช.ภ.8 พร้อมด้วยพล.ต.ต.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ รอง ผบช.ภ.8 และพิสูจน์หลักฐานเข้าพื้นที่จุดเกิดเหตุอีกครั้ง โดยให้นางเบญจพร (สงวนนามสกุล) เจ้าของร้าน ไปชี้จุดเกิดเหตุ พาขึ้นไปที่ห้องนอนบนชั้น 2 ของบ้าน ซึ่งมีห้องน้ำในตัว
ในส่วนของเพดานห้องน้ำเกิดความเสียหายแตกเป็นจุดใหญ่ แต่คนร้ายไม่สามารถลงมาได้ เพราะคานของฝ้าเพดานค่อนข้างแคบ ซึ่งคนร้ายเปลี่ยนไปเปิดหลังคาบ้าน แล้วย่อนตัวลงมา ด้วยการเปิดแผนฝ้าเพดานห้องนอน แล้วกระโดดลงบนที่นอน แต่ไม่มีใครอยู่ในห้องนอน
จากนั้นพาไปดูจุดคนร้ายหลบหนี ซึ่งเป็นระเบียงหลังห้องนอนบนชั้น 2 ของบ้าน มีบ้านร้างหลังใหญ่อยู่ด้านหลัง ซึ่งลักษณะของบ้านค่อนข้างติดกัน เพราะเป็นอาคารพาณิชย์ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบพื้นที่ พบว่ามีช่องทางการปีนป่ายไล่ลำดับจนลงมาสู่พื้นดินด้านหลังได้
ต่อมานางเบญจพร เจ้าของร้าน พาไปดูบริเวณชั้นล่างของบ้าน ถ้าลงบันไดมาแล้วจะพบห้องครัว ซึ่งมีมีดทำครัวปลายแหลมอยู่ คาดว่าผู้ก่อเหตุหยิบไปจากในครัว จากนั้นเดินไปบริเวณห้องโถงกลางบ้าน ในขณะที่นางพวงเพ็ญ และนายหวังดี ผู้บาดเจ็บ กำลังนั่งดูโทรทัศน์และหันหลังให้กับห้องครัว จึงถูกคนร้านใช้อาวุธมีดจี้ ด้วยความตกใจนายหวังดี จึงต่อสู้ถูกคนร้ายทุบตีที่แขน และศีรษะจนล้มลง จากนั้นคนร้ายหันมาบังคับให้นางพวงเพ็ญ เปิดตู้เซฟที่อยู่ในห้องนั่งเล่น
ในตอนแรกนางพวงเพ็ญ ไม่ยอมเปิด จึงถูกตีที่ศีรษะ 3-4 ครั้ง ทนไม่ไหวจึงเดินไปเอากุญแจยอมไปเปิดตู้เซฟ จากนั้นคนร้ายก็ขนทองออกไป เป็นทองรูปประพรรณ น้ำหนักประมาณ 100-200 บาท แล้ววิ่งหนีกลับไปที่เดิมบนชั้น 2 โดยหลบหนีทางระเบียงหลังบ้าน
ล่าสุดวันที่ 26 ต.ค.64 มีรายงานว่าชุดสืบสวนบก.สส.ภ.8 และชุดสืบสวนกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต ได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยเป็นแรงงานต่างด้าวจำนวน 1 คน ได้ที่บริเวณห้องพัก ถนนวิชิตสงคราม ต.ตลาดเหนือ อ.เมือง จ.ภูเก็ต และได้คุมตัวไปสอบปากคำที่บก.สส.ภ.8 ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต พร้อมกับประสาน พฐ.เก็บดีเอ็นเอบุคคลต้องสงสัยดังกล่าวมาเปรียบเทียบกับดีเอ็นเอจากเหงื่อที่ พฐ.เก็บตัวอย่างมาจากภายในร้านทองทวีชัย ในเบื้องต้นทราบว่าได้ตรวจยึดทองรูปพรรณและเงินสดไว้แล้วแต่ยังไม่แน่ชัดว่าจะอยู่ครบหรือไม่
นางเบญจพร (สงวนนามสกุล) เจ้าของร้านทอง กล่าวว่า ตนอาศัยอยู่กทม. โดยปกติแล้วที่ร้านแห่งนี้ จะมีนายหวังดี และนางพวงเพ็ญ ซึ่งเป็นเครือญาติพี่น้องกัน โดยวันเกิดเหตุวันที่ 24 ต.ค.64 ตนได้รับแจ้งจากญาติว่า นายหวังดี และนางพวงเพ็ญ ถูกคนร้ายโรยตัวเข้าบ้านแล้วถูกตีหัว บังคับให้เปิดตู้เซฟ
สอบถามนายหวังดี บอกว่าตอนแรก นางพวงเพ็ญ ไม่ยอมเปิดตู้เซฟ เลยโดนตีไปประมาณ 3-4 ครั้ง รู้สึกเจ็บทนไม่ไหวจึงต้องยอมไปเปิดตู้เซฟให้ ซึ่งด้านนายหวังดี ก็ได้รับอาการบาดเจ็บบริเวณแขนหัก และศีรษะแตก เนื่องจากถูกคนก่อเหตุใช้ไม้ตี ในขณะที่เข้าไปช่วยนางพวงเพ็ญ ส่วนนางพวงเพ็ญ ปลอดภัยแล้ว เย็บหลายเข็ม แพทย์ยังให้ดูอาการ และยังไม่ได้มีโอกาเข้าเยี่ยมเพราะติดเรื่องมาตรการโควิด-19 สอบถามทางโทรศัพท์ทราบว่า ยังคงตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยังไม่สามารถให้ปากคำกับเจ้าที่ตำรวจได้
อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวมองว่าผู้ก่อเหตุทำเกินเหตุ ลุงกับป้าอายุเยอะแล้ว คาดว่าคนก่อเหตุน่าจะเป็นคนในพื้นที่ และทราบเส้นทางก่อเหตุ-หลบหนี รวมถึงรู้โครงสร้างตึก เพราะตึกเก่าในภูเก็ตจะเหมือน ๆ กันหมด
