ระทึกบ้านริมป่าสักถล่ม เจ้าบ้านไหวตัวทันรีบหนี ใจหายหมดตัวในพริบตา (คลิป)

กรณีโลกออนไลน์เผยแพร่คลิปวิดีโอเหตุการณ์บ้านหลังหนึ่งที่อยู่ริมเเม่น้ำป่าสักทรุดตัว ทำให้บ้านพังถล่มลงมาทั้งหลังไปต่อหน้าต่อตา ซึ่งเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเวลาประมาณ 12.00 น. ของวันที่ 13 ต.ค.64 ที่ผ่านมา ละแวกใกล้กับวัดหงสาดาราวาส ต.นาโฉง อ.เมือง จ.สระบุรี

ล่าสุดวันที่ 14 ต.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่เกิดเหตุไปยังบ้านหลังดังกล่าว อยู่ภายในพื้นที่หมู่ที่ 1 ต.นาโฉง อ.เมือง จ.สระบุรี พบว่าบ้านได้รับความเสียหาย 2 หลังที่ปลูกติดกัน เป็นบ้านไม้ 2 ชั้น 1 หลัง เเละบ้านปูนชั้นเดียว 1 หลัง โดยบ้านทั้ง 2 หลังเป็นของนางสมคิด เรียนไธสง อายุ 50 ปี ขณะนี้สภาพบ้านเหลือแต่ซาก

จากการสำรวจพบร่องรอยดินสไลด์เป็นหลุมขนาดใหญ่ กว้าง 15 เมตร ยาว 50 เมตร ลึก 5 เมตร กินพื้นที่ 3 งาน เจ้าหน้าที่ได้นำเชือกมาขึงกั้นเอาไว้ พร้อมกับติดป้ายเป็นพื้นที่อันตราย ห้ามเข้า

ขณะเดียวกันยังพบว่าพื้นที่ใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ 2 ฝั่งเเม่น้ำ ดินสไลด์เป็นระยะทางยาวกว่า 400 เมตร นอกจากนี้ ใกล้กันมีบ้านอีก 1 หลัง เป็นบ้าน 2 ชั้น ครึ่งปูนครึ่งไม้ ห่างจากจุดเกิดเหตุ 10 เมตร เจ้าของบ้านขนย้ายข้าวของไปอยู่บ้านญาติที่ต่างจังหวัดเเล้ว

ส่วนผู้ที่อาศัยในบ้านหลังที่ได้รับความเสียหาย มีทั้งหมด 11 คน เป็นครอบครัวเดียวกัน โดยบ้าน 2 ชั้น มีผู้อาศัย 9 คน ประกอบด้วย ดังต่อไปนี้ 

-นางสมคิด อายุ 50 ปี
-น้องชาย อายุ 41 ปี
-ลูกชายคนโต อายุ 30 ปี
-ลูกชายคนรอง อายุ 24 ปี
-ลูกสะใภ้คนโต อายุ 30 ปี
-ลูกสะใภ้คนรอง อายุ 26 ปี
-หลานสาว 3 คน อายุ 6, 7 เเละ 9 ขวบ

ขณะที่บ้านชั้นเดียว มีผู้อาศัย 2 คน ประกอบด้วย ดังต่อไปนี้ 

-สามีของนางสมคิด อายุ 55 ปี
-ลูกสาวคนเล็ก อายุ 16 ปี

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทั้งหมดย้ายไปอาศัยบ้านญาติในหมู่บ้านเดียวกัน เบื้องต้น อบต.ดาวเรือง ได้นำเต็นท์ขนาดใหญ่ จำนวน 2 หลัง มากางเป็นที่อยู่อาศัยให้ชั่วคราว พร้อมกับนำเตียงกระดาษมาเตรียมไว้ จำนวน 10 เตียง เพื่อใช้เป็นที่นอน เเละดูเเลด้านอาหารการกิน เป็นการเยียวยาเบื้องต้น

ทีมข่าวได้พูดคุยกับนางสมคิด เรียนไธสง อายุ 50 ปี เจ้าของบ้านที่ได้รับความเสียหาย เปิดเผยว่า บ้านหลังดังกล่าวปลูกสร้างตั้งเเต่รุ่นพ่อเเม่ มีอายุไม่ต่ำกว่า 60 ปี ที่ผ่านมามักจะถูกน้ำท่วมเป็นประจำ เเต่ไม่เคยเกิดเหตุดินสไลด์เเบบนี้มาก่อน ในครั้งล่าสุดน้ำเข้าท่วมบ้านตั้งเเต่วันที่ 30 ก.ย.64 ระดับน้ำสูง 1 เมตร ก่อนจะลดลงวันที่ 9 ต.ค.64 รวมระยะเวลาน้ำท่วม 9 วัน

สำหรับวันเกิดเหตุ (13 ต.ค.64) ช่วงเวลาประมาณ 12.00 น. ขณะนั้นมีคนอยู่ในบ้าน 2 คน คือ สามี กับลูกสะใภ้ ส่วนตนข้ามเเม่น้ำไปเก็บผัก จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงก่อไผ่หน้าบ้านลั่นดังเรื่อย ๆ เมื่อหันไปมองก็เห็นกอไผ่ค่อย ๆ จมน้ำ เเล้วดินใกล้ ๆ กอไผ่ ก็ค่อย ๆ สไลด์ตามไปด้วย ตนรู้สึกเป็นห่วงบ้านมาก ๆ จึงรีบพายเรือข้ามมา เมื่อมาถึงปรากฎว่าห้องครัวได้ถล่มไปกับดินเเล้ว ส่วนสามีก็กำลังขนย้ายข้าวของ โดยมีชาวบ้านในพื้นที่เข้ามาช่วยขน หลังจากนั้นผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง ก็ได้ยินเสียงเสาบ้านลั่น 1 ครั้ง เเล้วบ้านทั้งหลังก็พังถล่มลงมา

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนเสียใจมาก ๆ ถึงเเม้ว่าข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ จะขนย้ายออกมาได้ทัน เเต่บ้านไม่เหลือเเล้ว เเละเเย่ไปกว่านั้นคือดินที่สไลด์กินพื้นที่กว่า 3 งาน จากที่ดินทั้งหมด 2 ไร่ หายไปเกือบครึ่ง เป็นที่ดินทำกิน ตนจึงเกิดความเครียด กลางคืนก็นอนไม่หลับ จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือด้านการถมดิน หรือทำเเนวป้องกันน้ำกัดเซาะ

นายสิทธิชัย เรียนไธสง อายุ 30 ปี กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุตนทำงานอยู่ที่ต่างอำเภอ เเม่ได้โทรศัพท์ไปเเจ้งว่าบ้านทรุด จึงรีบเดินทางกลับมาดูบ้าน ตอนนั้นข้าวของในบ้านขนออกมาเกือบหมดเเล้ว เหลือเพียงห้องของตนที่ยังไม่ได้ขนอะไรออกมา ตนจึงวิ่งเข้าไปเพื่อหวังจะขนของในห้อง เเต่ปรากฏว่าจังหวะที่ตนกำลังวิ่งไป จู่ ๆ บ้านทั้งหลังก็พังถล่ลงไปต่อหน้า ทำให้ทรัพย์สินที่อยู่ในห้อง สูญหายไปทั้งหมด ประกอบด้วย ดังต่อไปนี้ 

-คอมพิวเตอร์ จำนวน 1 เครื่ง
-โทรทัศน์ จำนวน 1 เครื่อง
-สร้อยคอทองคำน้ำหนัก 25 สตางค์
-นาฬิกาข้อมือ จำนวน 1 เรือน ราคา 2,000 บาท
-เงินสด จำนวน 3,000 บาท
-เเอกสารสำคัญต่าง ๆ

ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายสุวิทย์ เรียนไธสงค์ อายุ 52 ปี สามีของเจ้าของบ้าน และเป็นผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ เปิดเผยว่า ช่วงเวลาประมาณ 12.00 น. ตนนั่งอยู่ที่ใต้ถุนบ้าน ส่วนลูกสะใภ้อยู่บนชั้น 2 จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงกอไผ่หน้าบ้านลั่น จึงหันไปมอง ภาพที่เห็นคือกอไผ่กำลังค่อย ๆ ทรุดลงเเม่น้ำ เเละดินรอบ ๆ ก็เริ่มทรุดตาม ตอนนั้นตนคิดว่าคงมาไม่ถึงบ้าน เเต่ปรากฎว่าเวลาผ่านไปไม่ถึง 10 นาที ห้องครัวได้ถล่มลงไป ตนเห็นท่าไม่ดี จึงตะโกนเรียกลูกสะไภ้ให้ลงจากบ้าน เเล้วให้ถ่ายรูปถ่ายคลิปไว้ ส่วนตนได้โทรศัพท์เเจ้งผู้นำชุมชน เเละเรียกชาวบ้านให้มาช่วยขนของออกจากบ้าน ซึ่งหลังจากขนของได้เพียง 1 ชั่วโมง บ้านก็พังลงทั้งหลังไปต่อหน้าต่อตา