แฉขบวนการขนเด็กสาวไปภูเก็ต เปย์หนักเดือนละแสน กฎพิลึกห้ามบอกที่กบดาน (คลิป)

จากกรณีเมื่อเวลา 23.00 น.วันที่ 5 ต.ค.64 ตำรวจ สภ.ละแม จ.ชุมพร รับแจ้งว่ามีเด็กหญิงจำนวนหลายคนถูกล่อลวงมาจาก จ.นครราชสีมา ว่าจะพาไปทำงานที่จังหวัดภูเก็ตก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมาจับกุมได้ที่ภายในปั๊มน้ำมันบางจาก ริมถนนสายเอเชีย 41 ขาล่องใต้ หมู่ที่ 7 ต.สวนแตง อ.ละแม จ.ชุมพร

พบรถตู้โตโยต้าสีบรอนซ์เงิน ทะเบียน นค 8690 นครราชสีมา ภายในรถพบผู้หญิง 5 คนแบ่งเป็นอายุ 19 ปี จำนวน 3 คน อายุ 14 ปี จำนวน 2 คน มีชายอายุ 63 ปี เป็นคนขับซึ่งเป็นครูเกษียณอายุ

โดยข้อมูลจากขับเจ้าของรถตู้ เล่าว่า ได้รับการติดต่อจาก น.ส.อ้อน จาก จ.ภูเก็ต ว่าให้รับญาติ ๆ ที่เป็นหญิงสาวจากหมู่บ้านอัยราจำนวน 3 คน ต.บึงทับช้าง อ.เมือง จ.นครราชสีมา แล้วแวะรับหญิงสาวที่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา อีก 3 คน รวมทั้งหมด 6 คน ออกจาก จ.นครราชสีมา เวลา 06.00 น. วันที่ 5 ต.ค. 64 ให้นำไปส่งที่ จ.ภูเก็ต เมื่อมาถึง อ.ละแม จ.ชุมพร มีเด็กหญิงฟ้าขอเข้าห้องน้ำ จึงแวะปั๊มบางจาก ริมถนนเอเชีย 41จนกระทั่งมีตำรวจมาสอบถามและเชิญตัวไป สภ.ละแม

ทั้งนี้ ข้อห้ามเมื่อรับเด็กมาแล้ว ห้ามใช้โทรศัพท์ ห้ามเช็กอินสถานที่ ห้ามคุยกับครอบครัว และให้คุยกันได้เฉพาะเรื่องงานเท่านั้น

นางเมรี่ นาคพิมาย แม่ของน้องปอ อายุ 19 ปี เปิดใจว่า ก่อนหน้านี้ทางลูกสาวบอกกับตนว่าจะไปทำงานที่ในเมืองโคราช ลักษณะงานเป็นแอดมินตอบแชต นั่งหน้าคอมพิวเตอร์เพื่อตอบลูกค้า ส่วนตัวก็ได้ขัด เนื่องจากเป็นห่วง ต่อมาข่วงประมาณวันที่ 2 ต.ต. ที่ผ่านมา เขาก็แจ้งกับตนว่าตอนนี้เขาเดินทางไปทำความสะอาดบ้านของนางสาวอ้อน หลังจากนั้นวันที่ 3-4 ต.ค. 64 น้องก็เดินทางกลับมาบ้านเพื่อสอบเทียบ เนื่องจากน้องเรียนอยู่ กศน.

ซึ่งวันที่ 4 ต.ค. 64 ช่วง 19.00 น. ลูกสาวก็มาเเจ้งกับตนว่าทางคนชื่อ "อ้อน" อยากให้ไปทำงานมนพื้นที่ จ.ภูเก็ต เนื่องจากในพื้นที่โคราชเต็มแล้ว ซึ่งตนเองก็เลยบอกลูกสาวว่าให้คนชื่ออ้อนติดต่อมาพูดคุยกับตน เพื่อสอบถามรายละเอียดและข้อมูล เพื่อให้รู้สภาพความเป็นจริงว่าเป็นอย่างไร แต่ทางด้านคนชื่ออ้อนกลับไม่ติดต่อกลับมา ส่วนตัวก็ไม่ทราบรายละเอียดของอีกฝ่าย

ตนยอมรับว่าเป็นห่วงลูก แต่ในใจหนึ่งก็เข้าใจลูกว่าเขาอยากทำงาน เพราะเขาเองบอกว่าเงินดีหากทำยอดได้เยอะ จะได้เงินถึง 100,000 บาท มาทราบข้อมูลที่หลังว่าจริง ๆ แล้วคนชื่ออ้อนเป็นคนในหมู่บ้านหนองหญ้าขาว ซึ่งเป็นคนในพื้นที่ และเคยเป็นเพื่อนของลูกสาวในอดีต ส่วนตัวก็รู้จักพ่อแม่ของเขา แต่ทางนางสาวอ้อนเองออกจากหมู่บ้านไปตั้งแต่เขาอายุ 14 ปี ทราบแค่ว่าเขาย้ายไปมีครอบครัว ขณะที่พ่อแม่ของเขาเองก็แยกทางกัน แต่คนเป็นพ่อยังอยู่ในหมู่บ้าน ที่ผ่านมาตนเห็นแค่คนชื่ออ้อนเคยขายของออนไลน์ทางเฟซบุ๊ก แต่ไม่ทราบว่ารวยมาจากอะไร

ตนยืนยันว่าหลังทราบเรื่องส่วนตัวคนเป็นแม่ก็ตกใจ เพราะตลอดระยะเวลาที่เดินทางไปวันที่ 5 ต.ค. 64 ก็ไม่สามารถติดต่อลูกได้ เพราะวันที่ลูกเดินทางไปก็มีรถตู้มารับที่หน้าบ้าน ตนเองกำลังนอนอยู่ ไม่ทราบว่ามารับช่วงไหน ทราบจากยายของน้องที่อยู่หน้าบ้านตอนนั้นบอกว่ามีรถมารับ

นางอรวรรณ แม่น้องเพลง อายุ 14 ปี เล่าว่า สำหรับความคืบหน้าของคดีนั้น ตอนนี้ยังรอทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นคนดำเนินการ สืบสวนสอบสวน ขณะนี้ทางเด็ก ๆ เองก็รอว่าทางตำรวจจะเรียกเข้าไปให้

เมื่อถามถึงสภาพจิตใจ ตอนนี้เองทางน้องมีอาการหวาดกลัว และหวาดระเเวงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ถึงขั้นที่น้องเองบอกกับทางตนว่าไม่อยากให้คุณแม่สัมภาษณ์กับสื่อ เนื่องจากมีบางที่บางสำนักไปลงข้อมูลที่ไม่ตรงความจริง ทำให้น้องเองถูกข่มขู่จากคู่กรณีว่า "ยังอยากจะอยู่ในพื้นที่อีกไหม" ทำให้น้องเกิดความกังวล ตนอยากให้เรื่องราวที่เกิดขึ้นจบลงด้วยเร็ว