ทนาย "ประจักษ์ชัย" โต้ เรื่องสอบภาษีค่ายเพลงเป็นแผนร้าย หวังชิงตัวนักร้องสาว หากอีกฝ่ายไม่หยุดจะเจอดี

จากกรณีการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายและการอยากเป็นอิสระจากค่ายไหทองคำ ระหว่าง “อาม ชุติมา” นักร้องลูกทุ่งสาวและนักแต่งเพลงชื่อดัง กับ “นายประจักษ์ชัย เนาวรัตน์” หรือ ประจักษ์ชัย ไหทองคำ ผู้บริหารของค่ายไหทองคำนั้น (อ่าน : รบให้สุด! ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมยัน "อาม ชุติมา" รับงานแสดงได้ ลั่นสอบภาษีนายทุน)

วันที่ 30 ต.ค. 61 นายบุญถาวร ปัญญามณีโชติ ทนายความ และเพื่อนของนายประจักษ์ชัย เนาวรัตน์ ไลฟ์เฟซบุ๊กเพื่อชี้แจงถึงกรณีดังกล่าว โดยมีใจความว่า หลังจากกรณีพิพาทของนักร้องสาวและประจักษ์ชัย ไหทองคำ มีการฟ้องร้องต่อศาลไปแล้ว ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ เป็นการแย่งตัวนักร้องของบริษัทค่ายเพลงแห่งหนึ่ง ซึ่งค่ายเพลงไหทองคำของนายประจักษ์ชัยเองก็ทราบเรื่องนี้มาตั้งแต่ 5-6 เดือนมาแล้ว และได้รวบรวมหลักฐานต่าง ๆ ไว้แล้วเช่นกัน โดยค่ายเพลงดังกล่าวได้ใช้ยุทธวิธีและวางแผนโดยการใช้สื่อมวลชนเข้ากดดันนายประจักษ์ชัยและค่ายเพลงไหทองคำ เพื่อหวังมาฉกเอาตัวนักร้องโดยใช้กฎหมาย ยกข้อสัญญาขึ้นมาอ้าง เพื่อให้นักร้องสาวออกจากค่ายเพลงโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไร ซึ่งบุคคลดังกล่าวนี้ ตนขอเรียกว่า "หนุ่มรูปหล่อ"

ส่วนเรื่องที่กล่าวอ้างว่าค่ายเพลงของนายประจักษ์ชัยเลี่ยงจ่ายภาษีจำนวน 150 ล้านนั้น ตนยืนยันว่าค่ายเพลงไหทองคำเสียภาษีอย่างถูกต้อง และเรื่องยูทูบนั้น แม้ว่าเพลงจะมีคนเข้าชมหรือยอดไลค์มากขนาดไหน แต่ก็ใช่ว่าจะได้เงินตามจำนวนของยอดไลค์ อีกทั้งการที่ค่ายเพลงไหทองคำจะสามารถเลี่ยงจ่ายภาษีถึง 150 ล้านบาทนั้น ตนก็ขอให้คำนวนกันเอาเองว่าค่ายเพลงไหทองคำนี้ จะต้องมีรายได้ทั้งหมดเท่าไร จึงจะสามารถเสียภาษีจำนวนมากถึงขนาดนั้น เนื่องจากค่ายเพลงไหทองคำเองก็เพิ่งโด่งดังได้ไม่กี่ปี ดังนั้น เรื่องการกล่าวหาว่าค่ายเพลงไหทองคำเลี่ยงภาษี จึงถือเป็นการใส่ร้ายป้ายสีจากขบวนการดังกล่าว ซึ่งเรื่องนี้ ตนเองก็มีหลักฐานเช่นกัน คือ คลิปเสียงขณะที่ผู้เกี่ยวข้องวางแผนเรื่องดังกล่าว แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ด้วยมารยาท เพราะถ้าเปิดเผยออกมา "หนุ่มรูปหล่อ" ก็อาจจะโป๊ะแตกได้ นายบุญถาวร กล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้งนี้ หาก "หนุ่มรูปหล่อ" ยังไม่ยอมยุติเรื่องดังกล่าว ฝ่ายตนจึงจะยื่นเรื่องตรวจสอบภาษี "หนุ่มรูปหล่อ" บ้างเช่นกัน