กรณีเมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 23 ส.ค. 64 ร.ต.อ.วิชัย อำพันธ์ ร้อยเวร สภ.เกาะนางคำ จ.พัทลุง รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 9 ว่าพบรถเก๋ง 7 ที่นั่ง สีขาว เสียหลักแหกโค้งตกในสระน้ำลึก 5 เมตร ริมถนนสายชะแล้–ปากพะยูน ม.1 ต.เกาะนางคำ อ.ปากพะยูน หลังรับแจ้งจึงเดินทางรุดสอบที่เกิดเหตุ พร้อม พ.ต.อ.เชาวลิต เพชรศรีเปีย รอง ผบก.ภ.จว.พัทลุง และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยพัทลุงพะยูน ลงพื้นที่ตรวจสอบ
โดยที่เกิดเหตุเป็นเส้นทางโค้งในสระน้ำ เจ้าหน้าชักลากรถคันดังกล่าวขึ้นจากสระ ภายในรถตรงเบาะด้านหลังคนขับมีผู้เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อ พ.ต.ต.ประจวบ สุวรรณรัตน์ อายุ 53 ปี สารวัตรสืบสวนกองบังคับการตำรวจภูธรภาค 9 โดยเสียชีวิตมาแล้ว ไม่ต่ำกว่า 12 ชั่วโมง
ล่าสุดวันที่ 24 ส.ค. 64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ สภ.เกาะนางคำ อ.ปากพยูน จ.พัทลุง พบว่ารถเก๋งคันดังกล่าว ทะเบียน ขง 6306 อยู่ในสภาพพังยับเยิน ประตูฝั่งขวาของรถอยู่ในสภาพบุบเบี้ยว กระจกข้างและกระจกหน้าแตกยับ ภายในรถมีคราบโคลนและเศษวัชพืชติดอยู่
พ.ต.ท.สมยา คงวงค์ สารวัตรสอบสวน สภ.เกาะนางคำ ให้ข้อมูลว่า จากการสืบสวนทราบว่า ในวันเกิดเหตุ พ.ต.ต.ประจวบ สุวรรณรัตน์ นัดหมายต้องไปสางคดียิงคนตัดไม้ และรวมกำลังรวมกำลังพลที่ อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง ในเวลา 06.30 น.
ในวันเกิดเหตุ เวลา 04.00 น. พ.ต.ต.ประจวบ ออกเดินทางจากบ้านใน ต.บ่อแดง อ.สทิงพระ จ.สงขลา มุ่งหน้าไปยังจุดนัดหมายใน อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง โดยใช้ถนนสายชะแล้–ปากพะยูน แต่ผู้ตายขาดการติดต่อไป ภรรยาได้โทรศัพท์หาประมาณเวลา 09.00 น. แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ จึงได้ขอให้ชุดสืบสวนที่เป็นเพื่อนกันเช็กสัญญาณโทรศัพท์ พบว่าสัญญาณขาดหายไปในพื้นที่ ม.1 ต.เกาะนางคำ อ.ปากพะยูน จ.สงขลา ชุดสืบสวนจึงลงพื้นที่เกิดเหตุ ก็พบรถของผู้ตายจมอยู่ในบ่อ
ขณะเดียวกันทีมข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ วัดเกาะแกง ม.1 ต.เกาะนางคำ อ.ปากพะยูน จ.สงขลา ซึ่งอยู่ก่อนถึงจุดเกิดเหตุประมาณ 2 กิโลเมตร พบว่าเวลาประมาณ 05.21 น. ของช่วงเช้ามืดวันที่ 23 ส.ค. 64 รถของพ.ต.ต.ประจวบ ได้ขับผ่านกล้องวงจรปิดและมุ่งหน้าไปทางจุดเกิดเหตุด้วยความเร็ว ซึ่งเป็นรถคันเดียวบนถนน ไม่มีรถคันอื่นขับตาม
ทีมข่าวลงพื้นที่วัดบ่อแดง ต.บ่อแดง อ.สทิงพระ จ.สงขลา ซึ่งเป็นที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพของพ.ต.ต.ประจวบ สุวรรณรัตน์ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า มีทั้งเพื่อนตำรวจชุดกองบังคับการตำรวจภูธรภาค 9 และเพื่อนๆตำรวจมาร่วมแสดงความเสียใจ
ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นางปาริชาติ (สงวนนามสกุล) อายุ 47 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ตนพยายามติดต่อสามีตั้งแต่เวลา 6 โมงเช้าถึง 4 โมงเย็น แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ จึงขอให้เพื่อนตำรวจช่วยเช็กข้อมูลโทรศัพท์ พบว่าสัญญาณขาดหายไปในช่วงอ.ปากพะยูน ตนและครอบครัวจึงออกติดตามไปยังจุดดังกล่าว เวลา 19.00 น. ก็พบบ่อน้ำและพบว่ารถสามีจมอยู่ในน้ำ ซึ่งเมื่อกู้ขึ้นมาพบว่ากระจกข้างแตกทั้งหมด ร่างของสามีอยู่ที่บริเวณเบาะหลัง ตนเชื่อว่าการตายครั้งนี้เป็นเพียงอุบัติเหตุ คงไม่ใช่การฆาตกรรม รวมถึงการตรวจสอบกล้องวงจรปิดก็พบว่ามีรถสามีเพียงคันเดียว ซึ่งตนก็ไม่คิดว่าเหตุการณ์นี้ จะทำให้ตนสูญเสียเสาหลักไป
อย่างไรก็ตาม ตนยอมรับว่าสามีมีโรคประจำตัว บางครั้งกล้ามเนื้อจะอ่อนแรง ร่างกายซีกซ้ายอ่อยแรง แต่ตนก็ไม่รู้ว่าจะเกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุครั้งนี้หรือไม่ เพราะสามีก็เป็นคนที่ชำนาญเส้นทาง มักจะขับผ่านถนนดังกล่าวเป็นประจำ จึงไม่รู้ว่าเหตุใดจึงทำให้สามีขับรถลงบ่อ ส่วนลูกชายคนโตเพิ่งจะเรียนจบปริญญาตรี เขาก็เสียใจมาก ๆ วันนี้เพื่อน ๆ ตำรวจมาร่วมงานเป็นจำนวนมากก็ทำให้ตนรู้สึกดีที่เพื่อน ๆ รักสามีของตนขนาดนี้ ตนขอให้สามีไปอย่างสงบ หลับสบาย และไปสู่ภพภูมิที่ดี
Advertisement